ครม.จัดให้!! ขึ้นเงินเดือนประธาน และรองประธาน กก.ปฏิรูปกฎหมาย พร้อมอนุมัติงบ 935 ล้าน ฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมใต้ นายกฯ โยน “สาทิตย์” คุย กสทช.ให้ถกสื่อใส่เงื่อนไขต้องแจ้งเตือนอุทกภัยก่อนให้สัมปทาน แนะตั้งหน่วยงานพิเศษแก้ภัยธรรมชาติ
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งทางสำนักงบประมาณได้มีความเห็นในเรื่องค่าตอบแทน และเห็นสมควรให้ขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานโดยให้ประธานกรรมการ ได้รับค่าตอบแทน 64,000 บาทต่อเดือน และรองประธานกรรมการ 62,000 บาทต่อเดือน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ได้เสนอขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน 935,364,000.32 บาท เพื่อฟื้นฟูเส้นทาคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและดินถล่มภาคใต้ และขอรับเงินสนับสนุนงบประมาณเพื่อค่าใช้จ่ายในการกำกับติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และประสานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารไทย
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาการใช้ความช่วยเหลือและดูแลภัยพิบัติที่เกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี ได้ปรารภว่าเห็นสมควรมอบให้นายสาทิตย์ รับผิดชอบทำข้อสังเกตไปยัง กสทช.ว่า ทาง กสทช.ควรตั้งเป็นเงื่อนไขกรณีที่จะมอบสิทธิของให้สัมปทานกับใครก็ตาม รัฐต้องมีเงื่อนไขว่าสื่อต้องแจ้งเตือนภัยพิบัติ กรณีที่มีเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังเห็นว่า จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ต้องการให้มีตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาเฉพาะที่มีความคล่องตัวในเรื่องการทำงานและการเข้ามาแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติโดยเฉพาะ โดย นายกรัฐมนตรี ได้ยกตัวอย่างกรณีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกรม ติดเงื่อนไข และขั้นตอนตามระเบียบราชการอยู่มาก อาจจะทำให้มีผลในการช่วยเหลือประชาชนไม่ได้รวดเร็วตามที่ต้องการ ส่วนเรื่องงบประมาณ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งส่งสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาเบิกงบกลางโดยด่วน เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที