“พล.ต.อ.วิเชียร” เผยเตรียมเสนอ ครม.ขยาย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกไปอีก 30 วัน ตั้งแต่ 25 เม.ย.-24 พ.ค.อ้างสถานการณ์ยังไม่นิ่ง คาดหลังยุบสภาอาจไม่จำเป็นต้องต่ออีก เหตุหากปราศรัยใส่ความกันผิดกฎหมายเลือกตั้ง ยันให้พันธมิตรฯ ชุมนุมยืดเยื้อไม่ได้สองมาตรฐาน แต่เพราะไม่ได้ก่อความวุ่นวายรุนแรง ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีทุกคนอยู่แล้ว
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศขยายพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ที่มีการประชุมประเมินสถานการณ์กันตอนแรกนั้นจะไม่มีการต่ออายุ แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ 2-3 วันที่ผ่านมานั้นก็เลยดูแล้วว่าคงจะต้องต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต่อไป โดยในวันนี้จะมีการประชุม ศอ.รส. และในวันจันทร์นี้ (18 เม.ย.) จะเสนอรายงานต่อ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพุธนี้ (20 เม.ย.) ซึ่งคาดว่าจะต่อไปอีก 30 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงมีการต่อพ.ร.บ.ความมั่นคง แต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะยังมีการปักหลักชุมนุมอยู่อย่างต่อเนื่อง พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ถ้าเขาชุมนุมแล้วกระทำความผิด เราก็ต้องเอากำลังเข้าไประงับยับยั้ง ขอเรียนว่าที่เรียบร้อยมาในระดับหนึ่งนั้นเพราะว่ามีกำลังพลที่พร้อมอยู่ เมื่อถามว่า จากสถานการณ์ในลักษณะนี้ คงไม่ต้องต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ไปจนหมดรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า พอเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ก็อาจมีตัวกฎหมายเข้ามาช่วย เวลาหาเสียงแล้วมีปัญหาใส่ความกับฝ่ายตรงข้าม ก็ต้องมีกฎหมายมากขึ้นที่สอดคล้องกว่านี้ ก็จะทำให้ความจำเป็นในการต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงน้อยลง
ส่วนการประกาศพื้นที่อายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะเป็นการทำลายบรรยากาศการหาเสียงในช่วงของการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า เท่าที่มีการหารือ ไม่มีอะไรขัดกัน ซึ่งจากการประมาณสถาการณ์แล้วนั้น พื้นที่มีจะมีการต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะเป็นพื้นที่เดิมทั้งหมด
“พอถึงเวลาที่สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว ต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงในรอบนี้ไปจนถึงวันที่ 24 พ.ค. จนยุบสภาแล้ว ผมว่าทุกคนก็คงกลับบ้านไปหาเสียงแล้วนั้น สถานการณ์น่าจะเบาลง ตำรวจเองก็กลับไปดูแลพื้นที่ของตัวเอง” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าหลังจากวันที่ 24 พ.ค. อาจจะไม่จำเป็นต้องต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อีกหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า คาดว่าจะเป็นอย่างนั้น จริงๆ แล้วคิดว่าจะหยุดคราวนี้ แต่ด้วยสถานการณ์แล้วจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดูแลต่อ ขอยืนยันว่าที่ไม่เรียบร้อยนั้น เพราะไม่ใช่ว่าปล่อยไปเฉยๆ
ต่อข้อถามว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์ของการชุมนุมก็ไม่ได้มีการกระทำอะไรที่เป็นการผิดกฎหมาย ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็มีทุกครั้งจับซีดีหมิ่นสถาบัน ตำรวจก็มีการดำเนินการตลอด แต่เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปรวบรวมพยานหลักฐานหรือเก็บหลักฐานนั้น จึงจำเป็นต้องมีการต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ บางครั้งการที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่จึงทำให้ผู้ชุมนุมมีความเกรงอยู่บ้าง
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แต่การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งด่านตรวจหรือตั้งด่านสกัดเยอะมาก อาจทำให้ประชาชนบางส่วนคิดว่าไม่ได้รับความสะดวกสบาย พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ที่มีการตั้งด่านคือวันที่มีการประชุมสภาฯ ไม่เช่นนั้นแล้วการประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อาจไม่สำเร็จได้ เพราะมีบางฝ่ายอาจจะไปก่อกวนที่บริเวณหน้ารัฐสภา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อยู่แล้วเกิดบุกเข้ารัฐสภาไปจะทำให้การประชุมไม่สำเร็จได้
ส่วนกรณีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่มีการชุมนุมยืดเยื้อ และหลายครั้งที่ตำรวจจะขอคืนพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้นั้น พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ถ้าเราเห็นว่าไม่ได้มีอะไรร้ายแรงก็ไม่จำเป็น เพราะถ้าเราเข้าไปสลายการชุมนุมหรือยึดเวทีจนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทก็จะไม่เกิดประโยชน์ จะเป็นโทษเสียมากกว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกระทำสองมาตรฐาน เพราะมีการต้องคดีไปทุกคน แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการปล่อยปละอย่างแน่นอน เรียกว่าควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในภาวะที่จำกัด