รองนายกฯ มั่นคงอ้างถอนเจบีซี เหตุคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดบันทึกยังไม่ถึงที่สุดที่จะให้สภารับรอง ชี้ต้องไปเจรจาต่อ ยันคนละเรื่องกับที่พันธมิตรฯ พูด โยน กต.แจงอาเซียน-เขมร
วันนี้ (13 เม.ย.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติถอนร่างบันทึกเจบีซีออกจากสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวานนี้ (12 เม.ย.)ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องนี้ และได้ถามความเห็นจากนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และรัฐมนตรีทุกคน ซึ่งทุกคนเห็นว่าข้อความในคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากระบวนการทำงานร่วมกันของคณะกรรมการ ผู้แทนของเราที่อยู่ในเจบีซีนั้นยังไม่สิ้นสุด ไม่ครบถ้วนถึงขั้นที่จะนำมาเสนอให้รัฐสภาให้คำรับรอง เพราะว่ารัฐสภาได้ให้กรอบในการทำงานอยู่แล้วและงานก็ยังไม่เสร็จ ต้องไปเจรจาและทำกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงวันนั้นจึงจะได้ข้อสรุปว่ากระทบต่อเขตแดนของไทยตรงไหน และต้องมีการขยับปรับเปลี่ยนตรงไหน ซึ่งตอนนั้นถึงจะนำมาเสนอขอรับความเห็นชอบของรัฐสภา โดยนี่คือการตีความตามคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ถือว่ามีการทำผิดขั้นตอนตามกฎระเบียบใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ถืออย่างนั้น คือเรื่องการปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่จะต้องนำเรื่องเหล่านี้เสนอเข้าที่ประชุมรัฐสภา ยังมีข้อสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าเรื่องไหนต้องเสนอเรื่องไหนไม่ต้องเสนอตอนไหน เพราะกฎหมายยังไม่ชัด ทำให้การตีความต่างคนก็คิดกันไปต่างๆ นานา แต่คราวนี้เห็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราต้องถือว่าเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว เมื่ออ่านโดยละเอียดก็สามารถเข้าใจได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าไม่ใช่ขั้นตอนที่จะต้องนำมาเสนอต่อรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะทำให้เข้ารังวัดของพันธมิตรฯ ที่เคยระบุว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและในที่สุดก็ต้องถอนร่าง นายสุเทพกล่าวว่า คนละอย่างกับที่พันธมิตรฯ พูดว่าผิดกฎหมาย แต่นี่ไม่ใช่การผิดกฎหมายหรือไม่ผิดกฎหมาย แต่เห็นว่าการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมาเสนอ เมื่อถามว่า การพิจารณาที่ล่าช้าจะกระทบประเทศเพื่อนบ้านคู่กรณีของเราหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า การที่เราถอนร่างบันทึกเจบีซีออกไป หมายความว่าการทำงานของคณะกรรมการเขตแดนร่วมก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ สามารถไปประชุมกับเขาได้ห้าครั้งสิบครั้งยี่สิบครั้งจนเสร็จงาน ปีสองปีห้าปีอะไรก็แล้วแต่ ถึงตอนนั้นเมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดค่อยนำมาเสนอรัฐสภา
เมื่อถามว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศต้องอธิบายตรงนี้ให้กับประเทศกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า กต.ก็ไปอธิบายเรื่องนี้ให้ทั้งทางกัมพูชาและอาเซียน หรือสหประชาชาติในวันข้างหน้าว่า ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคในการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาอีกต่อไป เพราะเมื่อก่อนถ้าไปปรึกษาหารือกันก็ต้องกลับมาขออนุมัติรัฐสภาขอความเห็นชอบ แต่ต่อไปนี้ประชุมอย่างต่อเนื่องได้เลย