ผบ.ตร.เผย รัฐรอดูผลการปฏิบัติการลดปัญหาอาชญากรรม 20% ของ ตร.ตามโครงการไทยวิวัฒน์ หากได้ผลจะนำไปบังคับใช้ทั่วประเทศ พร้อมสั่งเน้นเรื่องปราบยาเสพติด มอบหัวหน้าสถานีสอบขยายผลด้วยตัวเองทั้งรายย่อย-รายใหญ่ ส่วนมาตรการเคอร์ฟิวเด็ก 18 ผบ.ตร.ยันเป็นการขอความร่วมมือผู้ปกครองไม่ให้ปล่อยปละละเลยปล่อยเด็กไปทำพฤติกรรมที่ไม่ได้เหมาะสม ไม่ได้สั่งห้ามออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ บช.น.เป็นหน่วยงานนำร่องในการลดปัญหาอาชญากรรมให้ได้ 20% ว่า วันนี้ได้ประชุมบริหารเพื่อเป็นการขับเคลี่อนตามโครงการไทยวิวัฒน์ของรัฐบาล ให้ผู้บัญชาการได้ทราบ ซึ่งรัฐบาลบอกว่าถ้าดำเนินการตามแผนแล้วได้ผล จะนำไปบังคับใช้ทั่วประเทศ ทั้งในเรื่องของมาตรการการบูรณาการกำลัง การปรับสภาพแวดล้อมให้มีแสงสว่างหรือการติดซีซีทีวี การแสวงหาความร่วมมือกับประชาชน
นอกจากนี้ เน้นเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดของ ซึ่ง สตช.ได้มีคำสั่งไปให้ตั้งศูนย์ไปแล้ว ในระดับ สตช.ก็มี ผบ.ตร.เป็นผู้รับผิดชอบเอง ในระดับกองบัญชาการก็มีผู้บัญชาการรับผิดชอบ ขณะเดียวกันนำมาตรการสอบสวนขยายผลมาใช้ ซึ่งเราใช้ได้ผลมาแล้ว นอกจากนี้ สตช.ยังมีคำสั่งให้หัวหน้าสถานีของทุกสถานีเป็นผู้สอบสวนขยายผลด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมผู้ค้ารายย่อย รายเล็กรายน้อยก็ตาม หัวหน้าสถานีต้องสอบสวนเพื่อจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ขึ้นไป นี่คือมาตรการหนึ่งนอกเหนือจากการปฎิบัติการล่อซื้อ
พล.ต.อ.วิเชียรยังกล่าวถึงมาตรการป้องกันอาชญากรรม โดยมาตรการหนึ่งคือ ขอความร่วมมือประชาชนให้ดูแลบุตรหลานอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ให้ออกมากระทำผิดว่า มาตรการนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก 2546 ที่ต้องการเน้นไปยังผู้ปกครองไม่ให้ปล่อยปละละเลยให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ไปปฏิบัติพฤติกรรมไม่สมควร เป็นการบังคับให้ตัวผู้ปกครองประการหนึ่งและมีกฎหมายอีกตัวหนึ่ง คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ให้เด็กไปใช้บริการสถานที่ดังกล่าวหลังเวลา 22.00 น. ซึ่งตำรวจไม่ได้ไปห้ามเด็กไม่ให้ออกจากบ้านตอน 4 ทุ่ม ถ้าเด็กไม่มีพฤติกรรมที่มีปัญหา หรือไปทำพฤติกรรมไม่ถูกต้อง เช่น ไปก่อเหตุ ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เราต้องดูเป็นกรณีไป และการบังคับก็เป็นเรื่องของผู้ปกครอง แต่พอดีตำรวจพูดรวมกันไป กลายเป็นห้ามออกจากบ้าน 4 ทุ่ม ก็ไม่ตรงเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเลยเวลา 22.00 น. ตำรวจก็ไปตรวจร้านบริการอินเทอร์เน็ต ไม่ถือว่าเป็นการกำจัดสิทธิ ก็ต้องยอมรับว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เรียบร้อย ก็ต้องยอมเสียสละในบางส่วน เช่น เดินในที่เปลี่ยว มีลักษณะท่าทางที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินไปในที่เปลี่ยว เราก็ต้องขอไปตราวจค้น ไปดู จุดนั้นก็ต้องเสียเวลา
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุในการสัมมนาตำรวจชั้นประทวนว่า อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการรวมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. ไว้เป็นหน่วยงานเดียวกับ บช.ภ.9 ตามเดิมเพื่อแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คงตอบไม่ได้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด คงต้องไปศึกษาดูก่อน