ป.ป.ช.ฟัน “ชินณิชา” ลูกสาว “สมชาย” ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

ป.ป.ช.มีมติฟัน “ชินณิชา” ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลูกสาว “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” หลาน “นช.แม้ว” ฐานปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ฟันจาก ส.ส. พิพากษาตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี พร้อมลงโทษอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ผลการประชุม ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผ่านเว็บไซต์ www.nacc.go.th ของ ป.ป.ช.ที่มีมติส่งคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย บุตรสาวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และหลานสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งและห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 263 และขอให้ลงโทษทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ น.ส.ชินณิชาได้ขอยื่นแสดงรายการเงินกู้ยืมจาก นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จำนวน 100 ล้านบาทเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2551 ภายหลังจากที่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.เชียงใหม่แล้ว เป็นเวลากว่า 8 เดือน โดยอ้างเหตุที่ไม่ได้แสดงรายการหนี้สินดังกล่าว เพราะความหลงผิดและเข้าใจคลาดเคลื่อนโดยสุจริตว่า ระหว่างทำรายการบัญชีฯนั้นกระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยังไม่เสร็จสิ้น หนี้สินที่มีคำสั่งอายัดไว้ผู้ยื่นไม่สามารถดำเนินการอื่นใดได้จนกว่า คตส.จะมีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัด

แต่ปรากฏว่า น.ส.ชินณิชาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในตำแหน่งดังกล่าว โดยได้แสดงรายการเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัชดาภิเษก 3 (ทรูทาวเวอร์) ของตน จำนวนเงิน 6,823,058.97 บาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากที่ คตส.มีคำสั่งอายัดไว้และ น.ส.ชินณิชาได้ร้องขอให้ คตส.เพิกถอนการอายัด และได้แสดงรายการเงินให้กู้ยืม ระบุว่า บริษัท วาย ชินวัตร จำกัด ได้กู้ยืม รวม 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 42,700,000 บาท และครั้งที่ 2 ได้ให้กู้ยืมเป็นเงิน 10,000,000 บาท ซึ่งเงินจำนวน 10,000,000 บาทนี้เป็นส่วนหนึ่งของเงินจำนวน 100,000,000 บาทที่กู้ยืมมาจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นั่นเอง

นอกจากนี้ การขอยื่นแสดงรายการเงินกู้ยืมจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จำนวน 100,000,000 บาทเพิ่มเติม ก็เป็นเวลาภายหลังจากที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับการที่ น.ส.ชินณิชาได้ร้องขอเพิกถอนการอายัดเงินจำนวน 100 ล้านบาทต่อ คตส. และภายหลังจากที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบการแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของ น.ส.ชินณิชาแล้ว ข้ออ้างของ น.ส.ชินณิชาทั้งหมดจึงฟังไม่ขึ้น