"เทพเทือก" หงุดหงิดถูกสื่อถามเรื่องปฏิวัติไม่เลิก สั่งเลิกพูดถึง กลัวประชาชนหวั่นวิตก ย้ำมีเลือกตั้งแน่ ด้าน "เจ๊สด" พลิ้วเปล่าปูด อ้างสื่อเข้าใจผิด แค่เล่าประวัติการปฏิวัติให้ฟัง ยังกั๊กลาออกจาก กกต. ขอตัดสินใจหลังเลือกตั้ง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง แสดงความไม่พอใจเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการปฏิวัติที่ยังไม่หายไปจากสังคม โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "พอแล้วหละครับ เลิกพูดได้แล้วเรื่องปฏิวัติ ถาเราไปวอกแวกหวั่นไหวก็จะไปเข้าทางคนที่ไม่หวังดี ที่กำลังสร้างสถานการณ์ปั่นเรื่องปฏิวัติขึ้นมาเพื่อนำมาเป็นประเด็นการเมือง ยืนยันกันครบหมดทุกฝ่ายแล้ว และผมยืนยันมาเป็นร้อยครั้งแล้ว เพราะฉะนั้น ต่อไปไม่ต้องมาถามผมแล้ว"
ผู้สื่อข่าวยังย้ำถามอีกว่า ข่าวลือเรื่องการปฏิวัติไม่กระจายสู่ประชาชนคนรากหญ้า ซึ่งเกิดการหวั่นวิตกจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวด้วยสีหน้ามั่นใจว่า ประชาชนไม่ต้องหวั่นเกรง สื่อไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดอีกแล้ว พอแล้ว เอาข่าวลือมาพูดให้ประชาชนเกิดปัญหาคงไม่ถูกต้อง “ผมยืนยันว่า มีเลือกตั้งแน่นอน”
ด้านนางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการปฏิวัติเงียบ กล่าวว่า เป็นการถามของสื่อมวลชนถึงการปฏิวัติในอดีตว่าเคยเกิดขึ้นหรือไม่ จึงได้เล่าประวัติการปฏิวัติที่ผ่านมาสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เคยมีการปฏิวัติเงียบเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตจะมีการปฏิวัติเงียบ ซึ่งข่าวดังกล่าวกลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ทหารออกมาแถลงข่าวตอบโต้ เป็นการเข้าใจผิดของสื่อมวลชน เพราะส่วนตัวเชื่อว่าการปฏิวัติไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อีกทั้งตนเองก็ไม่รู้จักใครในกองทัพ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบว่าจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
นางสดศรี ยังชี้แจงถึงการไปสมัครคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายแห่งประเทศไทย พร้อมระบุว่าหากได้รับการคัดเลือกจะลาออกจาก กกต.ว่า เพราะไม่แน่ใจว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับจะเสร็จทันยุบสภาหรือไม่ ซึ่งหากเสร็จไม่ทัน กกต.จะต้องออกประกาศเลือกตั้ง แต่อาจมีปัญหาตามมา เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจกับ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญรับรอง แต่เมื่อไปสมัครเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายฯแล้วเกิดปัญหาตามมาจึงได้ถอนใบสมัครออกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นการเมือง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า กกต.ไม่ครบ 5 คนจนทำให้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เพื่อกลับมาทำหน้าที่ กกต.ในการจัดการเลือกตั้ง
ซึ่งขณะนี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และเชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จทันเดือนพฤษภาคมที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ว่าจะยุบสภา ส่วนตนเองจะลาออกจาก กกต.หรือไม่ ขอตัดสินใจหลังการเลือกตั้ง