xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” แฉ ปชป.จับมือพรรคทหาร อาศัยเจ้าฆ่าคู่แข่งเพื่อขึ้นสู่อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ชำแหละกลยุทธ์เลือกตั้ง ปชป. ชี้ชัดแสนสกปรกไม่คำนึงถึงประเทศเลย ซัดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันอาศัยเจ้าฆ่าคู่แข่งเพื่อขึ้นสู่อำนาจมาโดยตลอด และตอนนี้ก็กำลังจับมือกับพรรคทหารฉวยโอกาส “ไอ้ตู่” จาบจ้วงสถาบันฯ เรียกคะแนนให้ตัวเอง โดยทำเป็นรีบเอาผิดทั้งๆ ที่ก่อนนี้ไม่เคยทำอะไรเลย พร้อมชี้วิธีเลือกตั้งไม่ได้มีวิธีเดียว แต่ก่อนจะสรุปแนวทาง ต้อง “โหวตโน” เพื่อให้เกิดกระแสปฏิรูปก่อน


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า ช่วงเหตุการณ์ที่พันธมิตรฯชุมนุมมานั้น ทำให้มั่นใจว่าการโหวตโนเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า วันนี้นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ออกมาเคลื่อนไหวโดยร่วมมือกับอีกพรรคหนึ่งที่ไม่ได้จดทะเบียนพรรค มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้า ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล เรียกว่าพรรคทหารนั่นแหละ เป็นการเอาทหารมาเป็นเครื่องมือต่อรองกับนักการเมือง ซึ่งจับมือกับประชาธิปัตย์อยู่ทุกวันนี้ ทำให้นายสุเทพประกาศอย่างมั่นใจว่าจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ถึงขั้นพลั้งปากว่าเพื่อไทยไม่มีทางได้กลับมา ถ้านายทักษิณได้กลับมาจะไปเช็ดรองเท้าให้เลย

แต่พอสถานการณ์ชักไม่ค่อยดี ทั้งผลสำรวจโพลล์ก็บอกว่ากระแสนิยมประชาธิปัตย์ตกมาก กระแสโหวตโนก็มากขึ้นตามลำดับ การปราศรัยของคนเสื้อแดงที่ได้รับการประกันตัวออกมา ไม่ว่าจะเป็นนายจตุพร หรืออีกหลายๆ คน ก็ได้เปิดช่องให้นายสุเทพและพรรคทหารจับมือกันตีโต้เพื่อหาคะแนนให้ตัวเอง ต้องยอมรับว่านายจตุพร และเสื้อแดง มีการพาดพิงโจมตีสถาบันฯจริง และโจมตีพาดพิงมา 5 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาพูด แต่ประชาธิปัตย์กับรัฐบาลไม่เคยทำอะไรเลย สรุปก็คือจุดกระแสนี้ขึ้นมา ปลุกผีทักษิณ ผีขบวนการล้มเจ้า เพื่อให้ประชาชนกลัวว่าถ้าไม่อยากให้ขบวนการพวกนั้นกลับมาต้องเลือกประชาธิปัตย์ มันก็คือขบวนการโจรร้องจับโจร

นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ตนไปศึกษาประวัติศาสตร์ ประชาธิปัตย์เอาวันที่ 6 เมษายน เป็นวันตั้งพรรค วันนี้ 65 ปีแล้ว เคยมีผลงานเรื่องอะไรบ้างที่แสดงออกว่าปกป้องสถาบัน  ไม่เคยมีเลย เคยอาศัยเจ้าเพื่อช่วงชิงอำนาจจากนายปรีดี โดยให้คนไปตะโกนในโรงหนังว่า ปรีดีฆ่าในหลวงรัชกาลที่ 8 ยืมมือเจ้าไปฆ่าคนโน้นคนนี้ เพื่อได้อำนาจมาปกครองบ้านเมือง วันนี้นายสุเทพก็เลยจะใช้โอกาสการอภิปรายของนายจตุพร แม้จะมีโอกาสเข้าข่ายความผิดแต่ตนไม่เชื่อขี้ปากประชาธิปัตย์ว่าจะเอาผิดได้จริง แค่เอาเรื่องนี้มาหาเสียง

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ประชาธิปัตย์แหกตาประชาชน เพื่อใช้ช่วงชิงการเลือกตั้ง มีดังนี้

1.ปลุกผีทักษิณ สร้างว่ามีขบวนการล้มเจ้า ถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะมีการนิรโทษกรรมให้นายทักษิณ ให้ประชาชนกลัว จะได้มาเลือกประชาธิปัตย์ พวกนี้ตีกิน ทั้งๆ ที่ไม่เคยสู้เพื่อเจ้าเลย  ถ้าพวกล้มเจ้าไม่ดี พวกที่ไปประกันตัวพวกนั้นออกมาก็เลวกว่า

2.สร้างภาพให้เห็นว่า อย่างไรประชาธิปัตย์ก็ยังดีกว่าพรรคอื่น พยายามพูดในหมู่ทหารและข้าราชการ ให้เห็นว่าถ้านายทักษิณมาจะทำอย่างไร มาก็ดีจะได้กระทืบกันเอง ถ้าดีจริงจะกลัวทำไมเพราะถ้าดีประชาชนก็ช่วยเอง

3.ปล่อยข่าวว่าผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ชอบนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย แต่ชอบประชาธิปัตย์ อันนี้มันแหล ความจริงแล้วเขาอิดหนาระอาใจประชาธิปัตย์แทบแย่ พึ่งพาอะไรก็ไม่ได้ นอกจากทำงานเอาหน้า ผลงานจริงๆ ไม่มี ทั้งนี้ก็เพื่อหลอกประชาชน เป็นกลยุทธ์สกปรก

4.จับมือกับพรรคทหารให้เหนียวแน่น เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน จำได้หรือไม่สมัยเลือกตั้งปี 49 ภาพจากกล้องวงจรปิดในกระทรวงกลาโหม ที่มีพรรคเล็กพรรคน้อยเข้าพบพล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เพื่อรับเงินค่าจ้างลงสมัคร ส.ส. หลีกเลี่ยงกฎ 20% เพื่อให้พรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาล คนที่เอารูปนั้นให้นายสุเทพก็ต้องเป็นคนในกระทรวงนั่นแหละ

ทั้งที่ในอดีตประชาธิปัตย์กับทหารไม่ถูกกัน แต่วันนี้มีทหารมาเล่นการเมืองจับมือกัน สังเกตเห็นได้ว่าทหารโกงหรือทำอะไรไม่ถูกต้อง รัฐบาลนี้ไม่แตะต้องเลย อย่างกรณีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้เข้าไปตรวจไม้ชี้ป่าช้า (GT200) ระหว่างที่กระทรวงวิทย์ไปตรวจ มีทหารผู้ใหญ่โทร.มาบอกว่าไม่อยากให้ไปตรวจ แต่คุณหญิงไม่สนใจไปตรวจจนรู้ว่ามันใช้ไม่ได้ อันนี้เป็นสาเหตุให้คุณหญิงถูกปลดออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ การที่จับมือเหนียวแน่นกับทหารจึงมั่นใจว่าทหารยืนอยู่ข้างประชาธิปัตย์ เพราะต้องการเอานายทหารผู้ใหญ่ไปกดทหารระดับล่างลงไป เนื่องจากกลัวว่าหากรู้ถึงความชั่วแล้วจะปฏิวัติ เลยเอาผลประโยชน์ไปประเคนให้ทหารผู้ใหญ่จนยิงปืนไม่ถูกเลย

5.พยายามต้านขบวนการโหวตโน โดยให้สมาชิกพรรค นักวิชาการ ออกมาตีโต้พันธมิตรฯ เพราะรู้ว่าโหวตโนเป็นปังตอสับคอประชาธิปัตย์

6.ใช้งบซื้อพรรคขนาดกลางที่ร่วมรัฐบาล โดยจัดงบให้ตามที่ต้องการ เพื่อซื้อใจพรรคร่วมขนาดกลาง ให้กลับมาร่วมรัฐบาลอีกครั้ง ไม่ตีจาก

7.จับมือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) องค์กรอิสระ ศาล โดยพยายามก้าวก่ายแทรกแซงด้วย เพื่อหาทางเอาเสื้อแดงกลับไปในคุกอีกรอบช่วงก่อนเลือกตั้ง เพราะกลัวว่าพวกนั้นจะออกไปหาเสียงช่วยพรรคเพื่อไทย หลายคนอาจโดนถอนประกัน และการเลือกตั้งให้ใบเหลือง ใบแดง ไม่ต้องห่วง เข้าไปแทรกแซงเรียบร้อยแล้ว และอาจถึงขั้นฟ้องเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย

8.ยึดกลไกรัฐทั้งหมดไปช่วยการเลือกตั้ง เพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลให้ได้

9.พรรคร่วมจะโกงอะไรตอนนี้รีบเสนอ รัฐบาลปล่อยให้ผ่านหมด เพราะมีข้อตกลงร่วมกันว่าหากให้ผ่านต้องยกมือให้เป็นนายกฯ

10.ดูด ส.ส.พรรคอื่น คนไหนซื้อไม่ได้มาลำบากเพราะยังต้องอาศัยชื่อพรรคเพื่อไทยถึงจะได้รับเลือกตั้ง ก็ใช้วิธีอุ้มบุญ คืออยู่ในพรรคเพื่อไทยไปจนได้รับเลือกตั้ง พอเป็นส.ส.ค่อยมายกมือช่วย

11.ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วยังแพ้ ก็มียุทธ์ศาสตร์หลอกเจ้า ดึงทหาร ให้มาช่วยหาทางให้ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ขัดขวางไม่ให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากตั้งรัฐบาล

“เพราะฉะนั้นมาชั่งน้ำหนักโหวตโน คือไม่ว่าขั้วไหนก็เลวพอกัน พรรคขนาดกลางยิ่งเลวกว่าเพราะพร้อมเสียบทั้ง 2 ขั้ว และยิ่งทั้ง 2 พรรคแย่งเป็นรัฐบาลมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่กล้าขัดใจ ยิ่งแดกได้ตามอำเภอใจ การตัดสินใจของเราในวันนี้ เรากำลังจุดกระแสการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศ เชื่อมั่นว่าการเดินแนวทางนี้จะทำให้คนทั้งประเทศหูตาสว่างและมาร่วมกับเรา วิธีการการเลือกตั้งไม่ใช่มีวิธีเดียว วันนี้มีสภาที่ปรึกษาก็เลือกตั้งมาจากกลุ่มอาชีพต่างๆ สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆ ก็มีการเลือกตั้งครึ่งหนึ่ง แต่งตั้งครึ่งหนึ่ง หลัง 14 ตุลา ก็มีการตั้งสภานิติบัญญัติ เลือกตั้งจากสาขาอาชีพมาเป็นพันคน และให้เลือกตัวแทน 200 คน มาเป็นสภานิติบัญญัติ วิธีการเลือกตั้งมีหลากหลาย ต่อไปทีมวิชาการของเราจะศึกษาเพื่อตกผลึกให้เป็นแนวทาง แต่เริ่มต้นเราต้องผลักดันให้เกิดกระแสปฏิรูปก่อนด้วยการโหวตโน นี่คือทางออกของประเทศไทย” โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรกล่าวปิดท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น