ตร.แปดริ้วล่อซื้อยาบ้าเครือข่ายเรือนจำ

ฉะเชิงเทรา - มาอีกแล้วยาบ้าสั่งตรงจากเรือนจำ ปราบเท่าไหร่ไม่หมด หลังตำรวจแปดริ้วล่อซื้อได้ เจ้าตัวสารภาพเป็นขบวนการสั่งซื้อมาจากภายในเรือนจำชื่อดังกลางกรุง ขณะเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลหิ้วตัวบงการออกมาดำเนินคดีใหม่ หลังสาวถึงตัวขาใหญ่ได้ในคุก

วันนี้ (23 ม.ค.) พล.ต.ต.มลฑล มีอนันต์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ธนู พวงมณี ผกก.สส. ภ.จว.ฉช. และ พ.ต.ท.วินัย ยิ้มละมัย หน. ชปส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายนครชัย ใหม่ก๋งลาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.3 ต.บางขาม อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และนายอำนวย สาวจีน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.8 ต.บางปลาร้า อ.บ้านสร้าง พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 2,600 เม็ด จักรยานยนต์ 1คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มาแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา

พล.ต.ต.มลฑลกล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นผลจากการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่จะให้มีการปราบปราบยาเสพติดอย่างจริงจังและเห็นผลเป็นรูปธรรม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวการจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ จนทราบว่านายนครชัยนั้นมีพฤติกรรมเข้ามาลักลอบจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ อ.บางคล้า อ.ราชสาส์น รวมถึง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จึงได้วางแผนทำการล่อซื้อ จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางติดตัว 200 เม็ด ที่บริเวณริมถนนหน้าหอพัก เลขที่ 86 ถ.ไพบูลย์วัฒนา ต.บางคล้า อ.บางคล้า

จากนั้นจึงได้ทำการขยายผลไปติดตามจับกุมตัวนายอำนวย ซึ่งเป็นเอเยนต์นำยาบ้ามาส่งต่อให้นายนครชัย ได้ที่กระท่อมไม่มีเลขที่ในพื้นที่ ม.6 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น พร้อมของกลางยาบ้าอีก 2,400 เม็ด จึงได้ทำการควบคุมตัวมาดำเนินคดี รายแรกในข้อหามีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนรายที่ 2 ดำเนินคดีในข้อหามีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ ผู้ต้องหายังได้ยอมรับสารภาพซัดทอดไปถึงยัง นายไพรโรจน์ กิจดี ซึ่งเป็นนักโทษถูกจำคุกอยู่ภายในเรือนจำบางขวาง โดยผู้ต้องหาได้ทำการสั่งซื้อยาบ้ามาจากเครือข่ายภายในเรือนจำ ในราคามัด (2,000 เม็ด) ละ 230,000 บาท ก่อนที่จะนำมาจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้ารายย่อย ในราคาถุง (200 เม็ด) 25,000 บาท

โดยการสั่งซื้อนั้น นายอำนวยจะสั่งซื้อกันทางโทรศัพท์ และจะเป็นผู้เดินทางเข้าไปรับยาบ้าจากกลุ่มเครือข่ายของนายไพรโรจน์ในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะนำมาจำหน่ายให้แก่นายนครชัย ซึ่งเป็นเอเยนต์รายย่อย รวมถึงผู้ค้ารายอื่นๆ นำออกไปจำหน่ายให้แก่นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่นภายใน จ.ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี หลังทราบถึงตัวคนบงการจากภายในเรือนจำแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผล และขออำนาจศาลออกหมายจับนายไพโรจน์จากในเรือนจำบางขวาง เพื่อนำตัวออกมาดำเนินคดีต่อไปอีกครั้ง