ศอ.รส.นำตัวตำรวจที่บาดเจ็บจากการเข้ารื้อสิ่งปฏิกูลโชว์สื่อ เชื่อ โดนปาน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าตา ทำให้บาดเจ็บ ผบ.ตร.ลั่นให้เร่งหาหลักฐานออกหมายจับผู้กระทำ ขณะที่การขอคืนพื้นที่จัดงานกาชาดเหลว ขีดเส้น 18 มี.ค.เตรียมเจรจาพันธมิตรฯครั้งสุดท้าย
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่สำนักงานแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เป็นประธานการประชุม ศอ.รส.ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ชั้น 20 อาคาร 1 โดยมี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.อคฝ.ในฐานะตัวแทน ผบก.กองกำลังได้นำตัว ด.ต.ภคิน มีเพชร ผบ.หมู่งานจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา มายังห้องประชุม เพื่อให้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้น พล.ต.อ.วิเชียร ได้มอบเงินจำนวน 25,000 บาท เป็นขวัญกำลังใจ
ด.ต.ภคิน กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เมื่อเวลา 07.00 น.ของวันที่ 14 มี.ค.ได้รับคำสั่งให้เข้าปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารื้อถอนส้วมและบ่อเก็บสิ่งปฏิกูลบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยทางเจ้าหน้าที่ตั้งแถวอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเตรียมเคลื่อนแถวมายังแยกสวนมิสกวัน และในขณะนั้นได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาสมทบและยืนขวางทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตะโกนยั่วยุ จากนั้นผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณหน้าเวทีปราศรัยได้เคลื่อนการชุมนุมมาประชิดแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกลุ่มผู้ชุมนุมล้อมกรอบก่อนที่จะมีผู้ชุมนุมรายหนึ่งขว้างถุงพลาสติกมายังกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยน้ำในถุงได้กระเด็นมาถูกดวงตาบริเวณข้างขวา ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ก่อนจะถูกนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ
“จังหวะนั้นผมมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนขว้าง แต่การขว้างตั้งใจให้มายังกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยถุงนั้นไปโดนกิ่งไม้ก่อนที่น้ำกระเด็นถูกตำรวจที่ยืนอยู่ บางคนถูกที่แขน ที่ขา แต่ผมถูกเข้าตา จนรู้สึกแสบตา คอแห้ง และแสบคอ คล้ายกับโดนแก๊สน้ำตา และรู้สึกว่า กลิ่นของน้ำเหมือนน้ำยาล้างห้องน้ำ ช่วงนั้นเพื่อนตำรวจใกล้ๆ เข้ามาพยุง และนำน้ำเปล่ามาให้ล้างตา ก่อนนำส่ง รพ.” ด.ต.ภคิน กล่าว
เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมทำรุนแรงไปหรือไม่ ด.ต.ภคิน กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเราไม่ได้ใช้กำลังรุนแรงอะไร
ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะมีการตรวจสอบภาพโทรทัศน์วงจรปิด และภาพถ่ายจากหน่วยงานที่อยู่พื้นที่เกิดเหตุ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ถ้ายังไม่มีการจับกุมในตอนนี้ จะมีการรวบรวมหลักฐานและออกหมายจับต่อไป ส่วนกรณีที่กล้องบันทึกภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถถ่ายภาพขณะเกิดเหตุได้นั้นคงต้องมีการสอบสวนว่าขณะเกิดเหตุ คนถ่ายอยู่จุดใด หากเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงต้องมีการดำเนินการทางวินัย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องคุมสถานการณ์ให้ได้ ถ้าเราปล่อยให้อีกฝ่ายลอยนวล การควบคุมกำลังในการปฏิบัติหน้าที่คงไม่มีประสิทธิภาพ
ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ศอ.รส.แถลงผลการประชุม ศอ.รส.ว่า พล.ต.อ.วิเชียร ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะเข้าปฏิบัติการได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คนได้พยายามเข้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทาง บช.น.จึงได้ตัดสินใจและพิจารณาว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการขณะนั้นอาจเกิดความวุ่นวายและความไม่สงบก่อนที่จะมีคำสั่งให้เลื่อนการขอคืนพื้นที่ไปก่อน โดยผู้ที่เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่มีความผิดตาม ม.18 ฝ่าฝืนประกาศกำหนดเขตห้ามเข้าหรือให้ออกจากพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร และมีจำนวนที่แน่นอนเท่าไหร่ เนื่องจากผู้ชุมนุมบางคนนำผ้าปิดบังใบหน้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบและออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
เมื่อถามว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะต้องคืนพื้นที่ เพื่อจัดงานกาชาด พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า การปฏิบัติการในช่วงนี้อาจเกิดความรุนแรง ทำให้ต้องเลื่อนการขอคืนพื้นที่ออกไปก่อน โดยวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะเป็นวันที่ตำรวจจะเข้าไปเจรจากับผู้ชุมนุมเป็นครั้งสุดท้าย หากมีข่าวดีก็คงไม่กระทบกับงานกาชาด หากเจรจาไม่สำเร็จเราก็พร้อม แต่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่สามารถระบุได้ว่า จะเข้าปฏิบัติการเมื่อไหร่
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเจรจาย้ายพื้นที่การชุมนุมให้ไปบริเวณข้างกระทรวงการคลังหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า การกำหนดสถานที่ชุมนุมเป็นเรื่องของผู้ชุมนุม ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ถ้าผู้ชุมนุมต้องการจะย้ายพื้นที่ไปอยู่จุดใดก็ให้มาบอกเรา
เมื่อถามว่า มีกลุ่มฮาร์ดคอร์ในกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า พบว่ามีเพิ่มเติมเข้ามาบ้าง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่าตำรวจจะขอคืนพื้นที่ เพื่อจัดงานกาชาด ซึ่งตำรวจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงวันเสาร์ที่ 19 มี.ค.นี้ ว่า พล.ต.อ.วิเชียร ได้สั่งการให้ บช.น.ทำแผนรับมือการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มเสื้อแดงได้นัดรวมตัวกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ก่อนจะเคลื่อนการชุมนุมไปที่แยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่สำนักงานแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เป็นประธานการประชุม ศอ.รส.ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ชั้น 20 อาคาร 1 โดยมี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.อคฝ.ในฐานะตัวแทน ผบก.กองกำลังได้นำตัว ด.ต.ภคิน มีเพชร ผบ.หมู่งานจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา มายังห้องประชุม เพื่อให้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้น พล.ต.อ.วิเชียร ได้มอบเงินจำนวน 25,000 บาท เป็นขวัญกำลังใจ
ด.ต.ภคิน กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เมื่อเวลา 07.00 น.ของวันที่ 14 มี.ค.ได้รับคำสั่งให้เข้าปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารื้อถอนส้วมและบ่อเก็บสิ่งปฏิกูลบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยทางเจ้าหน้าที่ตั้งแถวอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเตรียมเคลื่อนแถวมายังแยกสวนมิสกวัน และในขณะนั้นได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ได้เดินทางมาสมทบและยืนขวางทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตะโกนยั่วยุ จากนั้นผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณหน้าเวทีปราศรัยได้เคลื่อนการชุมนุมมาประชิดแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกลุ่มผู้ชุมนุมล้อมกรอบก่อนที่จะมีผู้ชุมนุมรายหนึ่งขว้างถุงพลาสติกมายังกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยน้ำในถุงได้กระเด็นมาถูกดวงตาบริเวณข้างขวา ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ก่อนจะถูกนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ
“จังหวะนั้นผมมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนขว้าง แต่การขว้างตั้งใจให้มายังกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยถุงนั้นไปโดนกิ่งไม้ก่อนที่น้ำกระเด็นถูกตำรวจที่ยืนอยู่ บางคนถูกที่แขน ที่ขา แต่ผมถูกเข้าตา จนรู้สึกแสบตา คอแห้ง และแสบคอ คล้ายกับโดนแก๊สน้ำตา และรู้สึกว่า กลิ่นของน้ำเหมือนน้ำยาล้างห้องน้ำ ช่วงนั้นเพื่อนตำรวจใกล้ๆ เข้ามาพยุง และนำน้ำเปล่ามาให้ล้างตา ก่อนนำส่ง รพ.” ด.ต.ภคิน กล่าว
เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมทำรุนแรงไปหรือไม่ ด.ต.ภคิน กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเราไม่ได้ใช้กำลังรุนแรงอะไร
ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะมีการตรวจสอบภาพโทรทัศน์วงจรปิด และภาพถ่ายจากหน่วยงานที่อยู่พื้นที่เกิดเหตุ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ถ้ายังไม่มีการจับกุมในตอนนี้ จะมีการรวบรวมหลักฐานและออกหมายจับต่อไป ส่วนกรณีที่กล้องบันทึกภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถถ่ายภาพขณะเกิดเหตุได้นั้นคงต้องมีการสอบสวนว่าขณะเกิดเหตุ คนถ่ายอยู่จุดใด หากเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงต้องมีการดำเนินการทางวินัย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องคุมสถานการณ์ให้ได้ ถ้าเราปล่อยให้อีกฝ่ายลอยนวล การควบคุมกำลังในการปฏิบัติหน้าที่คงไม่มีประสิทธิภาพ
ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ศอ.รส.แถลงผลการประชุม ศอ.รส.ว่า พล.ต.อ.วิเชียร ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะเข้าปฏิบัติการได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คนได้พยายามเข้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทาง บช.น.จึงได้ตัดสินใจและพิจารณาว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการขณะนั้นอาจเกิดความวุ่นวายและความไม่สงบก่อนที่จะมีคำสั่งให้เลื่อนการขอคืนพื้นที่ไปก่อน โดยผู้ที่เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่มีความผิดตาม ม.18 ฝ่าฝืนประกาศกำหนดเขตห้ามเข้าหรือให้ออกจากพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร และมีจำนวนที่แน่นอนเท่าไหร่ เนื่องจากผู้ชุมนุมบางคนนำผ้าปิดบังใบหน้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบและออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
เมื่อถามว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะต้องคืนพื้นที่ เพื่อจัดงานกาชาด พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า การปฏิบัติการในช่วงนี้อาจเกิดความรุนแรง ทำให้ต้องเลื่อนการขอคืนพื้นที่ออกไปก่อน โดยวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะเป็นวันที่ตำรวจจะเข้าไปเจรจากับผู้ชุมนุมเป็นครั้งสุดท้าย หากมีข่าวดีก็คงไม่กระทบกับงานกาชาด หากเจรจาไม่สำเร็จเราก็พร้อม แต่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่สามารถระบุได้ว่า จะเข้าปฏิบัติการเมื่อไหร่
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเจรจาย้ายพื้นที่การชุมนุมให้ไปบริเวณข้างกระทรวงการคลังหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า การกำหนดสถานที่ชุมนุมเป็นเรื่องของผู้ชุมนุม ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ถ้าผู้ชุมนุมต้องการจะย้ายพื้นที่ไปอยู่จุดใดก็ให้มาบอกเรา
เมื่อถามว่า มีกลุ่มฮาร์ดคอร์ในกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า พบว่ามีเพิ่มเติมเข้ามาบ้าง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่าตำรวจจะขอคืนพื้นที่ เพื่อจัดงานกาชาด ซึ่งตำรวจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงวันเสาร์ที่ 19 มี.ค.นี้ ว่า พล.ต.อ.วิเชียร ได้สั่งการให้ บช.น.ทำแผนรับมือการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มเสื้อแดงได้นัดรวมตัวกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ก่อนจะเคลื่อนการชุมนุมไปที่แยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
