"จำลอง" ย้ำไม่มีวันแตกแยก "สนธิ" จะแตกก็ต่อเมื่อคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่มั่นใจไม่มีใครเปลี่ยนแน่ เนื่องจากการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมาพิสูจน์ชัดแล้วว่าเสียสละมากแค่ไหน ชี้พลังพันธมิตรฯที่ปกป้องแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง ช่วยให้ยังไม่เสียดินแดนอย่างสมบูรณ์มาจนถึงทุกวันนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง"
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกลาวบนเวที "รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ว่าพันธมิตรฯชุมนุมถึงวันนี้ 88 วันแล้ว พวกเราไม่ได้มาทำเพื่อตัวเอง แต่มาทำเพื่อบ้านเมืองเหมือนตอน 193 วัน แต่ครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่า สำคัญกว่าเพราะเป็นการปกป้องแผ่นดิน
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ แกนนำรุ่น 1 และรุ่น 2 จึงช่วยกันคิดเปลี่ยนแปลงการชุมนุม จนมีข่าวลือว่าแกนนำแตกกันแล้ว เนื่องมาจาก 2 ตอนชุมนุม 193 วัน เวลาทุ่มกว่า ของทุกวัน แกนนำทั้งหมดต้องมาปรากฎพร้อมกัน แต่คราวนี้ได้ปรับปรุงใหม่ บางคนหลายวันกว่าจะมาพูด หรือเวลาต่างกันไป มีการปรับปรุงหลายอย่างเลยลือว่าเราแตกกัน
มีการวิจารณ์มากมายว่าตนกับนายสนธิต้องแตกกัน ไม่ไม่มีทางเป็นไปได้ จะเป็นได้ต่อเมื่อใครคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนไป กลายไปเป็นคนเห็นแก่ตัว แล้วนายสนธิหรือจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแล้วว่า 193 วัน และ 88 วัน ที่ผ่านมา เขาได้แสดงความเสียสละออกมา ทุ่มจนหมดเนื้อหมดตัว ชาวเอเอสทีวีก็เสียสละกันมาก คิดดูพิธีกรเอเอสทีวีคุณภาพล้นแก้วทั้งนั้น ถ้าอยู่ช่องอื่นเงินเดือนได้ครบ เงินดี ยังสงสัยเลยมาอยู่เอเอสทีวีได้อย่างไรถ้าไม่ใช่เพราะด้วยความเสียสละอยู่ไม่ได้หรอก
ตนก็เช่นกัน หลังจากปฏิบัติธรรมก็พยายามสลัดทรัพย์สมบัติออกไป จากที่มีบ้านสองชั้นสวยงามกลางกรุง ก็เปลี่ยนเป็นไม่มีบ้านแล้ว จะเปลี่ยนไปเป็นคนเห็นแก่ตัวจนแตกกับนายสนธิได้อย่างไร ไม่มีทาง
วิจารณ์อีกว่าคนหน้าเก่าๆหายไป แล้วจะให้อยู่ครบได้อย่างไร มันแล้วแต่ความสะดวก แล้วแต่ความคิดเห็นเฉพาะกรณี ขึ้นอยู่กับความพร้อม และไม่มีการต่อสู้ครั้งใดที่คนจะอยู่คงที่เลย อย่างตนเคยต่อต้านกฎหมายทำแท้งเสรีเมื่อปี 2524 จากนั้น 2526 ก็ออกมาคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นเผด็จการ คนที่สู้ด้วยกันก็ไม่ได้มาอยู่กันครบ และจากปี 2526 มาพฤษภา 2535 ก็ไม่ได้ยกขโยงกันมาหมด บางคนก็หาย บางคนก็มา และคราวนี้มามากกว่าคราวก่อนอีก ดังนั้นไม่ต้องห่วงคราวหน้าพวกเราอาจมารวมอีกก็ได้ ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ
วิจารณ์อีกอย่างว่าคนร่วมชุมนุมน้อย มันขึ้นอยู่กับเวลาที่มานับ มานับในเวลาที่คนน้อยมันก็น้อยสิ รอให้วันไหนเป่านกหวีดมานับสิ
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกทำไม่ได้ คือปักหลักยาวนานแบบสงบ หายากมากจริงๆ ก่อนชุมนุมมีการตั้งคณะกรรมการปกป้องแผ่นดิน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ไม่ใช่พันธมิตรฯในการออกนโยบายการชุมนุม และกำกับการชุมนุม แต่มีคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรฯ เป็นผู้ทำหน้าที่
ที่ต้องเปลี่ยนชื่อคณะกรรมการ เพราะเราต้องลดบทบาทพันธมิตรฯลง ให้คนอื่นเข้ามาร่วม มีคณะกรรมการชุดใหญ่ 16 คน มีทั้งทหาร ตำรวจ นักวิชาการ นักธุรกิจ ศิลปิน มีแม้กระทั่งคนไทยในต่างประเทศ นี่เราพร้อมเพียงขนาดนี้ถึงเป็นปึกเป็นแผ่นมาถึงทุกวันนี้
"และแล้วเราก็แสดงให้เห็นว่าภาคประชาชนไม่ใช่รัฐบาลที่ช่วยเหลือปกป้องดินแดนตามขั้นตอน จนถึงทุกวันนี้ นับตั้งแต่ 27 ก.ค. 2553 ที่พวกเราหลายคนไปชุมนุมหน้ายูเนสโกคัดค้านไม่ให้ปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยสมบูรณ์ คนไปมากเกินคาดจนยูเนสโกยอมแพ้ คณะกรรมการมรดกโลกเลยเลื่อนออกไป 1 ปี และจะมีการเสนอสภาให้อนุมัติเจบีซี วันที่ 2 พ.ย. พวกเราก็ไปหน้ารัฐสภาเขาก็ยอมแพ้ เลื่อนมา 25 มี.ค. ก่อนประชุมเราก็ทำจดหมายถึงส.ส - .ส.ว. ว่าถ้าผ่านอาจติดคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต จนสภาล่ม มาอีกที 29 มี.ค. ก่อนประชุมเราได้บทความของ ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล ท่านพูดไว้เลยว่าถ้าสภาผ่านเจบีซีเสียดินแดนแน่ เราก็กำชับเหมือนเดิมว่าส.ส. - ส.ว. อาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือถูกประหาร ว่าแล้วสภาล่มอีก และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเลยถอนเรื่องจากสภาเลย นี่เป็นเพราะพลังประชาชน อยากให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมีประโยชน์อย่างยิ่ง" พล.ต.จำลอง กล่าว