“อภิสิทธิ์” อ้างความเห็นเลขาฯ กฤษฎีกา เช็กคำวินิจฉัยชัดเจบีซียังไม่เป็นตามเงื่อนไข ม.190 เหตุยังเจรจาไม่มีที่ยุติ ยันเจรจาเจบีซีต่อ เชื่อไม่ทำเขมรฟ้องศาลโลก ย้ำบันทึกไม่ได้มีสาระเกี่ยวข้องอาณาเขต
วานนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติถอนบันทึกร่างเจบีซีทั้ง 3 ฉบับออกจากสภาผู้แทนราษฎรว่า เหตุผลในการถอนบันทึกร่างเจบีซีออกจากสภา เนื่องจากเราได้ดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และได้ขอความเห็นจากนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเลขาฯ กฎษฎีกาได้บอกว่า ในคำวินิจฉัยที่เขียนในบันทึกมีความชัดเจน ว่าจะต้องมีการเจรจาอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ถึงขั้นตอนที่ศาลจะต้องพิจารณา ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าการที่จะมีการเจรจาต่อไปนั้น คือยังไม่มีข้อตกลงที่เป็นข้อยุติ ที่จะเป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา 190 วรรค 2 เพราะฉะนั้นคิดว่าน่าจะถอนออกมาจากสภา และให้ผู้ที่มีหน้าไปดำเนินการเจรจาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากถอนร่างบันทึกเจบีซีออกจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วจะมีผลอะไรตามมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าดูจากคำวินิจฉัยและความเห็นของทางกฤษฎีกาแล้วก็หมายความว่าการเจรจาก็ต้องทำต่อไป เมื่อเห็นว่ามีข้อยุติถึงขั้นที่จะเป็นหนังสือสัญญาก็ต้องให้สภาให้ความเห็นชอบ ในส่วนของคณะกรรมาธิการที่ทำงานไปแล้วนั้นไม่เกี่ยวกัน เพราะการทำงานของกรรมาธิการทางสภาก็รับทราบไปแล้วหากตนจำไม่ผิด ก็อยู่ที่ว่าจะส่งข้องสังเกตมาให้เราหรือไม่ ซึ่งก็สามารถทำได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรับรองหรือไม่รับรองตัวบันทึก เพราะตรงนี้เป็นเรื่องการรายงานของคณะกรรมาธิการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อสังเกตตรงนี้จะถูกนำไปใช้ในการเจรจาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าสภาส่งมาเราก็จะดำเนินการ ส่วนของการประชุมที่ยังค้างอยู่นั้นจะมีการประชุมต่อในวันที่ 19 เม.ย.นี้ เมื่อถามว่า ตรงนี้จะทำให้กัมพูชาฟ้องศาลโลกได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่หรอกครับ เพราะที่เราพิจารณาตรงนี้ เราถือว่าเราก็เดินหน้าทำงานเจรจาต่อไปได้ เพราะฉะนั้นกระบวนการของเจบีซีก็เดินต่อไม่ได้สะดุดลงแต่ประการใด ทางกัมพูชาก็ควรจะเข้ามาเดินหน้าในเรื่องกลไกของเจบีซี เพื่อต่อเนื่องจากการประชุมที่โบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถอนร่างบันทึกเจบีซีออกอาจมีประชาชนบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีประชาชนที่ไม่เข้าใจอยู่หลายเรื่อง เพราะว่าเดินหน้าก็มีบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ ถอนก็มีบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ ทิ้งไว้ก็มีบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจเป็นธรรมดา แต่เราจะดูจากข้อกฎหมายและสิ่งสำคัญคือดูผลประโยชน์ของประเทศ เมื่อถามว่า บันทึกฉบับนี้จะมีผลในเรื่องของอาณาเขตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้องครับ ตรงนี้คือสิ่งที่เรายืนยัน เพราะว่าต้องมีการเจรจากันต่อ ไม่ได้มีสาระของการที่จะไปเปลี่ยนแปลงอาณาเขตตามเงื่อนไขของมาตรา 190 วรรค 2
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้เราลำบากใจในการอธิบายให้ต่างประเทศเข้าใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าจุดยืนของประเทศไทยนั้น ปัญหาเขตแดนเป็นเรื่องที่เรามีกลไกสองฝ่ายระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมที่จะดำเนินการในกรอบของการเจรจาสองฝ่ายต่อเนื่อง อันนี้คือจุดยืนที่ชัดเจนที่เราบอกกับชาวโลกและได้ทำให้เห็นจากการประชุมเจบีซี และจะเดินหน้าในการประชุมต่อไป เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าการถอนร่างบันทึกเจบีซีออกทางกฎษฎีกายังไม่ค่อยมั่นใจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราสอบถามความเห็นท่าน ท่านก็บอกว่าอ่านจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้เข้าใจได้ว่าตัวบันทึกไม่ใช่หนังสือสัญญา เมื่อถามต่อว่า ทำไมถึงไม่ให้ทางกฎษฎีกาทำเป็นหนังสือหรือลายลักษณ์อักษร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็บันทึกอยู่แล้ว เป็นบันทึกอยู่ใน ครม. และการตัดสินใจต้องดำเนินการก่อนวันที่ 19 เม.ย.