"ขอฝากถึงแกนนำนปช.ว่า นับจากนี้ให้ระมัดระวัง ห้ามแตะต้องสถาบันฯโดยเด็ดขาด และ ส.ส.กับแกนนำ นปช.ให้ยุติการตอบโต้ประเด็นการเมืองโยงไปถึงสถาบันฯด้วย เพราะอาจนำไปสู่การยุบพรรค"
คำพูดสั่งเสียสุดท้ายของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาปรามลิ่วล้อแดง ไม่ให้ล่วงละเมิดต่อสถาบันสูงสุดที่คนไทยทุกคนเทิดทูนผ่านการวีดีโอลิงค์ ระหว่างการประชุมพรรคเพื่อไทยนั้น สำหรับคนในสังคมส่วนใหญ่ที่ตาสว่างกันทั้งแผ่นดินแล้ว คงไม่ให้ราคาอะไร
เพราะสิ่งที่ทักษิณสำรอกออกมา ก็ไม่ได้ต่างจากโจรที่พร่ำบอกว่า ตัวเองจะถือศีล
ใครจะเชื่อ?
แต่สำหรับคนเสื้อแดงที่พลีกายถวายหัวต่อสู้เพื่อทักษิณอย่างจงรักภักดีนั้น ควรจะได้ตรึกตรองดูให้จงหนักว่าจะยังคิดฝากผีฝากไข้เอาชีวิตตัวเองไปทุ่มเทให้กับคนใจดำที่พร้อมทิ้งคนเสื้อแดงทันที ที่เห็นว่ากำลังนำภัยมาถึงตัวต่อไปหรือไม่
เพราะคนเสื้อแดงรู้ดีว่า ทักษิณ ที่อ้างว่าเทิดทูนสถาบันฯนั้นแท้จริงคือ “ตัวพ่อ” ของคนที่ล่วงละเมิดจาบจ้วงสถาบันฯ และเตรียมแต่งตัวรอตำแหน่งใหญ่คับฟ้า หากแดงสยามและเครือข่ายคว่ำฟ้าพลิกแผ่นดินสำเร็จ
เพียงแต่เขารู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้ยังไม่ใช่จังหวะเวลาที่เขาจะก้าวสู่บัลลังก์ที่เขาใฝ่ฝัน ดังนั้นไม่ว่าแดงไหนที่ยังเดินหน้าท้าชนแบบไม่ดูทิศทางลม ก็จะถูกทักษิณเขี่ยทิ้งโดยไม่แยแส
กล่าวเช่นนี้ไม่ได้กล่าวหา แต่มีข้อเท็จจริงจากปากคำคนเสื้อแดงให้พี่น้องแดงได้ตาสว่างโดยก่อนหน้านี้ “กลุ่มแดงประชาธิปไตย” ที่รู้เช่นเห็นชาติทักษิณ ออกแถลงการณ์ถล่ม “นายใหญ่” ว่าเปลี่ยนท่าทีหวังเอาตัวรอด โดยเฉพาะท่าทีที่เกิดขึ้นหลังพบเจรจากับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในช่วงก่อสร้างถนนปรองดอง และยังมีแถลงการณ์อีกฉบับออกมาติดๆ กัน ลงชื่อโดยนายประจิณ ฐานังกรณ์ ผู้ประสานงานกลุ่มแดงประชาธิปไตย ระบุว่า ตัวเองเป็นน้องชายนายสุชาติ นาคบางไทร ตอกย้ำอีกว่าการเจรจาที่เกิดขึ้นจะทำให้ ทักษิณ ได้รับประโยชน์หลายอย่าง จนยอมทิ้งมวลชนเสื้อแดง
แถลงการณ์พยายามจะชี้ว่า เห็นด้วยกับการปรองดองที่จะต้องให้มีการประกันตัวผู้ต้องหาทางการเมืองทั้งหมด ไม่ให้มีการนิรโทษกรรมกับทุกฝ่าย ให้มีการดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งแนวทางของคนกลุ่มนี้ยังคงพยายามที่จะกล่าวหาว่า มีการเข่นฆ่าประชาชน
แต่การปรองดองตามคำสั่งทักษิณ ที่บอกว่า “บัดนี้ใครบังอาจขัดขวางความปรองดองของชาติ แสดงว่าคนๆ นั้นเห็นแก่ตัวอย่างบัดซบ” อาจจะส่งผลให้รัฐบาลได้รับการนิรโทษกรรมจากเหตุการณ์ 10 เมษา 53 และ 19 พฤษภา 53 และจะได้ปกครองประเทศตามระบอบเดิม
ขณะที่ ทักษิณ ก็อาจจะได้รับเงินคืนบางส่วนหรือทั้งหมด รวมทั้งอาจจะหมดคดีต่างๆ
ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังพยายามกล่าวหาด้วยว่า การปรองดองแบบนี้ ผู้ที่จะได้ประโยชน์ ก็คือ “อำมาตย์กับทักษิณ” ในส่วนของประชาชน ไม่ได้อะไร นอกจากตายฟรี เจ็บฟรี และก็เหนื่อยฟรี
ที่สำคัญ ทักษิณ คงไม่กล้าตำหนิคนที่อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร และ ทักษิณก็ใช้วิธีการต่อสู้ในรูปแบบ “สู้ไป กราบอำมาตย์ไป” ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทักษิณจะกล้าแก้ไขกฎระเบียบต่างๆในอนาคต
จากถ้อยแถลงของคนวงในที่ลากไส้ทุกขดของทักษิณออกมาคงเห็นแล้วว่า ทักษิณจะทิ้งแดงทั้งๆ ที่เป็นคนฟูมฟักให้กำเนิด “ลัทธิรัฐไทยใหม่” หวังคว่ำฟ้าเพื่อรักษาพรรคเพื่อไทยไว้เดินเกมในระบบ
คำถามคือคนเสื้อแดงจะให้ทักษิณหลอกใช้ไปอีกนานแค่ไหน คนเสื้อแดงที่มีความเชื่อฝังแน่นไม่ก้มหัวให้อำมาตย์จะยอมรับอาการ "สู้ไปกราบอำมาตย์ไป" ของทักษิณได้หรือไม่
คนเสื้อแดงที่ไม่มีความคิดล้มสถาบันเบื้องสูงถึงเวลาที่ต้องกลับตัวเดินออกจากเกมชิงอำนาจเพื่อตัวเองของทักษิณได้หรือยัง เพราะในขณะที่ทักษิณออดอ้อนบอกว่า "อย่าทิ้งผม...ผมจะตอบแทนบุญคุณพี่น้องที่สู้เพื่อผม"
คำถามคือมีคนเสื้อแดงรายใดได้รับการดูแลจากทักษิณบ้างหรือยัง มีแต่ตายฟรีเจ็บฟรีเหนื่อยฟรี เหมือนที่น้องชายสุชาติ นาคบางไทร ออกมาระบายความคับแค้นใช่หรือไม่
ยังไม่สายที่คนเสื้อแดงซึ่งมีความมุ่งหวังอยากเห็นชาติบ้านเมืองมีประชาธิปไตยจะได้ทบทวนแนวทางการต่อสู้ที่ถูกทักษิณลากเข้าไปเป็นเหยื่อแห่งอำนาจ เปลี่ยนตัวเองจากเหยื่อมาเป็นผู้ล่าในฐานะประชาชนที่มีสิทธิและอำนาจเต็มในการเลือกผู้บริหารประเทศ ด้วยการเลือกคนดีมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองมาเป็นผู้นำประเทศ หรือจะสั่งสอนนักการเมืองไม่เลือกใครเลยด้วยการออกเสียง “โหวตโน” ก็ย่อมทำได้
เลิกการใช้ความรุนแรงเคลื่อนไหวนอกระบบ มาร่วมยืนยันความเข้มแข็งของสังคมไทยตามวิถีประชาธิปไตยดีกว่าไหม ?