“สุวิทย์” ปัดไขก๊อก หน.ทีมเจรจามรดกโลก ไปทำงานเลือกตั้ง ยันเห็นต่างจึงลาออก ด้าน “กษิต” อ้างคำสั่ง “มาร์ค” บีบทำงานต่อ โยนไปคุยนายกฯ เอาเอง ยันรัฐไม่ทรยศประเทศ ลั่นไม่กลัวคำขู่พันธมิตรฯ ปัดขัดแย้งหนัก ทำ รมว.ทส.โบกมือลา หยันถ้ามีสปิริตก็ต้องทำงานเป็นทีม คาด ผลศึกษาการมีบทบาทในตัวปราสาทเสร็จไม่ทัน มิ.ย.
วันนี้ (19 เม.ย.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยภายหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันให้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาคณะกรรมการมรดกโลกต่อไป ว่า สาเหตุของการลาออกที่ปรากฏเป็นข่าวว่าตนต้องการไปทำงานเลือกตั้งนั้น ไม่ถูกต้อง เหตุที่ต้องการลาออก เพราะยุทธศาสตร์การทำงานที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน จึงตัดสินใจเลือกที่จะลาออกจากการทำหน้าที่ ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่อย่างใด
ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุวิทย์ ลาออก ว่า เรื่องดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ ได้ยืนยันให้ นายสุวิทย์ ทำหน้าที่ต่อไป แต่หาก นายสุวิทย์ ยืนยันจะลาออก คงต้องให้เป็นเรื่องที่ นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวิทย์ ไปหารือกับนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ ได้พูดคุยกับ นายสุวิทย์ หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ได้คุยกันในการประชุมเตรียมความพร้อมก่อนประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งใช้เวลาประชุม 2-3 ชั่วโมง ได้คุยแบบเปิดอก ก็ไม่มีปัญหา ส่วนแรงกดดันจากการชุมนุมนอกสภาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายสุวิทย์ ลาออกหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่า นายสุวิทย์ เป็นนักการเมืองที่มีความอาวุโส
“ที่ผ่านมา เขาก็ขู่ตลอดเวลา รัฐบาลชุดนี้ทำตามหน้าที่ เอาความถูกต้องเป็นตัวตั้ง ไม่ได้ทำงานตามกระแส หรือการข่มขู่ ไม่ได้กลัว เพราะไม่ได้ทรยศกับประเทศชาติ ทุกอย่างทำเปิดเผย และมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการข่มขู่ด้วยความยึดมั่นถือมั่นของตนเอง ไม่ใช่มาเบี่ยงเบน บิดเบือน หรือขู่บังคับกันได้ อย่าใช้กฎหมู่มาบีบเรานะ เราไม่กลัว” นายกษิต กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุผลที่ นายสุวิทย์ ลาออก เพราะความขัดแย้งทางความคิดเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก นายกษิต กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง แค่ยอมรับว่า ความคิดที่แตกต่างมีอยู่บ้างเป็นระยะ แต่การทำงานก็มีคณะกรรมการประสานงาน ทั้งนี้ การทำงานก็ไม่ได้มีเพียงกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงทรัพย์ เท่านั้น แต่ยังมีหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และการตัดสินใจใดๆ นอกจากคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือรัฐสภา ด้วย ทั้งนี้ จะกระทบต่อการประชุมมรดกโลกในเดือนมิถุนายนหรือไม่ ตนมองว่า หากทำงานด้วยความมีสปิริต ต้องทำงานเป็นทีม
“ส่วนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ ส่วนการศึกษาแนวทางจะเข้าไปมีบทบาทในตัวปราสาทพระวิหาร มีแนวทางเข้าได้ 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การข้ามเขตแดน และ 2.วิธีซีเรียล แอปปิเคชัน ทั้งนี้ พื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ทางด้านประวัติศาสตร์ เป็นป่าเขาตามธรรมชาติที่คาบเกี่ยวกับชายแดน แต่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศเกี่ยวกับตัวปราสาทนั้น ยอมรับว่า มีแต่เป็นเรื่องภายในของเรา ทั้งนี้ ผลการศึกษาคาดว่าจะไม่เสร็จทันการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในเดือนมิถุนายน นี้” นายกษิต กล่าว