“ผมหวังว่าการกล่าวสปีดของผมในต่างแดนครั้งนี้ เนื่องในวันครบรอบที่รำลึกถึงการสลายการชุมนุมครั้งนี้ คงจะเป็นครั้งสุดท้าย หวังว่าบ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อที่เราจะได้ไปร่วมกันรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันประชาธิปไตยของเรา”
“..พี่น้องทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาจุดหนึ่ง เหมือนผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่ง มาถึงฝั่งผมต้องเดินต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะนั่งรถขึ้นภูเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนขับเรือมาส่งผม เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน หวังว่าพี่น้องจะเข้าใจว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่มาสุดทาง...”
ความจริงการพูดครั้งนั้นเท่ากับทักษิณโบกมือลาเสื้อแดงในวันครบรอบ2ปีเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองและติดอาวุธต่อสู้กับอำนาจรัฐจนมีผู้เสียชีวิตทั้งฝ่ายผู้ก่อการและเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 90 ศพ
ทักษิณฉลาดพอที่จะรู้ว่า หากเขาเดินทางต่อไปจนถึงจุดหมายคนเสื้อแดงมีแต่จะเป็นภาระรุงรังและเป็นพันธนาการที่หน่วงรั้งให้บรรลุเป้าหมายล่าช้าลง
ช่วงเวลาสองสามปีที่ทักษิณและพวกเขียนนิยายเรื่องอำมาตย์กับไพร่ขึ้นมาหลอกหลอนผู้คน ไม่เพียงแต่สะกิดต่อมของคนชั้นล่างให้รู้สึกเคียดแค้นชิงชังกับอำนาจวาสนาที่ต่ำเตี้ยแล้ว พอตัวเองและพวกยึดอำนาจรัฐได้และไต่เต้าขึ้นเป็นอำมาตย์เสียเอง การลบเลือนนิทานเรื่องอำมาตย์กับไพร่เพื่อไม่ให้มาตามหลอกหลอนตัวเองก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นเดียวกัน
ผู้ปกครองไหนจะยอมรับต่อผู้ใต้ปกครองที่เข้มแข็งกระด้างกระเดื่องเล่า
เหตุการณ์เผาเมืองพฤษภา 53 แท้จริงแล้ว เป็นเพียงเรื่องของการทวงคืนอำนาจรัฐ ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องของการต่อต้านรัฐประหาร เมื่อได้อำนาจรัฐมาแล้วทุกอย่างจึงบรรลุเป้าหมาย เงินทองที่ถูกยึดไป ถ้าแม้นว่าได้คืนมาก็ดี ไม่ได้คืนมา มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แค่ปีสองปีทรัพย์สินทุกอย่างก็ล้วนแต่พอกพูนงอกเงยกลับมาเหมือนเดิม
ส่วนไพร่ที่ผลักไปตายก็ใช้เงินภาษีประชาชนไปเจือจาน เห็นเม็ดเงินมากขนาดนี้จนตรอกครั้งหน้ายังแต่จะเกณฑ์ไพร่คนออกมาตายแทนได้มากกว่าเดิม
ยิ่งมวลชนฝ่ายตัวเองงมงายเรื่องประชาธิปไตยว่ามีความหมายแค่การไปหย่อนบัตรเลือกตั้งโดยไม่สนใจพฤติกรรมหลังจากนั้นแล้ว แทบจะไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เลือกตั้งทีก็จัดนายกรัฐมนตรีโง่งมคนหนึ่งไปให้เลือกก็เพียงพอแล้ว
ยิ่งมวลชนฝ่ายตัวเองเชื่อว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแม้คดโกงฉ้อฉลเพียงใดก็ยังดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ก็ง่ายที่จะจัดวางคนไปนั่งเป็นเสนาบดีกระทรวงต่างๆ เพื่อทำมาหากินได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ฝ่ายตรงข้ามก็สุกงอม แค่เลี้ยงดูปูเสื่อปัญญาชนที่ไม่เอาเจ้าไว้ในมือ พวกนี้งมงายเสียยิ่งกว่าใคร เพียงแต่ยึดมั่นถือมั่นคัมภีร์ฝ่ายซ้ายเก่าที่ไปร่ำเรียนมาจากป่าเขา แม้โลกทั้งโลกเขาละทิ้งอุดมการณ์เหล่านั้นไปหมดแล้ว คนเหล่านี้ก็ยังอารมณ์ค้างพร้อมจะเป็นเครื่องมือให้ทักษิณที่อ้างประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือทำมาหากินต่างผีที่ใช้โม่แป้งเพียงแลกด้วยเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ได้
ไม่รู้เหมือนกันว่า คนเสื้อแดงที่สู้จนตัวตายบาดเจ็บแลกด้วยคุกด้วยตารางตามคำยุยงให้ท้ายของแกนนำเสื้อแดง วันนี้รู้สึกอย่างไรที่ต้องนั่งดูแกนนำของเขาไต่เต้ายกฐานะขึ้นเป็นอำมาตย์เสียเอง ในขณะที่หลายคนยังคงติดคุก แถมต้องเลือกเอาคนที่โง่คนหนึ่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีปกครองตัวเอง
การมีผู้นำคนหนึ่งที่มาตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ แล้วประชาชนสามารถเลือกด้วยตัวเองว่าต้องการผู้นำแบบไหน กระทั่งมีคำกล่าวว่า ประชาชนเป็นแบบไหนก็จะได้ผู้นำเป็นแบบนั้น ดังนั้นการได้นายกฯ โง่มาคนหนึ่งก็ย่อมสะท้อนคนเลือกมานั่นเอง
ทุกวันนี้คนไทยจำนวนไม่น้อยคงอับอายที่มีนายกรัฐมนตรีที่โง่ซื่อบื้อคนหนึ่งเป็นผู้นำ ซ้ำร้ายนายกฯ รายนี้ยังขยันเดินทางไปโชว์โง่ต่างประเทศ ผมว่าต่างชาติเขาก็รู้ว่านายกฯ ไทยไม่มีสมอง เวลาไปเจรจาความเมืองกับใครต้องก้มหน้าดูโพยอยู่ตลอดเวลา
ชาติอื่นที่เป็นประชาธิปไตยเขาคงสงสัยว่า คนไทยเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยจริงๆ ไหม ประชาธิปไตยเขาให้ใช้สิทธิ์เลือกได้ แล้วทำไมยังเลือกนายกฯ ที่โง่คนหนึ่งมาเป็นผู้นำ
ทุกวันนี้คนไทยที่ไม่ได้เลือกยิ่งลักษณ์แม้จะขมขื่นอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เท่าคนที่เลือกยิ่งลักษณ์มาแบบรู้ทั้งรู้ว่าโง่ เลือกมาเป็นผู้นำแล้วยังต้องอุ้มชูให้อยู่รอดต่อไปอีก ผมไม่มั่นใจนะครับว่า คนที่เลือกยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ถ้าเพื่อนต่างชาติถามว่า คุณเลือกมาหรือเปล่า จะกล้าตอบว่าตัวเองเลือกมาหรือไม่ เพราะอายที่มีนายกฯ โง่
พวกเสื้อแดงบางคนบอกว่า ที่เลือกยิ่งลักษณ์ทั้งที่รู้ว่าโง่ เพราะต้องการสะท้อนว่า ประชาธิปไตยประชาชนเป็นผู้กำหนด เขาเลือกยิ่งลักษณ์เพื่อแสดงพลังว่า เขาเลือกทักษิณ แม้ทักษิณจะเป็นนายกฯ ไม่ได้แค่มีตัวแทนทักษิณเป็นนายกฯ ก็ยังดี
ทุกวันนี้ทักษิณก็คงจะขำ ปล่อยให้คนเสื้อแดงเข้าใจว่า ประชาธิปไตยแค่การไปหย่อนบัตรเลือกตั้งก็ดีแล้ว กว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้ทันทักษิณกับพวกก็ยังกอบโกยได้อีกมาก
วันนี้มีแต่คนในเขตเมืองที่รู้ทันทักษิณ เห็นได้จากผลเลือกตั้งที่ทักษิณมักได้คะแนนเสียงน้อยในเขตเมือง แต่คนในเขตเมืองเป็นคนส่วนน้อย ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่อยู่นอกเขตเมืองพวกนี้ยังทำให้ทักษิณกับพวกใช้วาทกรรมทางชนชั้นเป็นเครื่องมือชักนำให้หลงเชื่อได้อีกนานว่าทักษิณเป็นนักประชาธิปไตยกินได้ เพราะทักษิณเอาเงินมาหว่านแจกเพียงแต่งอมืองอเท้าก็ได้รับ
น่าสงสารก็แต่คนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในคุก วันนี้ไอ้แกนนำตัวที่บอกว่า พี่น้องเผาไปเลยผมรับผิดชอบเองไต่เต้าขึ้นเป็นอำมาตย์แล้ว
แต่ชะตากรรมของคนเสื้อแดงที่ยังติดคุกถูกแขวนไว้กับทักษิณ ถ้าทักษิณยังเอาตัวรอดไม่ได้คนเสื้อแดงก็ติดคุกไปก่อน ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผมคิดว่าคนประเทศนี้ไม่มีใครคัดค้านเลย ถ้าจะนิรโทษให้กับคนเสื้อแดงตัวเล็กตัวน้อยที่เผาบ้านเผาเมืองตามคำบงการของแกนนำ แต่พอคนตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเอาชะตากรรมไปผูกไว้กับทักษิณคนเหล่านี้ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป เพราะอย่างไรเสียคนไทยอีกส่วนหนึ่งไม่ยอมให้นิรโทษกรรมทักษิณแน่ๆ
วันนี้ทักษิณและแกนนำเสื้อแดงไม่พูดถึงคนธรรมดาที่ติดคุกเลยครับ รัฐบาลยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีใครพูดถึง ก็เพราะเขาบรรลุเป้าหมายเรื่องอำนาจรัฐแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในคุกก็ฝากชะตากรรมไว้กับทักษิณ
พวกเสื้อแดงนอกคุกก็ท่องจำว่า ทักษิณคือประชาธิปไตย แล้วช่วยกันอุ้มชูคนโง่คนหนึ่งให้ปกครองตัวเองต่อไป
“..พี่น้องทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาจุดหนึ่ง เหมือนผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่ง มาถึงฝั่งผมต้องเดินต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะนั่งรถขึ้นภูเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนขับเรือมาส่งผม เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน หวังว่าพี่น้องจะเข้าใจว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่มาสุดทาง...”
ความจริงการพูดครั้งนั้นเท่ากับทักษิณโบกมือลาเสื้อแดงในวันครบรอบ2ปีเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองและติดอาวุธต่อสู้กับอำนาจรัฐจนมีผู้เสียชีวิตทั้งฝ่ายผู้ก่อการและเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 90 ศพ
ทักษิณฉลาดพอที่จะรู้ว่า หากเขาเดินทางต่อไปจนถึงจุดหมายคนเสื้อแดงมีแต่จะเป็นภาระรุงรังและเป็นพันธนาการที่หน่วงรั้งให้บรรลุเป้าหมายล่าช้าลง
ช่วงเวลาสองสามปีที่ทักษิณและพวกเขียนนิยายเรื่องอำมาตย์กับไพร่ขึ้นมาหลอกหลอนผู้คน ไม่เพียงแต่สะกิดต่อมของคนชั้นล่างให้รู้สึกเคียดแค้นชิงชังกับอำนาจวาสนาที่ต่ำเตี้ยแล้ว พอตัวเองและพวกยึดอำนาจรัฐได้และไต่เต้าขึ้นเป็นอำมาตย์เสียเอง การลบเลือนนิทานเรื่องอำมาตย์กับไพร่เพื่อไม่ให้มาตามหลอกหลอนตัวเองก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นเดียวกัน
ผู้ปกครองไหนจะยอมรับต่อผู้ใต้ปกครองที่เข้มแข็งกระด้างกระเดื่องเล่า
เหตุการณ์เผาเมืองพฤษภา 53 แท้จริงแล้ว เป็นเพียงเรื่องของการทวงคืนอำนาจรัฐ ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องของการต่อต้านรัฐประหาร เมื่อได้อำนาจรัฐมาแล้วทุกอย่างจึงบรรลุเป้าหมาย เงินทองที่ถูกยึดไป ถ้าแม้นว่าได้คืนมาก็ดี ไม่ได้คืนมา มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แค่ปีสองปีทรัพย์สินทุกอย่างก็ล้วนแต่พอกพูนงอกเงยกลับมาเหมือนเดิม
ส่วนไพร่ที่ผลักไปตายก็ใช้เงินภาษีประชาชนไปเจือจาน เห็นเม็ดเงินมากขนาดนี้จนตรอกครั้งหน้ายังแต่จะเกณฑ์ไพร่คนออกมาตายแทนได้มากกว่าเดิม
ยิ่งมวลชนฝ่ายตัวเองงมงายเรื่องประชาธิปไตยว่ามีความหมายแค่การไปหย่อนบัตรเลือกตั้งโดยไม่สนใจพฤติกรรมหลังจากนั้นแล้ว แทบจะไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เลือกตั้งทีก็จัดนายกรัฐมนตรีโง่งมคนหนึ่งไปให้เลือกก็เพียงพอแล้ว
ยิ่งมวลชนฝ่ายตัวเองเชื่อว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแม้คดโกงฉ้อฉลเพียงใดก็ยังดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ก็ง่ายที่จะจัดวางคนไปนั่งเป็นเสนาบดีกระทรวงต่างๆ เพื่อทำมาหากินได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ฝ่ายตรงข้ามก็สุกงอม แค่เลี้ยงดูปูเสื่อปัญญาชนที่ไม่เอาเจ้าไว้ในมือ พวกนี้งมงายเสียยิ่งกว่าใคร เพียงแต่ยึดมั่นถือมั่นคัมภีร์ฝ่ายซ้ายเก่าที่ไปร่ำเรียนมาจากป่าเขา แม้โลกทั้งโลกเขาละทิ้งอุดมการณ์เหล่านั้นไปหมดแล้ว คนเหล่านี้ก็ยังอารมณ์ค้างพร้อมจะเป็นเครื่องมือให้ทักษิณที่อ้างประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือทำมาหากินต่างผีที่ใช้โม่แป้งเพียงแลกด้วยเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ได้
ไม่รู้เหมือนกันว่า คนเสื้อแดงที่สู้จนตัวตายบาดเจ็บแลกด้วยคุกด้วยตารางตามคำยุยงให้ท้ายของแกนนำเสื้อแดง วันนี้รู้สึกอย่างไรที่ต้องนั่งดูแกนนำของเขาไต่เต้ายกฐานะขึ้นเป็นอำมาตย์เสียเอง ในขณะที่หลายคนยังคงติดคุก แถมต้องเลือกเอาคนที่โง่คนหนึ่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีปกครองตัวเอง
การมีผู้นำคนหนึ่งที่มาตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ แล้วประชาชนสามารถเลือกด้วยตัวเองว่าต้องการผู้นำแบบไหน กระทั่งมีคำกล่าวว่า ประชาชนเป็นแบบไหนก็จะได้ผู้นำเป็นแบบนั้น ดังนั้นการได้นายกฯ โง่มาคนหนึ่งก็ย่อมสะท้อนคนเลือกมานั่นเอง
ทุกวันนี้คนไทยจำนวนไม่น้อยคงอับอายที่มีนายกรัฐมนตรีที่โง่ซื่อบื้อคนหนึ่งเป็นผู้นำ ซ้ำร้ายนายกฯ รายนี้ยังขยันเดินทางไปโชว์โง่ต่างประเทศ ผมว่าต่างชาติเขาก็รู้ว่านายกฯ ไทยไม่มีสมอง เวลาไปเจรจาความเมืองกับใครต้องก้มหน้าดูโพยอยู่ตลอดเวลา
ชาติอื่นที่เป็นประชาธิปไตยเขาคงสงสัยว่า คนไทยเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยจริงๆ ไหม ประชาธิปไตยเขาให้ใช้สิทธิ์เลือกได้ แล้วทำไมยังเลือกนายกฯ ที่โง่คนหนึ่งมาเป็นผู้นำ
ทุกวันนี้คนไทยที่ไม่ได้เลือกยิ่งลักษณ์แม้จะขมขื่นอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เท่าคนที่เลือกยิ่งลักษณ์มาแบบรู้ทั้งรู้ว่าโง่ เลือกมาเป็นผู้นำแล้วยังต้องอุ้มชูให้อยู่รอดต่อไปอีก ผมไม่มั่นใจนะครับว่า คนที่เลือกยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ถ้าเพื่อนต่างชาติถามว่า คุณเลือกมาหรือเปล่า จะกล้าตอบว่าตัวเองเลือกมาหรือไม่ เพราะอายที่มีนายกฯ โง่
พวกเสื้อแดงบางคนบอกว่า ที่เลือกยิ่งลักษณ์ทั้งที่รู้ว่าโง่ เพราะต้องการสะท้อนว่า ประชาธิปไตยประชาชนเป็นผู้กำหนด เขาเลือกยิ่งลักษณ์เพื่อแสดงพลังว่า เขาเลือกทักษิณ แม้ทักษิณจะเป็นนายกฯ ไม่ได้แค่มีตัวแทนทักษิณเป็นนายกฯ ก็ยังดี
ทุกวันนี้ทักษิณก็คงจะขำ ปล่อยให้คนเสื้อแดงเข้าใจว่า ประชาธิปไตยแค่การไปหย่อนบัตรเลือกตั้งก็ดีแล้ว กว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้ทันทักษิณกับพวกก็ยังกอบโกยได้อีกมาก
วันนี้มีแต่คนในเขตเมืองที่รู้ทันทักษิณ เห็นได้จากผลเลือกตั้งที่ทักษิณมักได้คะแนนเสียงน้อยในเขตเมือง แต่คนในเขตเมืองเป็นคนส่วนน้อย ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่อยู่นอกเขตเมืองพวกนี้ยังทำให้ทักษิณกับพวกใช้วาทกรรมทางชนชั้นเป็นเครื่องมือชักนำให้หลงเชื่อได้อีกนานว่าทักษิณเป็นนักประชาธิปไตยกินได้ เพราะทักษิณเอาเงินมาหว่านแจกเพียงแต่งอมืองอเท้าก็ได้รับ
น่าสงสารก็แต่คนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในคุก วันนี้ไอ้แกนนำตัวที่บอกว่า พี่น้องเผาไปเลยผมรับผิดชอบเองไต่เต้าขึ้นเป็นอำมาตย์แล้ว
แต่ชะตากรรมของคนเสื้อแดงที่ยังติดคุกถูกแขวนไว้กับทักษิณ ถ้าทักษิณยังเอาตัวรอดไม่ได้คนเสื้อแดงก็ติดคุกไปก่อน ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผมคิดว่าคนประเทศนี้ไม่มีใครคัดค้านเลย ถ้าจะนิรโทษให้กับคนเสื้อแดงตัวเล็กตัวน้อยที่เผาบ้านเผาเมืองตามคำบงการของแกนนำ แต่พอคนตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเอาชะตากรรมไปผูกไว้กับทักษิณคนเหล่านี้ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไป เพราะอย่างไรเสียคนไทยอีกส่วนหนึ่งไม่ยอมให้นิรโทษกรรมทักษิณแน่ๆ
วันนี้ทักษิณและแกนนำเสื้อแดงไม่พูดถึงคนธรรมดาที่ติดคุกเลยครับ รัฐบาลยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีใครพูดถึง ก็เพราะเขาบรรลุเป้าหมายเรื่องอำนาจรัฐแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในคุกก็ฝากชะตากรรมไว้กับทักษิณ
พวกเสื้อแดงนอกคุกก็ท่องจำว่า ทักษิณคือประชาธิปไตย แล้วช่วยกันอุ้มชูคนโง่คนหนึ่งให้ปกครองตัวเองต่อไป