โฆษก “มาร์ค” จี้หน่วยงานมั่นคงสอบแดงจ้อเวที 10 เมษา ชี้ หมิ่นสถาบันชัด แนะ “จิ๋ว-เหนาะ” อย่าตกเป็นเครื่องมือ ถามพวกเบิกความให้โจกแดงประกันรับผิดชอบยังไง ชี้ เพื่อไทยยังขัดแย้งดัน “เจ๊ปู” เบอร์ 1 บัญชีรายชื่อ เตือนบริหารประเทศไม่ใช่ธุรกิจ เชื่อ คนใกล้ชิด “แม้ว” กลุ่มทุนอยู่ลำดับต้นๆ - โยน กก.บห.ปชป.จัดลำดับผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการปราศรัยบนเวทีของกลุ่ม นปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ว่า อยากให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ เพราะมีข้อความหมิ่นเหม่จาบจ้วงสถาบันอย่างชัดเจน และอยากเรียกร้องผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และ นายเสนาะ เทียนทอง ที่ประกาศตัวว่าจงรักภักดีต่อสถาบันไม่ควรปล่อยให้คนในพรรคเพื่อไทยบางคน ออกมาใช้เวทีเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว และไม่อยากให้ พล.อ.ชวลิต และ นายเสนาะ หรือคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทยตกเป็นเครื่องมือของคนในพรรคเพื่อไทย ที่เป็นเด็กเมื่อวานซืน มาชี้นำผู้อาวุโส ทั้งนี้ การปราศรัยของแกนนำที่ได้รับการประกันตัว มีลักษณะฮึกเหิม ยั่วยุ ปลุกระดม ดังนั้น อยากให้กลับไปถามบุคคลที่ไปเบิกความต่อศาลในการยื่นขอประกันตัว ว่า จะรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของแกนนำเหล่านี้อย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีกระแสข่าวที่มีการดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 นั้น นายเทพไท กล่าวว่า ในพรรคก็ยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่ ดูจากท่าทีของ พล.อ.ชวลิต และ นายเสนาะ เพราะเห็นว่า ถ้าดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาเป็นนอมินีตัวจริง อาจถูกขัดขวางจากหลายกลุ่มในสังคมไทย เพราะคนทั้งประเทศ ก็เห็นว่า การดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการสร้างตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างชัดเจน และหากมีการขัดขวาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็คงจะไปหาคนที่เป็นครอบครัวรอบข้างตัวเอง เช่น นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และแกนนำในกลุ่มในเครือชินวัตร อาทิ นายบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน ) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ผู้บริหารบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น อยากเตือนว่าการบริหารประเทศไม่ใช่บริหารธุรกิจ การเอานักการเมืองที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจมาเป็นผู้นำประเทศประชาชน อาจแคลงใจ เพราะมีภาพของนักธุรกิจอาจเข้ามาหาประโยชน์กับการบริหารประเทศค่อนข้างมา
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยนั้น คงเป็นการเน้นเรื่องคนใกล้ชิด และกลุ่มทุนของพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้ามาอยู่บัญชีในลำดับต้นๆ รวมถึงแกนนำ นปช.ที่เสนอตัวมาอยู่บัญชีรายชื่อ ล้วนแล้วแต่เป็นการหนีตาย ไม่อยากพิสูจน์ตัวเองในเขตพื้นที่เลือกตั้ง ทั้งนี้ ไม่เข้าใจว่า ที่ออกมาคุยว่า กระแสดี จะชนะถล่มทลาย แต่ทำไมกลุ่มคนเหล่านี้จึงหนีขอไปอยู่บัญชีรายชื่อ ต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีผู้สมัครแย่งกันลงเขตมากกว่าบัญชีรายชื่อ แสดงให้เห็นว่า พร้อมพิสูจน์ตัวเองกับประชาชนโดยตรง ไม่มีใครอาศัยใบบุญพรรค บารมีคนอื่นมาเป็น ส.ส.ซึ่งต่างจากพรรคเพื่อไทยโดยสิ้นเชิง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงอะไรหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาช่วงเทศกาลสงกรานต์มักจะเกิดความวุ่นวายทางการเมือง นายเทพไท กล่าวว่า เชื่อว่า บรรยากาศที่ทุกคนต้องการความสงบ ต้องการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรม คงไม่มีใครฉวยโอกาสมาสร้างสถานการณ์ทางการเมือง เพราะ 2 ปีผ่านมาได้รับบทเรียนสงกรานต์เลือดมาแล้ว ดังนั้น ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาอีก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท กล่าวว่า ในส่วนของบัญชีรายชื่อ ทางพรรคได้มีรายชื่อบุคคลพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่รอการจัดลำดับ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคในการจัดลำดับ แต่ไม่มีนายทุนพรรคมาเกี่ยวข้องในระบบบัญชีอยู่แล้ว แต่เราจะพิจารณาตามความอาวุโส ความเหมาะสม ความรู้ความสามารถ และคนที่ไม่สามารถลงเขตได้ คือ เขตซ้ำซ้อน รวมทั้งทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อพรรคก็พิจารณาเป็นอันดับแรกๆ อยู่แล้ว
