xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” อัด “เจ๊ปอง” รับนึกไม่ถึงจะเลวเกินจินตนาการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประพันธ์ คูณมี
“ประพันธ์” เผย ปชป.เลียนแบบ พธม. ตั้ง 5 แกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ สู้เสื้อแดง- ดิสเครดิต พธม. ลั่นเดินหน้าโหวตโน เล็งลงขอนแก่น 17 เม.ย.นี้ พร้อมซัด “เจ๊ปอง” ปั้นน้ำเป็นตัว กระชากหน้ากากตัวเองฆ่าตัวตายแท้ๆ เหน็บสู้แล้วรวยจริงจะหนีไปทำไม บอกไม่ต้องเกรงใจหากพูดไม่จริงแฉมาเลย


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันที่ 11 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นที่ภาคภูมิใจมากของบรรดาแม่ยก และขุนนางบางคน หลังปั้นรัฐบาลแหลขึ้นมากับมือ ในเมื่อบอกว่าเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุด ก็ขอให้คนที่ปั้นขึ้นมาช่วยให้รอดตายจากเงื้อมมือเสื้อแดงให้ได้ก็แล้วกัน

วันก่อนแกนนำเสื้อแดงยังปราศรัยก้าวร้าวต่อสถาบันเบื้องสูงเหมือนเดิม แม่ทัพที่อาสาจัดการขบวนการหมิ่นเบื้องสูง อย่าดีแต่พูด ช่วยโชว์ฝีมือหน่อย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ซึ่งบรรดาแม่ยกบอกว่าเก่งนักเก่งหนา ก็ควรออกมาสู้เอาเอง อย่างไรก็ดี เมื่อ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ไม่ปกป้องประชาธิปัตย์อีกต่อไป ทำให้นายอภิสิทธิ์กัดฟันสู้ไปตั้งแกนนำใหม่ขึ้นมา 5 คน ชื่อแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ เพื่อสู้กับเสื้อแดง ประกอบด้วย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, นายจิตรกร บุษบา, นางอัญชะลี ไพรีรัก, นายศิริโชค โสภา และนางกาญจนี วัลยะเสวี

นายประพันธ์กล่าวว่า แนวทางการชุมนุมของเราเป็นเรื่องปกติที่ย่อมมีกระแสต่อต้าน แต่แปลกแทนที่พวกออกมาต่อต้านจะเป็นคนฝั่งพรรคเพื่อไทย ชาติพัฒนา หรือเพื่อแผ่นดิน พวกนี้ไม่มีใครออกมาต่อต้านเลย กลับกัน พวกที่ออกมาต่อต้านเรากลายเป็นพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ แสดงว่ากลยุทธ์การชุมนุมของเราได้ผล สั่งสอนคนหลอกแดกตีกินได้ตรงเป้า ทำให้เขาถึงดิ้นรนตั้ง 5 แกนนำ ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือของบรรดาแกนนำพันธมิตรฯ

“แผนต่อไปเราจะเคลื่อนพลไปภาคต่างๆ ประเดิมขอนแก่นเป็นพื้นที่แรก วันที่ 17 เม.ย.2554 ที่โรงแรมโฆษะ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั้งที่โหวตโน และที่ไม่ประสงค์ใช้สิทธิเลือกตั้ง ให้มารวมพลังล้างระบอบการเมือง แล้วสร้างการเมืองใหม่ที่เป็นความหวังของประเทศให้จงได้ เราจะไม่ทนอยู่กับการเมืองที่ล้มเหลวอีกต่อไป”

นายประพันธ์กล่าวถึงนางอัญชะลี ไพรีรัก ว่าความจริงไม่อยากพูดถึงเธอเลย วันก่อนนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย สั่งสอนไปเยอะแล้ว แต่ต้องพูดเพราะสังคมที่ไม่รู้ข้อมูลจะเข้าใจผิดตำหนิตนไปในทางที่เสียหายได้ จึงขอปกป้องตัวเองพอสมควรแก่เหตุ

จากข้อความที่เธอโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง ทำให้เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงเกินกว่าที่จะพูด ตนเคยบอกว่า “บางคนเคยขึ้นเวทีนี้ วันนี้ไม่ได้มาขึ้นแต่ไม่บอกความจริงว่าที่ไม่มาขึ้นเพราะอะไร เพราะญาติไปหากิน ค้าขายเปิดบ่อนที่กัมพูชา ก็เลยไม่กล้ามาขึ้นเวทีนี้ แต่ดันหลอกประชาชนว่าขอไปทำหน้าที่สื่อ ความจริงบอกกับพี่น้องตรงๆ เขาก็เข้าใจได้ ไม่จำเป็นต้องมาแหล” ถ้าไม่ตรงตามที่ตนพูด แทนที่เธอจะมาตอบอธิบายมาว่าไม่จริงอย่างไร กลับโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าตนเป็น “ทนายปากหมาใจต่ำ” สะท้อนวุฒิภาวะแยกผิดแยกถูกไม่ได้ นอกจากนี้ยังพยายามเสี้ยมให้แกนนำพันธมิตรฯ ทะเลาะกัน ลากคนที่ไม่รู้เรื่องเข้ามาเกี่ยว ซึ่งนางอัญชะลีโพสต์ข้อความต่อว่า “ให้ไปถามนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แล้วจะรู้ว่าทนายปากหมาขาสั่นคนนั้นเลวแค่ไหน ที่มันเหน็บดิฉัน เพราะดิฉันไม่ให้ค่ามัน ไม่ช่วยมันในวันที่หลอกประชาชนไปทำงานสนองตัณหาของมัน” คำพูดนี้ใครได้อ่านก็รู้แล้วใครใจต่ำ เพราะคำพูดของเธอมันต่ำยิ่งกว่าต่ำ ถ้าตนพูดไม่จริงอย่างไร ทำไมไม่เขียนมาในเฟซบุ๊กมาล่ะนางแหล ทำไมต้องไปยืมปากคนอื่นมาพูด

“เธอต่างหากที่หลอกประชาชน อยู่เวทีนี่ก็บอกเป็นพันธมิตรฯ ไปเวทีนู้นก็บอกอยากทำหน้าที่สื่อ ใครกันแน่พูดแหล พูดกลับไปกลับมา ทั้งนี้ใครจะให้ค่าใคร ไม่มีใครตีราคาตัวเองได้ นอกจากประชาชนจะเป็นผู้ประเมิน วันนี้ประชาชนประเมินค่าของคุณแล้ว เข้าไปดูในอินเทอร์เน็ตเลย คนที่แหลไปแหลมาใช้ไม่ได้ประชาชนที่นี่เขาไม่ต้องการ”

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า นางอัญชะลีพูดประหนึ่งว่าตนมีผู้หญิงเลี้ยงดู ซื้อรถ ซื้อคอนโดฯ ให้ ถือเป็นความเลวบัดซบมาก คุณไม่รู้หรือว่าตนเป็นทนายมาเกือบ 30 ปี ทำไมไม่ไปถามเพื่อนของพ่อนายกฯ ว่าคดีมรดกหลายร้อยล้าน สำเร็จด้วยฝีมือใคร และคดีอื่นๆ อีกมากมาย อีกอย่างตนเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติฯ เข้าทำงานก็ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ออกก็ต้องแจ้ง ไม่เหมือนคนบางคน ได้เงินมาไม่รู้งุบงิบเอาไปที่ไหนบ้าง ไม่มีทางรู้ได้เลย

“ถ้าเธอโง่ ไม่มีข้อเท็จจริง ก็ไม่ควรปั้นน้ำใส่ร้ายคนอื่น แล้วถ้าบอกว่าผมมาสู้ตรงนี้สู้แล้วรวยมีนารีอุปถัมภ์ แล้วทำไมไม่มาสู้ด้วยกัน จะได้มีบุรุษอุปภัมภ์ จะได้รวยด้วยกัน จะหนีไปทำไม ปองจ๋า เธอทำความผิดพลาดในชีวิตอย่างร้ายแรงแล้ว เธอฆ่าตัวเธอตายแล้ว เธอได้เผยโฉมหน้าตัวตนของเธอออกมาหมดแล้วด้วยการกระชากหน้ากากตัวเอง นึกไม่ถึงในชีวิตจะได้เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่เลวเกินจินตนาการ ทั้งนี้หวังว่าเธอจะหยุดพูด หากหยุดผมก็จะไม่พูดถึงอีก หากยังไม่ก็หยุดจำเป็นต้องใช้มาตรการต่อไป”

นายประพันธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเตือนนางอัญชะลี หากเลือกทางเดินชีวิตจะไปทำงานรับใช้ใครก็ไปเลย พวกเราไม่ว่า และจะมีคามสุขมากหากเธอได้ทำในสิ่งที่เธอเลือก ไม่จำเป็นต้องทำงานรับใช้ใครที่เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว ใช้ความเท็จระรานคนอื่นโดยปราศจากความจริง ถ้าผมไม่มีความจริงอยู่กับตัว แล้วยืนซัดกับความชั่วอยู่ทุกวัน มีหวังเขาเหยียบผมตายไปนานแล้ว อย่างไรก็ดี ถ้ามีข้อมูลว่าผมมีความชั่วความเลวอะไรไม่ต้องเกรงใจ ว่ามาเลย เวทีนี้เราอยู่ได้เพราะพูดความจริง

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน กราบสวัสดีพี่น้องทางบ้านทั่วประเทศ และติดตามชมอยู่ต่างประเทศทั่วโลก บรรยากาศการชุมนุมใกล้จะถึงสงกรานต์ปีใหม่แล้ว ยิ่งคึกคักขึ้นโดยลำดับ แสดงว่าการชุมนุมของเราไม่เหงาเลย นี่ละครับการชุมนุมที่อยู่บนความจริง มีธรรมนำหน้า มีสัจจะเป็นอาวุธ มีปัญญาเป็นเครื่องนำทาง เราก็ไม่เคยเหงาและไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยล้า และมีความสุขกับการที่ได้ทำงานเพื่อบ้านเมือง ใช่ไหมครับพี่น้องครับ ขนาดเขามีประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ เราก็ยังปักหลักอยู่ที่นี่ และอยู่อย่างมีความสุข ทราบว่าจะมีกิจกรรมวันสงกรานต์ที่น่าสนุกสนาน ตื่นเต้นมาก ฉะนั้นสาวๆ ทั้งหลาย หรือพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ไปไหน อยากมาเที่ยวสงกรานต์ให้สนุก ต้องสงกรานต์ที่มัฆวาน นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมัฆวานที่มีประเพณีสงกรานต์

เมื่อสักครู่ พี่สนธิบอกว่าจะมีรางวัลให้กับนางสงกรานต์ พี่น้องทำไมเราเรียก นางสงกรานต์ ทำไมเราไม่เรียก นางสาวสงกรานต์ ก็มีความหมายอยู่ในตัวว่า ถ้าอายุต่ำกว่าเลข 5 เขาไม่รับสมัคร แต่อาจจะสามารถใช้คำว่า นางสาวได้ เพราะกฎหมายเขาแก้ไขใหม่แล้ว คุณยายอายุ 80 สามารถใช้คำว่า นางสาว ก็ได้ กลับไปใช้นามสกุลเดิมก็ได้ หรือจะใช้นามสกุลสามีก็ได้ ไม่มีปัญหา ตอนนี้กฎหมายให้เสรีภาพ สิทธิสตรีในการจะใช้ชื่อ นามสกุล ใช้คำนำหน้า

แต่งานที่สำคัญก็คือ เรายึกหลักประเพณีสงกรานต์ที่เป็นของไทยๆ อย่างแท้จริง คุณสนธิบอกว่าจะมีรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ซึ่งผมเห็นแล้ว พระพุทธรูปที่พี่สนธิพูด ทำพิธีปลุกเสกที่วัดบวร สมเด็จสังฆราชองค์ปัจจุบันเป็นผู้ปลุกเสกและทำพิธีกรรม เรื่องนี้ผมเห็นแล้ว ใครได้ไปบูชาจะเป็นมงคลกับชีวิต สำหรับผมขอจองรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาอะไรให้กับนางสงกรานต์ของเรา เพราะว่าอย่างไรก็ตาม ต้องเป็นของที่มีคุณค่า ติดตัว ประดับกายและอยู่กับท่านตลอดไป อย่างน้อยไปไหน ความคิด จิตวิญญาณของพวกเราเพื่อบ้านเมือง ก็ยังอยู่ร่วมกันตลอดไปครับพี่น้องครับ

อีกข่าวหนึ่ง วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย และประชุมแกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 ผมเข้าใจว่า เวทีนี้คงได้รายงานให้พี่น้องทราบแล้ว วันนี้การประชุมเป็นไปด้วยดี และมีบรรยากาศที่ทำให้พวกเรา ที่ผ่านการต่อสู้ร่วมกันมา ได้มองเห็นสัจธรรมของการต่อสู้ และได้สรุปบทเรียนการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2547, 48, 49 จนมากระทั่งถึงปัจจุบัน บทเรียนหนึ่งที่เราค้นพบ และเป็นบทเรียนที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ เป็นภูมิปัญญาที่เกิดจากการต่อสู้ อย่างที่คุณสนธิได้สรุปไปเมื่อสักครู่ละครับ นั่นคือ 1 บทเรียนอันทรงคุณค่าสำหรับพี่น้องประชาชน ว่าต่อไปนี้พวกเราพี่น้องพันธมิตรฯ จะไม่กินยาแทนคนอื่นแล้ว วันนี้รัฐบาลที่ปกครองบ้านเมืองในขณะนี้ เป็นรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากความภาคภูมิใจของบรรดาแม่ยกและขุนนางจำนวนหนึ่งที่ร่วมกันปลุกปล้ำรัฐบาลแหลชุดนี้ขึ้นมา เมื่อคุณปลุกปั้นเขาขึ้นมาและประคับประคอง เขาบอกนี่เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ก็ขอให้บรรดาพวกท่านทั้งหลายที่ช่วยกันปลุกปั้นนายแหลขึ้นมา ช่วยให้มันรอยตายจากเงื้อมือของเสื้อแดงหน่อยแล้วกัน

ในเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวานนี้ แกนนำที่ออกมาปราศรัย ยังยืนยันในแนวทางต่อสู้แบบเดิมๆ พี่น้องฟังแล้วคงเศร้าสะเทือนใจว่า ทำไมบ้านเมืองยังมีคนกล้าหาญจะกร้าวร้าวต่อสถาบันเบื้องสูงถึงขนาดนี้ ในเมื่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และบรรดาแม่ทัพนายกอง อาสาตัวมาว่าจะออกมาปกป้องสถาบัน และจัดการกับกระบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เราก็ขอดูฝีมือหน่อย โดยพวกเราขอนั่งดูเฉยๆ เหนื่อยแล้ว อย่าดีแต่พูด และรัฐบาลประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์เก่งนักเก่งหนา บรรดาแม่ยกทั้งหลายที่เชลียร์นายอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลที่เก่งนักเก่งหนา ก็ควรออกมารับมือกับการต่อสู้ การลุกขึ้นสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดง เอาเองแล้วกันนะครับ แต่ทราบว่าเขาสู้นะครับ นายมาร์คบอกสู้ แม้ว่าแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ยืนเคียงข้างเขาแล้ว ไม่ปกป้องเขาแล้ว เขาจะไปปกป้องมึงได้อย่างไร ก็มึงคนเนรคุณ ไม่เป็นไรเมื่อ 5 แกนนำไม่ยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปัตย์ ไม่ยอมยืนหยัดพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ เขาจะตั้งแกนนำขึ้นมาใหม่ 5 คน ชื่อว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ วันนี้เขาประชุมกันเรียบร้อยแล้ว เตรียมรับมือสู้คนเสื้อแดง เพราะฉะนั้น ณัฐวุฒิ จตุพร หมอเหวง ธิดา เตรียมรับมือไว้ เขาประชุมกันแล้ว เขาตั้ง 5 แกนนำขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่า เขาไม่พึ่งพวกเราก็ได้

พี่น้องรู้ไหมว่าเขามีใครบ้าง ผมไปสืบมาแล้วปรากฏว่า 5 แกนนำของเขาเลียนแบบเรา เป็นความลงตัวมาก เรียกชื่อว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ นำโดย 1.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 2.จิตกร บุษบา 3.อัญชะลี ไพรีรัก 4.ศิริโชค โสภา 5.นางติ๊งต่าง กาญจนี วัลยะเสรี ครบ 5 พอดี พวกนี้กองเชียร์ แกนนำประชาธิปัตย์สู้ตาย ทำไมผมไม่เอ่ยถึงหมอตุลย์ หมอตุลย์ยังเจียมเนื้อเจียมตัว เขาบอกเขาไม่ด้านพอที่จะไปเป็น 5 แกนนำ เลยยังเก็บเนื้อเก็บตัว ยังไม่ออกมารบ ออกหน้าแทนพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ วันนี้เขาประชุมกันแล้ว เรารอดูว่า บัดนี้แกนนำเสื้อแดงชักธงรบกับพวกแกแล้ว แกก็เกณฑ์มวลชนสนับสนุน แม่ยกประชาธิปัตย์ทั้งหลายออกไปรบกับเขาเอาเองแล้วกัน พวกเราอย่างที่พี่สนธิบอกไว้แล้ว เราคือ ทหารพระเจ้าตาก ตีฝ่าวงล้อมออกมา มึงล่อกันเละเมื่อไหร่กูค่อยบดขยี้เมื่อนั้น

วันนี้เราสรุปบทเรียนได้แล้ว วิธีที่จะรักษาพลัง และกำลังพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป็นพลังที่ดีเลิศ พลังที่งดงาม จิตใจอันกล้าหาญ เสียสละจริงๆ ไว้ เพื่อกู้บ้านกู้เมืองจริงๆ ก็คือ ยุทธวิธีตีฝ่าวงล้อมออกมาแล้วปล่อยให้มันปะทะกันเอง ถ้าจะมีเลือกตั้ง เราก็กลยุทธ์โหวตโน เพราะไม่ว่าเลือกใครก็อัปรีย์ไปจัญไรมา นู้นก็บอก ไม่เลือกเราระวังเขาเผาเมือง เราก็บอกว่า ไม่เลือกมึงก็ไม่เป็นไร หมายว่า ไม่เลือกเราเขาเผาเมือง ถ้าเลือกเขา ก็ได้คนปล่อยให้เขามาเผาเมือง เหมือนกันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าเลือกฝ่ายไหน เมื่อคืนผมก็พูดแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งโกง ทุจริต แล้วยังบริหารบ้านเมืองไม่เป็น แถมขายชาติ ขายแผ่นดินเข้าไปอีก ใช่ไหมครับฝ่ายนี้ อีกฝ่ายก็โกง ทุจริต จะฟอกความผิดให้ตัวเอง นิรโทษให้ตัวเอง แล้วมาทวงทรัพย์สินคืนอีก บ้านเมืองก็ฉิบหายอยู่ดี ไม่พอแถมจะล้มล้างสถาบันเบื้องสูงเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นไม่ว่าเลือกใคร ก็คงอัปรีย์ไปจัญไรมา สู้อยู่บนภูดูหมากัดกันดีกว่าครับพี่น้อง

นี่คือยุทธวิธีอันชาญฉลาดของพวกเรา และไม่มีทางที่เขาจะแก้เกมเราได้ จะมาอ้อน มาขอร้องอย่างไร กูก็ไม่เลือกมึง โหวตโนลูกเดียวใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นแผน 2 ต่อไปนี้ก็คือ กระบวนทัพพวกเรา จะเคลื่อนพลไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้พี่น้องประชาชน ทั้งโหวตโน และที่ไม่ไปเลือกลงคะแนนเลือกใครเลย มารวมพลังกัน เพื่อแปรพลังโหวตโนเป็นพลังของผู้รักชาติ นำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยให้จงได้ เราต้องหาทางล้างระบอบการเมืองนี้ สร้างระบอบการเมืองใหม่ที่เป็นอนาคตและความหวังของประเทศชาติและประชาชนให้จงได้ นี่คือแนวทางยุทธวิธีของพวกเรา

วันที่ 13 พี่น้องเล่นสงกรานต์ เวทีที่นี่ยังปักหลักอยู่ ขอนแก่นจะเป็นเวทีแรกที่จะมีการเคลื่อนพลทีมวิชาการของเราไปเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั่วประเทศ เข้าสู่กระบวนการโหวตโน เรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศไทย โดยจะมีการจัดเวทีเสวนาที่ขอนแก่น พี่น้องอีสาน อุดร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สารคาม เมืองเลย สกลนคร หรือจังหวัดใกล้เคียง ชัยภูมิ พบกันแน่ วันที่ 17 เมษายน ตั้งแต่ 13.00-18.00 น.ผม อ.สมเกียรติ อ.พิภพ ธงไชย พี่สุนันท์ ศรีจันทรา จะไปพบพี่น้องที่ขอนแก่น โรงแรมโฆษะ อย่างแน่นอน เพื่อไปพบปะกับพี่น้อง และชูธง จุดประเด็นรณรงค์ให้พี่น้องทั่วแผ่นดินตื่นขึ้นมาร่วมกันเรียกร้องการปฏิรูปประเทศไทย เราต้องปฏิรูปประเทศไทย จัดระเบียบประเทศไทยใหม่เพื่อนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาคตและความหวังของคนไทยทั้งชาติร่วมกัน เราจะไม่อยู่กับการเมืองที่ล้มเหลวอีกต่อไป ถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ว่าหลังจากขอนแก่นแล้วเราจะไปจังหวัดอื่นๆ โปรดติดตามฟังการประชาสัมพันธ์บนเวทีนี้ จนกว่าบ้านเมืองจะได้อนาคตใหม่ และการเมืองใหม่ จริงๆ ของประชาชนไทย

ส่วนเรื่องพรรคการเมืองใหม่ เรารอฟังการประชุม มติของเขา วันที่ 24 เชื่อแน่ว่า อยู่ที่เสียงพี่น้องประชาชนและสมาชิก เมื่อมีความเห็นอย่างไรเราจะไปในแนวทางเดียวกัน วันที่ 24 ทราบว่าเขาจะประชุมกันที่สนามกีฬา เป็นการประชุมใหญ่ สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ และพี่น้องที่เป็นพันธมิตรฯ ไปร่วมประชุม และลงประชามติในวันนั้นแล้วกันว่า อยากให้พรรคการเมืองใหม่เขาเดินไปทางไหน เชื่อแน่ว่าเขาคงต้องฟังเสียงพี่น้องประชาชน เพราะว่า เมื่อเป็นพรรคของพี่น้องประชาชนก็น่าจะเคารพความคิดเห็นของประชาชน วันนั้นพี่น้องไปกันให้เยอะๆ แล้วกัน ไปบอกเจตนารมณ์ของพวกเราว่า เราต้องการให้โหวตโน ไม่ลงเลือกตั้ง และโหวตโน ถ้าใครเห็นด้วยปรบมือดังๆ ยาวๆ ให้ได้ยินไปถึงพี่น้องสมาชิกทั่วประเทศว่า เราต้องไปด้วยกันอย่างมีพลัง

พี่น้องครับ เรื่องนี้เคยมีบทเรียนเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว พรรคแอลดีพี ยึดครองอำนาจมายาวนาน แต่มีพรรคการเมืองตั้งขึ้นมาใหม่ เขาคัดค้าน เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง และเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง เปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งใหม่ หากพรรคแอลดีพีไม่เอาด้วย เขาก็รณรงค์ให้ประชาชนออกมาร่วมเคลื่อนไหว ท้ายที่สุดพรรคแอลดีพีก็ยอมรับให้มีการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงการเลือกตั้ง และกระบวนการเลือกตั้งเสียใหม่ พอเลือกตั้งอีกที พรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ได้รับเสียงชนะ โค่นล้มพรรคแอลดีพีลงไปได้ นี่คือบทเรียน เพราะฉะนั้นเราต้องแปรเปลี่ยนพลังของกระแสพี่น้องที่โหวตโน และพี่น้องที่เบื่อและไม่เอาด้วยกับระบอบการเมือง การเลือกตั้ง ให้เป็นพลังของการเรียกร้อง ให้คนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นมาร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย ปฏิรูปการเมืองใหม่ไปสู่อนาคตที่ดีกว่าการเมืองเก่าที่เป็นอยู่ให้จงได้ นี่คือยุทธวิธี แนวทางที่เราจะเดินไปข้างหน้า ต้องถือว่าเป็นข่าวดีของพวกเรา

พี่น้องครับวันนี้ต้องยอมรับว่า เมื่อเราเดินแนวทางอย่างนี้จะมีกระแสต้านเยอะ แต่แปลกนะครับ กระแสต้านแทนที่จะมาจากปีกฝ่ายพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมชาติเพื่อแผ่นดิน พรรคเพื่อไทย พวกนั้นไม่มีใครออกมาต้านกระแสโหวตโนของพวกเราเลย แต่กลายเป็นว่า คนที่ออกมาต่อต้านเราอย่างหนัก และพยายามจะทำลายความชอบธรรมการต่อสู้ของพวกเรานั้น กลายเป็นพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ นี่แสดงว่ากลยุทธ์ของพวกเราได้ผล ว่าเราได้สั่งสอนคนหลอกแดก ตีกิน อย่างถึงเป้า และเข้าถึงแก่นกลางใจเขาแล้วครับ เขาถึงดิ้นรนมาก ถึงตั้ง 5 แกนนำ ออกมาปะทะกับพวกเรา แต่ละคนวันๆ ไม่คิดอะไร คิดหาทางมาทำลายพวกเรา ทำลายกระบวนการของพวกเรา ในขณะที่หัวหน้าใหญ่ แกนนำ หัวหน้าพรรค หุบปากไม่กล้าสู้แล้วครับเพราะโดนไปหลายดอก พูดไม่เป็น หมดสภาพ ก็ปล่อยพวกลิ่วล้อเหล่านี้ออกมา พยายามจะบิดเบือนการชุมนุม การต่อสู้ของพี่น้องประชาชน และพยายามทำลายเครดิต ความน่าเชื่อถือของบรรดาวิทยากร หรือแกนนำของพวกเรา

ทีนี้มันมีคนหนึ่ง เรื่องหนึ่งที่ผมจำเป็นต้องขอเวลาพี่น้องพูดถึง ความจริงแล้วผมไม่อยากพูดถึงเธอเลย เพราะว่าวันก่อน คุณชัชวาลย์อบรมสั่งสอนไปแล้ว เอาอีกดอกหรอครับ คือ วันก่อนคุณชัชวาลย์พูดถึงเธอไปแล้ว ผมก็ไม่อยากพูดถึงสักเท่าไหร่หรอก แต่ว่า หรือไม่ก็มีบางคนมาบอกว่า อย่าไปพูดถึงเธอเลย เธอแย่แล้ว เธอไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อย่าไปรังแกเธอเลย พี่น้องครับ ถ้าเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจริง เธอก็ต้องเป็นคนที่มีมารยาท เธอควรมีความสุภาพนอบน้อมถ่อมตนตามฐานานุรูปความเป็นผู้หญิง และโดยปกติผู้หญิงจะไม่ซ่า จะไม่ร่าน จะไม่แรด จะไม่แสดงวาจาอันไม่งาม อันเป็นการปากเสียอย่างไม่มีเหตุผล ที่สำคัญเขาไม่ควรพูดจามดเท็จกับสังคม อย่างนั้นจึงจะเป็นสตรี เป็นผู้หญิงที่น่าเห็นใจ น่าเคารพ และน่าเมตตา หรือให้ความกรุณา แต่ว่าผมมาดูข้อความที่เธอโพสต์เข้าไปใน Facebook ของเธอเอง ผมก็รู้สึกว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและน่าขยะแขยง เกินกว่าจะพูด ไม่พูดไม่ได้ เพราะอะไรครับ เพราะถ้าไม่พูด สังคมจะเข้าใจในทางที่ทำให้ผมได้รับความเสียหาย เพราะเธอใช้ปาก และใช้สื่อเผยแพร่ให้สังคมที่อาจไม่รู้ข้อมูล ข้อเท็จจริง หลงเชื่อไปตามวิธีปั้นน้ำเป็นตัวของเธอ ซึ่งถนัดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องถือโอกาสพูดถึงเธอบ้าง ตามเหตุและผลอันสมควร ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของผม และเป็นการสิทธิอันชอบธรรมของตัวเองตามควรแก่เหตุ และไม่ประสงค์ทำร้ายทำลายเธอ เพราะเธอเป็นคนที่ทำลายตัวเองและขุดหลุมฝังศพตัวเองต่างหาก

ผมจำได้ว่าผมเคยพูดถึงเธอว่าอย่างไร ผมเคยพูดถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกผมไม่เอ่ยชื่อเธอเลย ผมบอกว่า ในการต่อสู้ที่นี่บางคนเคยขึ้นเวทีที่นี่แต่วันนี้ไม่ได้มาขึ้นเวทีนี้ แต่ไม่ยอมบอกความจริงกับพี่น้องประชาชนว่า ไม่มาขึ้นเวทีที่นี่เพราะอะไร เพราะญาติพี่น้องตัวเองไปทำมาหากินอยู่ที่กัมพูชา ไปซุกปีกพึ่งพิงบารมีฮุน เซน ไปค้าขาย หนีคดี เปิดบ่อนอยู่ที่กัมพูชา ก็เลยไม่กล้ามาขึ้นเวทีนี้ แต่ไปบอกกับประชาชนว่า ไปขอทำหน้าที่สื่อ ความจริงแล้วบอกกับพี่น้องประชาชนตรงไปตรงมาเราก็เข้าใจได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องแหลหรือพูดจาไม่ตรงกับความเป็นจริง นี่ผมพูดอย่างนี้ เปิดเทปฟังก็ได้ แล้วผมก็ไม่ได้เอ่ยชื่อเธอเลย อาจจะมีคนอื่นมาช่วยไขปริศนาแทนผม แต่ไม่ว่ากัน ความจริงเป็นอย่างนี้ประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 2 ต้องยอมรับว่า เธอไปทำงานเป็นที่ปรึกษา เป็นสตาฟ เป็นทีมงานให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที และไปทำงานช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ ถึงขนาดไปออกรายการวิทยุ สัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ แหลมาแล้ว ด้วยเหตุผลที่ไปอยู่กับเขาอย่างนี้ ผมเข้าใจ เพราะสมัยผมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก็ถูกนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ พยายามกดดันคุณหญิงว่าอย่าให้ผมขึ้นเวทีพันธมิตรฯ อย่าออกรายการ ASTV ผมเคยเจอแบบนี้มาแล้ว เมื่อเธอประสงค์ไปทำงานเป็นที่ปรึกษาเขา เธอก็คงถูกเรียกร้องให้ทำงานรับใช้เขาให้สมกับที่เขาให้เกียรติไว้วางใจให้เธอเป็นทีมงานของรัฐมนตรี เธอคงอยากแสดงฝีมือให้เขาไว้วางใจ ประกอบกับเธอนิยมชมชอบอยู่แล้วที่อยากจะคบคนแหลแบบนั้น เราไม่ว่ากันถ้าประสงค์ไปทำงานแบบนั้น บอกกับพี่น้องตรงไปตรงมาก็จบเรื่อง ไม่เอา ผมก็ไม่ว่าอะไร ครั้งสุดท้ายผมบอกว่า ไปทำงานนั้นก็มีเรื่องเป็นปากเป็นเสียงกันกับคุณผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่ง ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเป็นใคร เพราะฉะนั้นบอกประชาชนไปเสียว่า ที่ไม่มาขึ้นเวทีเพราะเรื่องอย่างนี้

ทีนี้แทนที่เธอจะตอบ อธิบาย ชี้แจงในเรื่องที่ผมพูด โดยมารยาท โดยความเป็นผู้ดี หรือคนที่อยากจะตอบโต้เขา ก็ต้องตอบโต้ในสิ่งที่เขาพูดว่ามันไม่จริงอย่างไร ฉันไม่ได้มาขึ้นเวทีนี้เพราะอะไร ฉันทำงานรับใช้เขาเพราะอะไร ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวเพราะอะไร ทำไมไม่ตอบโต้ เธอกลับมาตอบโต้ผมอย่างไร ผมดูใน Facebook เธอตอบโต้ว่าอย่างไร หลังจากมีคนโพสต์เข้าไปใน Facebook เธอ บอกว่ามีคนโจมตีคุณ คุณชัชวาลย์พูดเรื่องนู้นเรื่องนี้ เธอก็ตอบโต้คุณชัชวาลย์ไปแล้ว และคุณชัชวาลย์ก็ตอบโต้ไปแล้ว แต่มีอีกประเด็นพาดพิงมาถึงผม ผมไม่ตอบไม่ได้ คนที่โพสต์เข้าไปบอกว่า ยังมีคนที่ปากกล้าขาไม่สั่นอีกคนนะคะพี่ปอง คืนก่อนก็เหน็บพี่ปองเหมือนกันค่ะ เขาพูดแค่นี้คนที่โพสต์เข้าไป เธอตอบว่าอย่างไร เธอตอบว่า ทนายปากหมาใจต่ำ นั่นหรือ นี่ข้อความของนางอัญชะลี ไพรีรัก เขียนอย่างนี่นะครับ จะได้รู้ว่าเธอมีวุฒิภาวะทางจิตใจ และเลือดลมในร่างกายสำหรับสาววัยนี้พุ่งพล่านอย่างไร จะได้รู้ว่าเธอใช้วาจาอย่างไร แทนที่จะตอบว่า ที่ไม่มาขึ้นเวทีเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ เขาพูดแค่นี้แทนที่เธอจะตอบ เธอบอกว่า อ๋อทนายปากหมาใจต่ำนั่นหรอ นี่มันสะท้อนวุฒิภาวะ และอารมณ์อันพุ่งพล่าน เลือดลมมันไม่ปกติของเธอแล้วนะ ผมไม่เคยด่าเธอว่า เธอเป็นผู้หญิงปากหมา ทั้งๆ ที่ในดีเอ็นเออาจจะมากกว่าผมก็ได้ เพราะใครก็รู้ว่าเธอปากหมาเรียกพี่ เรื่องแรดๆๆ ฉอดๆๆ มันยิ่งกว่าสุนัขเรียกพี่แล้ว ผมยังไม่เคยว่าเธอเป็นแบบนี้เลย ใจต่ำ ผมก็ไม่รู้ว่าใครใจต่ำ ผมน่ะใจไม่ต่ำ แต่คนใจต่ำน่าจะมีเธอมากกว่าผมนะ เพราะแยกดี แยกชั่ว แยกผิด แยกถูกไม่ได้ นั่นหรือเขาบอกให้ไปถาม สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซิ คนๆนี้รู้ดีว่า ทนายปากหมาขาสั่นคนนั้นเลวแค่ไหน หรือไปถามคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ก็ได้รู้ดีว่าทนายคนนี้ชั่วอย่างไร ถ้าไม่พอไปถามคุณนาตยา แดงบุหงา อีกทีก็ดี จะได้รู้ซึ้งถึงความสารเลวของทนายคนนี้ ที่มันเหน็บดิฉันเพราะดิฉันไม่เคยให้ค่ามัน ไม่ช่วยมันในวันที่หลอกประชาชนไปทำงานสนองตันหาของมัน ว่าไปนั่นครับ

พี่น้องครับ ใครอ่านก็รู้แล้วว่าใครใจต่ำ ใครใฝ่ต่ำ เพราะคำพูดของเธอมันต่ำยิ่งกว่าต่ำครับพี่น้อง แล้วสอง พยายามจะเสี้ยมว่า อยากรู้ว่าผมเลวอย่างไร ให้ไปถาม อ.สมเกียรติ อ.สมเกียรติ กับผมไม่เคยมีปัญหา และ อ.สมเกียรติ จะรู้ได้อย่างไรว่าผมเลว ถ้าคุณรู้ว่าผมเลวอย่างไรทำไมคุณไม่พูดออกมานางแหล ทำไมคุณไม่พูดเอง ทำไมคุณต้องไล่ประชาชนไปถาม อ.สมเกียรติ อ.สมเกียรติ ไม่สบาย ทำไมคุณต้องยืมปากคนอื่น ทำไมคุณไม่กล้าหาญจะพูดเอง ถ้าผมเลว ถ้าผมเลวคุณเอาข้อมูลไปให้พ่อคุณซิ บักแหล ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลย ผมมันคนจริงไม่เหมือนคุณ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็คือ ตามสันดาน พยายามจะเสี้ยมให้เราทะเลาะกัน บอกให้ไปถามสมเกียรติ เพื่อจะบอกให้คนรู้ว่า ลับหลังสมเกียรติก็คงแอบนินทาผมให้มันฟัง ความจริงแล้วสมเกียรติกับมันไม่เคยคุยกันเลยครับพี่น้อง แล้วสอง ถึงคุยกัน ผมก็ไม่เชื่อว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะอธิบายความชั่วความเลวอะไรของผมให้นางนี้ฟัง เพราะผมไม่มีเรื่องอะไรที่สมเกียรติจะเล่าให้เธอฟัง ผมไม่แบมือขอใคร ไม่รีดไถเงินใคร ไม่ได้โกงปล้นใคร ไม่ได้ทำความชั่วความเลว ผมไม่ได้วิตกตื่นเต้น

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็นวิธีการของการพยายามจะเสี้ยมคนอื่นให้ทะเลาะกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่มีมูลความจริง และเป็นเท็จ อันที่สอง บอกว่าไปถาม คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช นางแหลเอ๊ย ผมกับคุณหญิงกัลยา ถ้าเขามีปัญหาอะไรกับผม ถ้าผมเป็นคนชั่ว คนเลวจริง คุณหญิงกัลยาจะเสนอชื่อแต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษา โดยเถียงกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ในที่ประชุม ครม.ว่าเขายืนยันตั้งผมหรอ โดยผมไม่ต้องแหลเสนอหน้าอยากเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีไอซีทีเหมือนเธอ เขาตั้งเอง เขาเสนอเอง แล้วสอง ไปดูผลงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ ไปดูผลงานซิ ทั้งลูกเขย คุณพูนสันต์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา และคุณหญิง ทั้งผม หลังจากผมออกมาแล้ว คุณหญิงกัลยาโดนคดี นายเรืองไกรร้องเรียนคดีหุ้น เขายังตั้งให้ผมเป็นทนายแก้ต่างจนคดีชนะมาแล้ว เธอทำไมไม่ไปถาม คนระดับผู้ใหญ่อย่างคุณหญิงกัลยา เขาเป็นคนอยู่เหนือความต่ำของเธอ นางแหล ขนาดคนในพรรคประชาธิปัตย์พยายามไปค่อนแคะ ค่อนขอด พูดจากคุณหญิงกัลยาว่า ทำไมปล่อยที่ปรึกษา คุณประพันธ์มาพูดถึงพรรค ถึงนายกฯ อย่างนั้นอย่างนี้ คุณหญิงยังเฉยเลย เขาทำหน้าที่ของเขาครับพี่น้อง ที่สำคัญ นางนี่ ร้อยวันพันปีไม่เคยไปคุยอะไรกับคุณหญิงกัลยาเลย แล้วทำไมมาอ้างว่า คุณหญิงกัลยาจะสาธยายความเลว ความชั่วของผม ทั้งๆ มันไม่มีอยู่แล้ว ให้เธอฟัง เธอจะไปแหลมาจากไหน ตลกไหม

เพราะฉะนั้น นี่มันเป็นคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แล้วตัวเองไม่มีเครดิตก็เอาชื่อผู้หลักผู้ใหญ่มาอ้าง ทั้งสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ทั้งคุณหญิงกัลยา พี่น้องอยากถามต้องไปถามประชาชนที่นี่ ทั้งนั้น เธอมาถามประชาชนที่นี่ว่าเขารู้จักเธอดีอย่างไรต่างหาก ไม่ใช่รู้จักผมดี อันนี้เป็นวิธีที่สกปรก และเป็นเท็จ เป็นวิธีน่ารังเกียจ กุลสตรีอย่างเธอไม่น่าพูดจาแหลอย่างนี้ ส่วนที่บอกว่า หรือให้ไปถามนางนาตยา แดงบุหงา นี่ไปจำขี้ปากนายศิริโชค โสภา มาอีก ทั้งๆ ที่ผมตอกหน้า ศิริโชค โสภา ไปตั้งนานแล้ว เธอไปจำขี้ปาก เก็บเล็กผสมน้อยมา นี่ถ้าเธอรู้ว่าฉันมีความชั่วอย่างไรเธออย่าไว้ซิ เอาข้อมูลทั้งหมดไปบอกพรรคประชาธิปัตย์ ให้เขามาถล่มผมซิ นางแหลคุณจะได้ความดีความชอบ ไม่ต้องปิด ทำไมต้องไล่เขาไปถาม ไปถามเขาจะตอกหน้าคุณอีก ไปถามคุณหญิงเขาจะได้ตอกหน้าคุณอีก จริงๆ แล้วตัวเองไม่เคยถาม ตัวเองไม่เคยพูด ตัวเองไม่เคยรู้ แต่จะไล่คนที่ถามคำถามนี้ไปถาม แล้วทำไมเธอรู้ไม่เขียนลงไปใน Facebook ของเธอล่ะ นี่สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเธอไม่มีเหตุผล สุขภาพร่างกาย จิตใจคงไม่ปกติ และไม่รู้จะเอาข้อเท็จจริงอะไรมาตอบโต้และหาเรื่องด่าทอผมเสียๆ หายๆ ก็เลยพูดจากแบบกำกวมรวมๆ เพื่อให้คนเข้าใจว่า ผมคงมีความชั่วหมกเม็ดไว้เยอะ อยากรู้ไปถามคนนี้ๆ ซิ เผอิญคนที่เอ่ยมาไม่มีใครมีข้อมูลความชั่วของผมเลยครับพี่น้อง

ส่วนที่มันเหน็บฉัน เพราะดิฉันไม่เคยให้ค่ามัน ไม่ช่วยมันในวันที่หลอกประชาชนไปทำงานสนองตันหาของมัน ผมไม่เคยหลอกใครมาทำงานสนองตันหาผมเลย ต่างจากคุณต่างหากที่หลอกคนไปสนองตันหาคุณ เรื่องบานบุปผาบานพร้อมภัก ออกบิลให้เขาเรียบร้อยหรือยัง หรืออะไรต่างๆ ที่ไปหลอกคนอื่นมาทำนู้นทำนี่ ผมไม่เคยหลอกใครเลยครับ แต่ใครที่หลอก เธอต่างหากที่หลอกประชาชน เพราะมาอยู่เวทีนี้ก็บอกเป็นพันธมิตรฯ พอไปอยู่เวทีนู้นก็บอกว่า อยากทำงานสื่อ พอมาขึ้นเวทีนี้ก็บอกทำงานสื่อเพื่อจะได้ใช้สื่อในทางเลือก และทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน พอไม่อยากขึ้นเวทีก็ไปลงเวทีนู้นบอกว่า ดิฉันอยากทำหน้าที่สื่อ ใครกันแน่พูดจาแหลไปแหลมา กลับไปกลับมา

ไปให้สัมภาษณ์ว่า ดิฉันยังส่งกำลังใจมาให้พี่น้องอยู่เสมอ อย่างนั้นอย่างนี้ ส่งกำลังใจอะไรด่ากูอย่างนี้หรอส่งกำลังใจแบบนี้หรอ นี่แหลหรือเปล่า พูดกลับไปกลับมา นี่เขามีวิะส่งกำลังใจแบบนี้ผมก็ขอส่งกำลังใจไปให้เธอด้วยแล้วกัน บอกยังสนับสนุน ยังรักกันดี แล้วเสือกใช้คำว่า ปากหมา ใจต่ำ รักกันดี เพราะฉะนั้นใครจะให้ค่าใคร ไม่มีใครตีค่าตีราคาตัวเองได้ นอกจากประชาชนเป็นผู้ประเมิน วันนี้ประชาชนเขาประเมินค่าของคุณแล้ว คุณเข้าไปดูในเว็บไซต์แล้วกันว่า คนที่ไร้จุดยืน ไม่มีหลักการ แหลไปแหลมานั้น ประชาชนที่นี่เขาไม่ต้องการครับ

เพราะฉะนั้นที่เธอพูดในประเด็นนี้ใช้ไม่ได้ แล้วสองก็คือ การที่ไปบอกว่า สิ่งที่คุณเป็นในขณะนี้ ทำไมคุณถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมคุณถึงตกต่ำแบบนี้ ก็เพราะคุณเลือกที่จะยืนอยู่ 2 ขา คือด้านหนึ่ง คนไม่มีจุดยืนจะเป็นอย่างนี้ ด้านหนึ่งก็อยากไปทำมาหากิน อยากเอาความดีความชอบ รับใช้ประชาธิปัตย์ ด้านหนึ่งกลัวตัวเองจะเสียชื่อเสียงกับประชาชน พี่น้องพันธมิตรฯ เลยถ่างขา จนวันนี้เดินขาเป๋เหมือนเป็ดแล้ว วันนี้ขาวต้องเป็นขาว ดำต้องเป็นดำ ผิดต้องเป็นผิด ถูกต้องเป็นถูก เธอจะเลือกยืนอยู่ตรงไหนเธอต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ไม่มีทางจะยืนถ่างขาแล้วตีกินกับทุกข้าง กับพี่น้องจะมาตีกิน กับประชาธิปัตย์จะไปรับใช้เขาตีกิน คนแบบนี้ไปไม่รอด สุดท้ายไม่มีใครเอาเธอ ต้องแปลความนะ คำว่า ไม่มีใครเอาเธอ อย่าไปแปลความเป็นอย่างอื่นนะ ถ้าเธอจะไปอยู่ประชาธิปัตย์ อยากรับใช้เขา ก็ประกาศตัวไปเลยไม่ต้องอาย ไม่ต้องเขิน ไม่ใช่อีกด้านก็ให้คนมาเคลียร์ ขอร้องบนเวทีนี้อย่าพูดถึงหนูนะ อย่างนั้นอย่างนี้ ให้คนมาเคลียร์มาล็อบบี้ เพราะเป็นห่วงพี่น้องประชาชนจะไม่เข้าใจเธอ เขาจะเข้าใจเธอได้อย่างไรในเมื่อเธอปากเสียอย่างนี้

พี่น้องครับ แต่เรื่องที่อัปยศกว่านั้นก็คือ เธอตอบต่อไปว่า เธอไม่เคยเป็นหน้าห้อง ไม่เคยรู้จักมัลลิกา ทนายปากหมาขาสั่นมีปากหาเรื่องคนไปทั่ว เธอบอกเธอไม่รู้จักมัลลิกา ทำไมต้องแหลกันขนาดนี้ ไปทำงานอยู่กระทรวงไอซีทีกับจุติ ไกรฤกษ์ ไม่รู้จักมัลลิกา บุญมีตระกูล ได้อย่างไร เธอก็ปากพอๆ กับเธอนั่นแหละ แล้วบอกไม่เคยรู้จัก ตลกไหมครับพี่น้อง ในเมื่อมัลลิกาเป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่ง ส่วนเธอเป็นที่ปรึกษาไม่โดยตำแหน่ง แล้วไปทำงานกระทรวงไอซีที ถ้าเธอบอกไม่รู้จักก็เท่ากับโกหกคำโต เป็นผู้หญิงโกหกไม่งามเลย เสียหายมาก ถ้าไม่รู้จักแล้วทำไมบอกว่า วันนั้นวันนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ใช้ให้เธอไปทำงานอันนู้นอันนี้ เธออ้างทำไม เพราะฉะนั้นอันนี้ก็โกหก

สองพาดพิงบุคคลที่สาม บอกผมให้ไปดูแลคนนั้นคนนี้ มีกิจการอยู่ตรงนั้น หาว่าผมมีผู้หญิงอื่นแล้วไปดูแลกิจการของผู้หญิงคนนั้น นี่เธอโกหกหน้าด้านๆ และไม่ควรจะพูดเลย เป็นผู้หญิงด้วยกัน โดยทั่วไปเขาจะไม่พาดพิงผู้หญิงด้วยกันในทางเสียหาย แล้วเธอมารณรงค์สิทธิสตรีให้สตรีมีคุณธรรม ให้สตรีมีบทบาทต่อสังคม ให้สตรีมีความเข้าใจหน้าที่ ให้สตรีมีบทบาทในทางสร้างสรรค์ ก้าวหน้า แล้วทำไมเธอทำตัวน้ำเน่า ล้าหลัง อัปยศ บัดสีอย่างนี้ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็แย่ ไม่ควรพาดพิงบุคคลที่สาม ซึ่งเขาไม่เกี่ยวข้องเลยแล้วเธอก็นั่งจินตนาการเอาเอง ที่เลวกว่านั้น ไม่พูดไม่ได้ ไปพาดพิงถึงภรรยาผม อันนี้เลวระยำมาก ซึ่งผมไม่พูดไม่ได้ เธอบอกว่า ภรรยาผมเป็นอาจารย์อยู่สถาบันนิด้า ทำไมโง่อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่รู้หรือว่าได้ดิบได้ดีเพราะสามี มีรถป้ายแดง ไปซื้อคอนโดให้ สู้แล้วรวย ทำไมเลวอย่างนี้ครับพี่น้อง ภรรยาผมไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตการทำงานทางการเมืองผม แล้วสอง เธอเป็นครูบาอาจารย์ เป็นคณบดี ใครก็รู้ ในสถาบันที่มีชื่อเสียง เธอบังอาจพูดจาใส่ร้ายว่าภรรยาผมโง่ได้อย่างไร เขาจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศ เรียนเตรียมอุดม เขาก็สอบได้ติดอันดับ TOP10 ของประเทศ ลูกชายผมเรียนจุฬาฯ สอบออกได้ที่ 1 ของคณะศิลป์-คำนวณ ของเตรียมอุดม สอบเข้าจุฬาฯ คณะศิลปกรรม คณะเดียวกับลูกนายกฯ ก็สอบได้ที่ 1 ครับลูกชายผม ถ้าพ่อแม่โง่ลูกคงไม่เป็นอย่างนี้ เธอควรจะรู้ว่าเธอกำลังทำความผิด ความเลว ความร้ายแรง ที่เธอไปพูดจากร้าวร้าวถึงคนอื่นที่เขาไม่เกี่ยวข้อง เขาไม่ว่าอะไรตัวเธอเลย ทำไมเธอถึงแรด ถึงร่าน ถึงพล่าน ถึงเลวแบบนี้ แล้วพูดประหนึ่งว่า ผมมีผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดู ซื้อรถให้ผม ซื้อคอนโดให้ผม เลยปิดปากภรรยาผม ผมว่านี่เลวระยำบัดซบ คุณไม่รู้หรอว่าผมเป็นใคร ผมทำมาหากินอะไร ผมประกอบอาชีพทนายความมา 20 กว่าปีเกือบ 30 ปี ทำไมคุณไม่ถามว่า ผมว่าคดีให้เพื่อนของพ่อนายก คดีมรดกหลายร้อยล้าน สำเร็จเพราะฝีมือใคร และคดีอื่นๆ อีกมากมาย ผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ผมต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ผมเป็นที่ปรึกษาคุณหญิงกัลยา เข้าก็แจ้งทรัพย์สินออกก็แจ้งทรัพย์สิน ผมมีเงิน มีทรัพย์สินอย่างไร ผมแจ้ง ไม่เหมือนคนบางคน มีเงินมีทรัพย์สิน ได้มาแล้วงุบงิบเอาไปที่ไหนบ้างไม่รู้เลย เธอไม่ควรใช้คำพูดอย่างนี้ เธอเห็นผมขับรถเล็กซัสป้ายแดง เธอคงนึกว่ามีนารีมาอุปถัมภ์ผม ผมคิดว่าถ้าเธอไม่มีข้อมูล เธอโง่ เธอไม่มีข้อเท็จจริง ไม่ควรปั้นน้ำเป็นตัวและใส่ร้ายคนอื่น ถ้าจะสร้างผลงานให้ตาประชาธิปัตย์ ให้เข้าตานายอภิสิทธิ์ ก็ทำงานให้มีข้อมูลมากกว่านี้หน่อยน้อง จะได้มีอนาคต แล้วถ้าบอกว่าผมมาสู้ตรงนี้แล้วรวย มีนายรีอุปถัมภ์ ทำไมเธอไม่มาล่ะจะได้มีบุรุษอุปถัมภ์เธอจะได้รวยด้วยกัน หนีไปทำไม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ปองจ๋า เธอทำความผิดพลาดอย่างร้ายแรงแล้ว เธอฆ่าตัวเธอตายแล้ว เธอเผยโฉมหน้าตัวตนของเธอออกมาหมดแล้ว ผมไม่อยากพูดว่าผมให้ค่าหรือไม่ให้ค่าคุณ เพราะค่าของคุณก็เป็นที่รู้กันในสายตาประชาชนด้วยตัวคุณกระชากหน้ากากตัวคุณออกมาให้คนเห็นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องราวทั้งหมดที่จำเป็นต้องพูดเพราะอยากเตือนว่า บรรดาแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ แน่จริงดาหน้าออกมาเลย ซึ่งความจริงแล้ว ผมไม่อยากจะพูดถึง แต่ว่าเธอเกินความพอดี ถ้าเขาวิพากษ์วิจารณ์คุณว่าอย่างไรคุณก็ตอบโต้แค่นั้นก็สมเหตุสมผล ถ้าผมวิจารณ์อะไรคุณไม่ถูก หรือพูดจาพาดพิงในทางที่ทำให้คุณเสียหาย คุณก็ชี้แจงมาได้เราไม่ว่ากัน แต่นี้เธอเล่นลามปามไปถึงคนนู้นคนนี้ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ผมถือว่าเธอเป็นสตรี แม้แต่สตรีด้วยกันเธอยังไม่ให้เกียรติ แสดงว่าเธอคงไม่ให้เกียรติตัวเธอเอง และคงไม่ให้เกียรติผู้หญิงทุกคน เพราะเธอมีปากที่ไร้เกียรติ

เพราะฉะนั้นผมหวังว่าความจำเป็นที่ต้องรบกวนเวลาพี่น้องที่อยากจะพูดก็คือ ขอเตือนไปถึงคุณปองว่า ถ้าคุณจะเลือกทางเดินชีวิตของคุณไปทำงานรับใช้ใคร หรือมีจุดยืนอย่างไร เธอก็ไปตามทางของเธอพวกเราไม่ว่า พวกเราจะมีความสุขมากถ้าเธอได้ทำในสิ่งที่เธอเลือก ไม่จำเป็นจะต้องมาทำงานอะไร รับใช้ใครที่เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว ใช้ความเท็จ ใช้ปากพูดจาระรานคนอื่นโดยปราศจากความจริง ถ้าผมไม่จริง ผมไม่มีความจริงอยู่กับตัว ผมยืนอยู่ตรงนี้ และยืนอยู่ที่นี่ และยืนซดกับความชั่ว คนเลวไม่ได้หรอกครับพี่น้อง ทุกคนกระทืบผมตายทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเธอมี ว่าผมไปทำความชั่วความเลวอะไร เธอไม่ต้องเกรงใจว่ามาเลย แต่ถ้าไม่มีอย่าปั้นน้ำเป็นตัว อย่าเอาความเท็จมาพูด เพราะเวทีนี้เราอยู่ได้ เราสู้ได้ด้วยความจริง

เอาละพี่น้องผมใช้เวลารบกวนเวลาพี่น้องมาพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง แต่เป็นความจำเป็น เพราะนึกไม่ถึงว่าในชีวิตจะเจอผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเลวเกินจินตนาการ ผมไม่เคยพูดถึงเธอในทางให้ร้ายขนาดนั้น แต่เธอได้ฆ่าตัวเธอไปแล้ว ผมหวังว่าถ้าเธอยังไม่หยุดผมคิดว่าต้องมีมาตรการต่อไป แต่ถ้าเธอหยุด กลับเนื้อกลับตัว ยุติเสีย ผมคงจะไม่ต้องพูดถึงอีก แต่ถ้าไม่หยุดและเดินหน้าต่อ ผมจำเป็นต้องใช้มาตรการดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้อง เกียรติ ศักดิ์ศรี และรักษากระบวนการพี่น้องประชาชนไม่ให้คนเลวมาทำลายจิตใจและเจตนารมณ์อันดีงามของพี่น้องประชาชน นี่คือความตั้งใจ และหวังว่าสิ่งที่พูดคงไม่เป็นการทำให้พี่น้องเสียความรู้สึก เพราะผมคำนึงอยู่เสมอว่า เธอเป็นผู้หญิง จะพูดอะไรเราต้องระมัดระวัง แต่ผมคิดว่าถ้าเธอพูดอย่างนี้ผมจำเป็นต้องตอบโต้และชี้แจง เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นผู้หญิงจะพูดทำนองนี้ เอาละรบกวนเวลาพี่น้องมาพอสมควรแล้ว ผมขอกราบขอบพระคุณ และเราจะยืนหยัดอยู่ด้วยกัน เดินไปในแนวทางนี้ร่วมกัน จนกว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ ขอบพระคุณมากครับ”

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน กราบสวัสดีพี่น้องทางบ้านทั่วประเทศ และติดตามชมอยู่ต่างประเทศทั่วโลก บรรยากาศการชุมนุมใกล้จะถึงสงกรานต์ปีใหม่แล้ว ยิ่งคึกคักขึ้นโดยลำดับ แสดงว่าการชุมนุมของเราไม่เหงาเลย นี่ละครับการชุมนุมที่อยู่บนความจริง มีธรรมนำหน้า มีสัจจะเป็นอาวุธ มีปัญญาเป็นเครื่องนำทาง เราก็ไม่เคยเหงาและไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยล้า และมีความสุขกับการที่ได้ทำงานเพื่อบ้านเมือง ใช่ไหมครับพี่น้องครับ ขนาดเขามีประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ เราก็ยังปักหลักอยู่ที่นี่ และอยู่อย่างมีความสุข ทราบว่าจะมีกิจกรรมวันสงกรานต์ที่น่าสนุกสนาน ตื่นเต้นมาก ฉะนั้นสาวๆ ทั้งหลาย หรือพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ไปไหน อยากมาเที่ยวสงกรานต์ให้สนุก ต้องสงกรานต์ที่มัฆวาน นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมัฆวานที่มีประเพณีสงกรานต์

เมื่อสักครู่ พี่สนธิบอกว่าจะมีรางวัลให้กับนางสงกรานต์ พี่น้องทำไมเราเรียก นางสงกรานต์ ทำไมเราไม่เรียก นางสาวสงกรานต์ ก็มีความหมายอยู่ในตัวว่า ถ้าอายุต่ำกว่าเลข 5 เขาไม่รับสมัคร แต่อาจจะสามารถใช้คำว่า นางสาวได้ เพราะกฎหมายเขาแก้ไขใหม่แล้ว คุณยายอายุ 80 สามารถใช้คำว่า นางสาว ก็ได้ กลับไปใช้นามสกุลเดิมก็ได้ หรือจะใช้นามสกุลสามีก็ได้ ไม่มีปัญหา ตอนนี้กฎหมายให้เสรีภาพ สิทธิสตรีในการจะใช้ชื่อ นามสกุล ใช้คำนำหน้า

แต่งานที่สำคัญก็คือ เรายึกหลักประเพณีสงกรานต์ที่เป็นของไทยๆ อย่างแท้จริง คุณสนธิบอกว่าจะมีรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ซึ่งผมเห็นแล้ว พระพุทธรูปที่พี่สนธิพูด ทำพิธีปลุกเสกที่วัดบวร สมเด็จสังฆราชองค์ปัจจุบันเป็นผู้ปลุกเสกและทำพิธีกรรม เรื่องนี้ผมเห็นแล้ว ใครได้ไปบูชาจะเป็นมงคลกับชีวิต สำหรับผมขอจองรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาอะไรให้กับนางสงกรานต์ของเรา เพราะว่าอย่างไรก็ตาม ต้องเป็นของที่มีคุณค่า ติดตัว ประดับกายและอยู่กับท่านตลอดไป อย่างน้อยไปไหน ความคิด จิตวิญญาณของพวกเราเพื่อบ้านเมือง ก็ยังอยู่ร่วมกันตลอดไปครับพี่น้องครับ

อีกข่าวหนึ่ง วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย และประชุมแกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 ผมเข้าใจว่า เวทีนี้คงได้รายงานให้พี่น้องทราบแล้ว วันนี้การประชุมเป็นไปด้วยดี และมีบรรยากาศที่ทำให้พวกเรา ที่ผ่านการต่อสู้ร่วมกันมา ได้มองเห็นสัจธรรมของการต่อสู้ และได้สรุปบทเรียนการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2547, 48, 49 จนมากระทั่งถึงปัจจุบัน บทเรียนหนึ่งที่เราค้นพบ และเป็นบทเรียนที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ เป็นภูมิปัญญาที่เกิดจากการต่อสู้ อย่างที่คุณสนธิได้สรุปไปเมื่อสักครู่ละครับ นั่นคือ 1 บทเรียนอันทรงคุณค่าสำหรับพี่น้องประชาชน ว่าต่อไปนี้พวกเราพี่น้องพันธมิตรฯ จะไม่กินยาแทนคนอื่นแล้ว วันนี้รัฐบาลที่ปกครองบ้านเมืองในขณะนี้ เป็นรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากความภาคภูมิใจของบรรดาแม่ยกและขุนนางจำนวนหนึ่งที่ร่วมกันปลุกปล้ำรัฐบาลแหลชุดนี้ขึ้นมา เมื่อคุณปลุกปั้นเขาขึ้นมาและประคับประคอง เขาบอกนี่เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ก็ขอให้บรรดาพวกท่านทั้งหลายที่ช่วยกันปลุกปั้นนายแหลขึ้นมา ช่วยให้มันรอยตายจากเงื้อมือของเสื้อแดงหน่อยแล้วกัน

ในเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวานนี้ แกนนำที่ออกมาปราศรัย ยังยืนยันในแนวทางต่อสู้แบบเดิมๆ พี่น้องฟังแล้วคงเศร้าสะเทือนใจว่า ทำไมบ้านเมืองยังมีคนกล้าหาญจะกร้าวร้าวต่อสถาบันเบื้องสูงถึงขนาดนี้ ในเมื่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และบรรดาแม่ทัพนายกอง อาสาตัวมาว่าจะออกมาปกป้องสถาบัน และจัดการกับกระบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เราก็ขอดูฝีมือหน่อย โดยพวกเราขอนั่งดูเฉยๆ เหนื่อยแล้ว อย่าดีแต่พูด และรัฐบาลประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์เก่งนักเก่งหนา บรรดาแม่ยกทั้งหลายที่เชลียร์นายอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลที่เก่งนักเก่งหนา ก็ควรออกมารับมือกับการต่อสู้ การลุกขึ้นสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดง เอาเองแล้วกันนะครับ แต่ทราบว่าเขาสู้นะครับ นายมาร์คบอกสู้ แม้ว่าแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ยืนเคียงข้างเขาแล้ว ไม่ปกป้องเขาแล้ว เขาจะไปปกป้องมึงได้อย่างไร ก็มึงคนเนรคุณ ไม่เป็นไรเมื่อ 5 แกนนำไม่ยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปัตย์ ไม่ยอมยืนหยัดพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ เขาจะตั้งแกนนำขึ้นมาใหม่ 5 คน ชื่อว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ วันนี้เขาประชุมกันเรียบร้อยแล้ว เตรียมรับมือสู้คนเสื้อแดง เพราะฉะนั้น ณัฐวุฒิ จตุพร หมอเหวง ธิดา เตรียมรับมือไว้ เขาประชุมกันแล้ว เขาตั้ง 5 แกนนำขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่า เขาไม่พึ่งพวกเราก็ได้

พี่น้องรู้ไหมว่าเขามีใครบ้าง ผมไปสืบมาแล้วปรากฏว่า 5 แกนนำของเขาเลียนแบบเรา เป็นความลงตัวมาก เรียกชื่อว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ นำโดย 1.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 2.จิตกร บุษบา 3.อัญชะลี ไพรีรัก 4.ศิริโชค โสภา 5.นางติ๊งต่าง กาญจนี วัลยะเสรี ครบ 5 พอดี พวกนี้กองเชียร์ แกนนำประชาธิปัตย์สู้ตาย ทำไมผมไม่เอ่ยถึงหมอตุลย์ หมอตุลย์ยังเจียมเนื้อเจียมตัว เขาบอกเขาไม่ด้านพอที่จะไปเป็น 5 แกนนำ เลยยังเก็บเนื้อเก็บตัว ยังไม่ออกมารบ ออกหน้าแทนพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ วันนี้เขาประชุมกันแล้ว เรารอดูว่า บัดนี้แกนนำเสื้อแดงชักธงรบกับพวกแกแล้ว แกก็เกณฑ์มวลชนสนับสนุน แม่ยกประชาธิปัตย์ทั้งหลายออกไปรบกับเขาเอาเองแล้วกัน พวกเราอย่างที่พี่สนธิบอกไว้แล้ว เราคือ ทหารพระเจ้าตาก ตีฝ่าวงล้อมออกมา มึงล่อกันเละเมื่อไหร่กูค่อยบดขยี้เมื่อนั้น

วันนี้เราสรุปบทเรียนได้แล้ว วิธีที่จะรักษาพลัง และกำลังพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเป็นพลังที่ดีเลิศ พลังที่งดงาม จิตใจอันกล้าหาญ เสียสละจริงๆ ไว้ เพื่อกู้บ้านกู้เมืองจริงๆ ก็คือ ยุทธวิธีตีฝ่าวงล้อมออกมาแล้วปล่อยให้มันปะทะกันเอง ถ้าจะมีเลือกตั้ง เราก็กลยุทธ์โหวตโน เพราะไม่ว่าเลือกใครก็อัปรีย์ไปจัญไรมา นู้นก็บอก ไม่เลือกเราระวังเขาเผาเมือง เราก็บอกว่า ไม่เลือกมึงก็ไม่เป็นไร หมายว่า ไม่เลือกเราเขาเผาเมือง ถ้าเลือกเขา ก็ได้คนปล่อยให้เขามาเผาเมือง เหมือนกันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าเลือกฝ่ายไหน เมื่อคืนผมก็พูดแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งโกง ทุจริต แล้วยังบริหารบ้านเมืองไม่เป็น แถมขายชาติ ขายแผ่นดินเข้าไปอีก ใช่ไหมครับฝ่ายนี้ อีกฝ่ายก็โกง ทุจริต จะฟอกความผิดให้ตัวเอง นิรโทษให้ตัวเอง แล้วมาทวงทรัพย์สินคืนอีก บ้านเมืองก็ฉิบหายอยู่ดี ไม่พอแถมจะล้มล้างสถาบันเบื้องสูงเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นไม่ว่าเลือกใคร ก็คงอัปรีย์ไปจัญไรมา สู้อยู่บนภูดูหมากัดกันดีกว่าครับพี่น้อง

นี่คือยุทธวิธีอันชาญฉลาดของพวกเรา และไม่มีทางที่เขาจะแก้เกมเราได้ จะมาอ้อน มาขอร้องอย่างไร กูก็ไม่เลือกมึง โหวตโนลูกเดียวใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นแผน 2 ต่อไปนี้ก็คือ กระบวนทัพพวกเรา จะเคลื่อนพลไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้พี่น้องประชาชน ทั้งโหวตโน และที่ไม่ไปเลือกลงคะแนนเลือกใครเลย มารวมพลังกัน เพื่อแปรพลังโหวตโนเป็นพลังของผู้รักชาติ นำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยให้จงได้ เราต้องหาทางล้างระบอบการเมืองนี้ สร้างระบอบการเมืองใหม่ที่เป็นอนาคตและความหวังของประเทศชาติและประชาชนให้จงได้ นี่คือแนวทางยุทธวิธีของพวกเรา

วันที่ 13 พี่น้องเล่นสงกรานต์ เวทีที่นี่ยังปักหลักอยู่ ขอนแก่นจะเป็นเวทีแรกที่จะมีการเคลื่อนพลทีมวิชาการของเราไปเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั่วประเทศ เข้าสู่กระบวนการโหวตโน เรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศไทย โดยจะมีการจัดเวทีเสวนาที่ขอนแก่น พี่น้องอีสาน อุดร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สารคาม เมืองเลย สกลนคร หรือจังหวัดใกล้เคียง ชัยภูมิ พบกันแน่ วันที่ 17 เมษายน ตั้งแต่ 13.00-18.00 น.ผม อ.สมเกียรติ อ.พิภพ ธงไชย พี่สุนันท์ ศรีจันทรา จะไปพบพี่น้องที่ขอนแก่น โรงแรมโฆษะ อย่างแน่นอน เพื่อไปพบปะกับพี่น้อง และชูธง จุดประเด็นรณรงค์ให้พี่น้องทั่วแผ่นดินตื่นขึ้นมาร่วมกันเรียกร้องการปฏิรูปประเทศไทย เราต้องปฏิรูปประเทศไทย จัดระเบียบประเทศไทยใหม่เพื่อนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาคตและความหวังของคนไทยทั้งชาติร่วมกัน เราจะไม่อยู่กับการเมืองที่ล้มเหลวอีกต่อไป ถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ว่าหลังจากขอนแก่นแล้วเราจะไปจังหวัดอื่นๆ โปรดติดตามฟังการประชาสัมพันธ์บนเวทีนี้ จนกว่าบ้านเมืองจะได้อนาคตใหม่ และการเมืองใหม่ จริงๆ ของประชาชนไทย

ส่วนเรื่องพรรคการเมืองใหม่ เรารอฟังการประชุม มติของเขา วันที่ 24 เชื่อแน่ว่า อยู่ที่เสียงพี่น้องประชาชนและสมาชิก เมื่อมีความเห็นอย่างไรเราจะไปในแนวทางเดียวกัน วันที่ 24 ทราบว่าเขาจะประชุมกันที่สนามกีฬา เป็นการประชุมใหญ่ สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ และพี่น้องที่เป็นพันธมิตรฯ ไปร่วมประชุม และลงประชามติในวันนั้นแล้วกันว่า อยากให้พรรคการเมืองใหม่เขาเดินไปทางไหน เชื่อแน่ว่าเขาคงต้องฟังเสียงพี่น้องประชาชน เพราะว่า เมื่อเป็นพรรคของพี่น้องประชาชนก็น่าจะเคารพความคิดเห็นของประชาชน วันนั้นพี่น้องไปกันให้เยอะๆ แล้วกัน ไปบอกเจตนารมณ์ของพวกเราว่า เราต้องการให้โหวตโน ไม่ลงเลือกตั้ง และโหวตโน ถ้าใครเห็นด้วยปรบมือดังๆ ยาวๆ ให้ได้ยินไปถึงพี่น้องสมาชิกทั่วประเทศว่า เราต้องไปด้วยกันอย่างมีพลัง

พี่น้องครับ เรื่องนี้เคยมีบทเรียนเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว พรรคแอลดีพี ยึดครองอำนาจมายาวนาน แต่มีพรรคการเมืองตั้งขึ้นมาใหม่ เขาคัดค้าน เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง และเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง เปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งใหม่ หากพรรคแอลดีพีไม่เอาด้วย เขาก็รณรงค์ให้ประชาชนออกมาร่วมเคลื่อนไหว ท้ายที่สุดพรรคแอลดีพีก็ยอมรับให้มีการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงการเลือกตั้ง และกระบวนการเลือกตั้งเสียใหม่ พอเลือกตั้งอีกที พรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ได้รับเสียงชนะ โค่นล้มพรรคแอลดีพีลงไปได้ นี่คือบทเรียน เพราะฉะนั้นเราต้องแปรเปลี่ยนพลังของกระแสพี่น้องที่โหวตโน และพี่น้องที่เบื่อและไม่เอาด้วยกับระบอบการเมือง การเลือกตั้ง ให้เป็นพลังของการเรียกร้อง ให้คนไทยทั้งประเทศลุกขึ้นมาร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย ปฏิรูปการเมืองใหม่ไปสู่อนาคตที่ดีกว่าการเมืองเก่าที่เป็นอยู่ให้จงได้ นี่คือยุทธวิธี แนวทางที่เราจะเดินไปข้างหน้า ต้องถือว่าเป็นข่าวดีของพวกเรา

พี่น้องครับวันนี้ต้องยอมรับว่า เมื่อเราเดินแนวทางอย่างนี้จะมีกระแสต้านเยอะ แต่แปลกนะครับ กระแสต้านแทนที่จะมาจากปีกฝ่ายพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมชาติเพื่อแผ่นดิน พรรคเพื่อไทย พวกนั้นไม่มีใครออกมาต้านกระแสโหวตโนของพวกเราเลย แต่กลายเป็นว่า คนที่ออกมาต่อต้านเราอย่างหนัก และพยายามจะทำลายความชอบธรรมการต่อสู้ของพวกเรานั้น กลายเป็นพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ นี่แสดงว่ากลยุทธ์ของพวกเราได้ผล ว่าเราได้สั่งสอนคนหลอกแดก ตีกิน อย่างถึงเป้า และเข้าถึงแก่นกลางใจเขาแล้วครับ เขาถึงดิ้นรนมาก ถึงตั้ง 5 แกนนำ ออกมาปะทะกับพวกเรา แต่ละคนวันๆ ไม่คิดอะไร คิดหาทางมาทำลายพวกเรา ทำลายกระบวนการของพวกเรา ในขณะที่หัวหน้าใหญ่ แกนนำ หัวหน้าพรรค หุบปากไม่กล้าสู้แล้วครับเพราะโดนไปหลายดอก พูดไม่เป็น หมดสภาพ ก็ปล่อยพวกลิ่วล้อเหล่านี้ออกมา พยายามจะบิดเบือนการชุมนุม การต่อสู้ของพี่น้องประชาชน และพยายามทำลายเครดิต ความน่าเชื่อถือของบรรดาวิทยากร หรือแกนนำของพวกเรา

ทีนี้มันมีคนหนึ่ง เรื่องหนึ่งที่ผมจำเป็นต้องขอเวลาพี่น้องพูดถึง ความจริงแล้วผมไม่อยากพูดถึงเธอเลย เพราะว่าวันก่อน คุณชัชวาลย์อบรมสั่งสอนไปแล้ว เอาอีกดอกหรอครับ คือ วันก่อนคุณชัชวาลย์พูดถึงเธอไปแล้ว ผมก็ไม่อยากพูดถึงสักเท่าไหร่หรอก แต่ว่า หรือไม่ก็มีบางคนมาบอกว่า อย่าไปพูดถึงเธอเลย เธอแย่แล้ว เธอไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อย่าไปรังแกเธอเลย พี่น้องครับ ถ้าเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจริง เธอก็ต้องเป็นคนที่มีมารยาท เธอควรมีความสุภาพนอบน้อมถ่อมตนตามฐานานุรูปความเป็นผู้หญิง และโดยปกติผู้หญิงจะไม่ซ่า จะไม่ร่าน จะไม่แรด จะไม่แสดงวาจาอันไม่งาม อันเป็นการปากเสียอย่างไม่มีเหตุผล ที่สำคัญเขาไม่ควรพูดจามดเท็จกับสังคม อย่างนั้นจึงจะเป็นสตรี เป็นผู้หญิงที่น่าเห็นใจ น่าเคารพ และน่าเมตตา หรือให้ความกรุณา แต่ว่าผมมาดูข้อความที่เธอโพสต์เข้าไปใน Facebook ของเธอเอง ผมก็รู้สึกว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจและน่าขยะแขยง เกินกว่าจะพูด ไม่พูดไม่ได้ เพราะอะไรครับ เพราะถ้าไม่พูด สังคมจะเข้าใจในทางที่ทำให้ผมได้รับความเสียหาย เพราะเธอใช้ปาก และใช้สื่อเผยแพร่ให้สังคมที่อาจไม่รู้ข้อมูล ข้อเท็จจริง หลงเชื่อไปตามวิธีปั้นน้ำเป็นตัวของเธอ ซึ่งถนัดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องถือโอกาสพูดถึงเธอบ้าง ตามเหตุและผลอันสมควร ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของผม และเป็นการสิทธิอันชอบธรรมของตัวเองตามควรแก่เหตุ และไม่ประสงค์ทำร้ายทำลายเธอ เพราะเธอเป็นคนที่ทำลายตัวเองและขุดหลุมฝังศพตัวเองต่างหาก

ผมจำได้ว่าผมเคยพูดถึงเธอว่าอย่างไร ผมเคยพูดถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกผมไม่เอ่ยชื่อเธอเลย ผมบอกว่า ในการต่อสู้ที่นี่บางคนเคยขึ้นเวทีที่นี่แต่วันนี้ไม่ได้มาขึ้นเวทีนี้ แต่ไม่ยอมบอกความจริงกับพี่น้องประชาชนว่า ไม่มาขึ้นเวทีที่นี่เพราะอะไร เพราะญาติพี่น้องตัวเองไปทำมาหากินอยู่ที่กัมพูชา ไปซุกปีกพึ่งพิงบารมีฮุน เซน ไปค้าขาย หนีคดี เปิดบ่อนอยู่ที่กัมพูชา ก็เลยไม่กล้ามาขึ้นเวทีนี้ แต่ไปบอกกับประชาชนว่า ไปขอทำหน้าที่สื่อ ความจริงแล้วบอกกับพี่น้องประชาชนตรงไปตรงมาเราก็เข้าใจได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องแหลหรือพูดจาไม่ตรงกับความเป็นจริง นี่ผมพูดอย่างนี้ เปิดเทปฟังก็ได้ แล้วผมก็ไม่ได้เอ่ยชื่อเธอเลย อาจจะมีคนอื่นมาช่วยไขปริศนาแทนผม แต่ไม่ว่ากัน ความจริงเป็นอย่างนี้ประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 2 ต้องยอมรับว่า เธอไปทำงานเป็นที่ปรึกษา เป็นสตาฟ เป็นทีมงานให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที และไปทำงานช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ ถึงขนาดไปออกรายการวิทยุ สัมภาษณ์นายกฯ อภิสิทธิ์ แหลมาแล้ว ด้วยเหตุผลที่ไปอยู่กับเขาอย่างนี้ ผมเข้าใจ เพราะสมัยผมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก็ถูกนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ พยายามกดดันคุณหญิงว่าอย่าให้ผมขึ้นเวทีพันธมิตรฯ อย่าออกรายการ ASTV ผมเคยเจอแบบนี้มาแล้ว เมื่อเธอประสงค์ไปทำงานเป็นที่ปรึกษาเขา เธอก็คงถูกเรียกร้องให้ทำงานรับใช้เขาให้สมกับที่เขาให้เกียรติไว้วางใจให้เธอเป็นทีมงานของรัฐมนตรี เธอคงอยากแสดงฝีมือให้เขาไว้วางใจ ประกอบกับเธอนิยมชมชอบอยู่แล้วที่อยากจะคบคนแหลแบบนั้น เราไม่ว่ากันถ้าประสงค์ไปทำงานแบบนั้น บอกกับพี่น้องตรงไปตรงมาก็จบเรื่อง ไม่เอา ผมก็ไม่ว่าอะไร ครั้งสุดท้ายผมบอกว่า ไปทำงานนั้นก็มีเรื่องเป็นปากเป็นเสียงกันกับคุณผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่ง ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเป็นใคร เพราะฉะนั้นบอกประชาชนไปเสียว่า ที่ไม่มาขึ้นเวทีเพราะเรื่องอย่างนี้

ทีนี้แทนที่เธอจะตอบ อธิบาย ชี้แจงในเรื่องที่ผมพูด โดยมารยาท โดยความเป็นผู้ดี หรือคนที่อยากจะตอบโต้เขา ก็ต้องตอบโต้ในสิ่งที่เขาพูดว่ามันไม่จริงอย่างไร ฉันไม่ได้มาขึ้นเวทีนี้เพราะอะไร ฉันทำงานรับใช้เขาเพราะอะไร ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวเพราะอะไร ทำไมไม่ตอบโต้ เธอกลับมาตอบโต้ผมอย่างไร ผมดูใน Facebook เธอตอบโต้ว่าอย่างไร หลังจากมีคนโพสต์เข้าไปใน Facebook เธอ บอกว่ามีคนโจมตีคุณ คุณชัชวาลย์พูดเรื่องนู้นเรื่องนี้ เธอก็ตอบโต้คุณชัชวาลย์ไปแล้ว และคุณชัชวาลย์ก็ตอบโต้ไปแล้ว แต่มีอีกประเด็นพาดพิงมาถึงผม ผมไม่ตอบไม่ได้ คนที่โพสต์เข้าไปบอกว่า ยังมีคนที่ปากกล้าขาไม่สั่นอีกคนนะคะพี่ปอง คืนก่อนก็เหน็บพี่ปองเหมือนกันค่ะ เขาพูดแค่นี้คนที่โพสต์เข้าไป เธอตอบว่าอย่างไร เธอตอบว่า ทนายปากหมาใจต่ำ นั่นหรือ นี่ข้อความของนางอัญชะลี ไพรีรัก เขียนอย่างนี่นะครับ จะได้รู้ว่าเธอมีวุฒิภาวะทางจิตใจ และเลือดลมในร่างกายสำหรับสาววัยนี้พุ่งพล่านอย่างไร จะได้รู้ว่าเธอใช้วาจาอย่างไร แทนที่จะตอบว่า ที่ไม่มาขึ้นเวทีเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ เขาพูดแค่นี้แทนที่เธอจะตอบ เธอบอกว่า อ๋อทนายปากหมาใจต่ำนั่นหรอ นี่มันสะท้อนวุฒิภาวะ และอารมณ์อันพุ่งพล่าน เลือดลมมันไม่ปกติของเธอแล้วนะ ผมไม่เคยด่าเธอว่า เธอเป็นผู้หญิงปากหมา ทั้งๆ ที่ในดีเอ็นเออาจจะมากกว่าผมก็ได้ เพราะใครก็รู้ว่าเธอปากหมาเรียกพี่ เรื่องแรดๆๆ ฉอดๆๆ มันยิ่งกว่าสุนัขเรียกพี่แล้ว ผมยังไม่เคยว่าเธอเป็นแบบนี้เลย ใจต่ำ ผมก็ไม่รู้ว่าใครใจต่ำ ผมน่ะใจไม่ต่ำ แต่คนใจต่ำน่าจะมีเธอมากกว่าผมนะ เพราะแยกดี แยกชั่ว แยกผิด แยกถูกไม่ได้ นั่นหรือเขาบอกให้ไปถาม สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซิ คนๆนี้รู้ดีว่า ทนายปากหมาขาสั่นคนนั้นเลวแค่ไหน หรือไปถามคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ก็ได้รู้ดีว่าทนายคนนี้ชั่วอย่างไร ถ้าไม่พอไปถามคุณนาตยา แดงบุหงา อีกทีก็ดี จะได้รู้ซึ้งถึงความสารเลวของทนายคนนี้ ที่มันเหน็บดิฉันเพราะดิฉันไม่เคยให้ค่ามัน ไม่ช่วยมันในวันที่หลอกประชาชนไปทำงานสนองตันหาของมัน ว่าไปนั่นครับ

พี่น้องครับ ใครอ่านก็รู้แล้วว่าใครใจต่ำ ใครใฝ่ต่ำ เพราะคำพูดของเธอมันต่ำยิ่งกว่าต่ำครับพี่น้อง แล้วสอง พยายามจะเสี้ยมว่า อยากรู้ว่าผมเลวอย่างไร ให้ไปถาม อ.สมเกียรติ อ.สมเกียรติ กับผมไม่เคยมีปัญหา และ อ.สมเกียรติ จะรู้ได้อย่างไรว่าผมเลว ถ้าคุณรู้ว่าผมเลวอย่างไรทำไมคุณไม่พูดออกมานางแหล ทำไมคุณไม่พูดเอง ทำไมคุณต้องไล่ประชาชนไปถาม อ.สมเกียรติ อ.สมเกียรติ ไม่สบาย ทำไมคุณต้องยืมปากคนอื่น ทำไมคุณไม่กล้าหาญจะพูดเอง ถ้าผมเลว ถ้าผมเลวคุณเอาข้อมูลไปให้พ่อคุณซิ บักแหล ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลย ผมมันคนจริงไม่เหมือนคุณ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็คือ ตามสันดาน พยายามจะเสี้ยมให้เราทะเลาะกัน บอกให้ไปถามสมเกียรติ เพื่อจะบอกให้คนรู้ว่า ลับหลังสมเกียรติก็คงแอบนินทาผมให้มันฟัง ความจริงแล้วสมเกียรติกับมันไม่เคยคุยกันเลยครับพี่น้อง แล้วสอง ถึงคุยกัน ผมก็ไม่เชื่อว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะอธิบายความชั่วความเลวอะไรของผมให้นางนี้ฟัง เพราะผมไม่มีเรื่องอะไรที่สมเกียรติจะเล่าให้เธอฟัง ผมไม่แบมือขอใคร ไม่รีดไถเงินใคร ไม่ได้โกงปล้นใคร ไม่ได้ทำความชั่วความเลว ผมไม่ได้วิตกตื่นเต้น

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็นวิธีการของการพยายามจะเสี้ยมคนอื่นให้ทะเลาะกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่มีมูลความจริง และเป็นเท็จ อันที่สอง บอกว่าไปถาม คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช นางแหลเอ๊ย ผมกับคุณหญิงกัลยา ถ้าเขามีปัญหาอะไรกับผม ถ้าผมเป็นคนชั่ว คนเลวจริง คุณหญิงกัลยาจะเสนอชื่อแต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษา โดยเถียงกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ในที่ประชุม ครม.ว่าเขายืนยันตั้งผมหรอ โดยผมไม่ต้องแหลเสนอหน้าอยากเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีไอซีทีเหมือนเธอ เขาตั้งเอง เขาเสนอเอง แล้วสอง ไปดูผลงานที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ ไปดูผลงานซิ ทั้งลูกเขย คุณพูนสันต์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา และคุณหญิง ทั้งผม หลังจากผมออกมาแล้ว คุณหญิงกัลยาโดนคดี นายเรืองไกรร้องเรียนคดีหุ้น เขายังตั้งให้ผมเป็นทนายแก้ต่างจนคดีชนะมาแล้ว เธอทำไมไม่ไปถาม คนระดับผู้ใหญ่อย่างคุณหญิงกัลยา เขาเป็นคนอยู่เหนือความต่ำของเธอ นางแหล ขนาดคนในพรรคประชาธิปัตย์พยายามไปค่อนแคะ ค่อนขอด พูดจากคุณหญิงกัลยาว่า ทำไมปล่อยที่ปรึกษา คุณประพันธ์มาพูดถึงพรรค ถึงนายกฯ อย่างนั้นอย่างนี้ คุณหญิงยังเฉยเลย เขาทำหน้าที่ของเขาครับพี่น้อง ที่สำคัญ นางนี่ ร้อยวันพันปีไม่เคยไปคุยอะไรกับคุณหญิงกัลยาเลย แล้วทำไมมาอ้างว่า คุณหญิงกัลยาจะสาธยายความเลว ความชั่วของผม ทั้งๆ มันไม่มีอยู่แล้ว ให้เธอฟัง เธอจะไปแหลมาจากไหน ตลกไหม

เพราะฉะนั้น นี่มันเป็นคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แล้วตัวเองไม่มีเครดิตก็เอาชื่อผู้หลักผู้ใหญ่มาอ้าง ทั้งสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ทั้งคุณหญิงกัลยา พี่น้องอยากถามต้องไปถามประชาชนที่นี่ ทั้งนั้น เธอมาถามประชาชนที่นี่ว่าเขารู้จักเธอดีอย่างไรต่างหาก ไม่ใช่รู้จักผมดี อันนี้เป็นวิธีที่สกปรก และเป็นเท็จ เป็นวิธีน่ารังเกียจ กุลสตรีอย่างเธอไม่น่าพูดจาแหลอย่างนี้ ส่วนที่บอกว่า หรือให้ไปถามนางนาตยา แดงบุหงา นี่ไปจำขี้ปากนายศิริโชค โสภา มาอีก ทั้งๆ ที่ผมตอกหน้า ศิริโชค โสภา ไปตั้งนานแล้ว เธอไปจำขี้ปาก เก็บเล็กผสมน้อยมา นี่ถ้าเธอรู้ว่าฉันมีความชั่วอย่างไรเธออย่าไว้ซิ เอาข้อมูลทั้งหมดไปบอกพรรคประชาธิปัตย์ ให้เขามาถล่มผมซิ นางแหลคุณจะได้ความดีความชอบ ไม่ต้องปิด ทำไมต้องไล่เขาไปถาม ไปถามเขาจะตอกหน้าคุณอีก ไปถามคุณหญิงเขาจะได้ตอกหน้าคุณอีก จริงๆ แล้วตัวเองไม่เคยถาม ตัวเองไม่เคยพูด ตัวเองไม่เคยรู้ แต่จะไล่คนที่ถามคำถามนี้ไปถาม แล้วทำไมเธอรู้ไม่เขียนลงไปใน Facebook ของเธอล่ะ นี่สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเธอไม่มีเหตุผล สุขภาพร่างกาย จิตใจคงไม่ปกติ และไม่รู้จะเอาข้อเท็จจริงอะไรมาตอบโต้และหาเรื่องด่าทอผมเสียๆ หายๆ ก็เลยพูดจากแบบกำกวมรวมๆ เพื่อให้คนเข้าใจว่า ผมคงมีความชั่วหมกเม็ดไว้เยอะ อยากรู้ไปถามคนนี้ๆ ซิ เผอิญคนที่เอ่ยมาไม่มีใครมีข้อมูลความชั่วของผมเลยครับพี่น้อง

ส่วนที่มันเหน็บฉัน เพราะดิฉันไม่เคยให้ค่ามัน ไม่ช่วยมันในวันที่หลอกประชาชนไปทำงานสนองตันหาของมัน ผมไม่เคยหลอกใครมาทำงานสนองตันหาผมเลย ต่างจากคุณต่างหากที่หลอกคนไปสนองตันหาคุณ เรื่องบานบุปผาบานพร้อมภัก ออกบิลให้เขาเรียบร้อยหรือยัง หรืออะไรต่างๆ ที่ไปหลอกคนอื่นมาทำนู้นทำนี่ ผมไม่เคยหลอกใครเลยครับ แต่ใครที่หลอก เธอต่างหากที่หลอกประชาชน เพราะมาอยู่เวทีนี้ก็บอกเป็นพันธมิตรฯ พอไปอยู่เวทีนู้นก็บอกว่า อยากทำงานสื่อ พอมาขึ้นเวทีนี้ก็บอกทำงานสื่อเพื่อจะได้ใช้สื่อในทางเลือก และทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน พอไม่อยากขึ้นเวทีก็ไปลงเวทีนู้นบอกว่า ดิฉันอยากทำหน้าที่สื่อ ใครกันแน่พูดจาแหลไปแหลมา กลับไปกลับมา

ไปให้สัมภาษณ์ว่า ดิฉันยังส่งกำลังใจมาให้พี่น้องอยู่เสมอ อย่างนั้นอย่างนี้ ส่งกำลังใจอะไรด่ากูอย่างนี้หรอส่งกำลังใจแบบนี้หรอ นี่แหลหรือเปล่า พูดกลับไปกลับมา นี่เขามีวิะส่งกำลังใจแบบนี้ผมก็ขอส่งกำลังใจไปให้เธอด้วยแล้วกัน บอกยังสนับสนุน ยังรักกันดี แล้วเสือกใช้คำว่า ปากหมา ใจต่ำ รักกันดี เพราะฉะนั้นใครจะให้ค่าใคร ไม่มีใครตีค่าตีราคาตัวเองได้ นอกจากประชาชนเป็นผู้ประเมิน วันนี้ประชาชนเขาประเมินค่าของคุณแล้ว คุณเข้าไปดูในเว็บไซต์แล้วกันว่า คนที่ไร้จุดยืน ไม่มีหลักการ แหลไปแหลมานั้น ประชาชนที่นี่เขาไม่ต้องการครับ

เพราะฉะนั้นที่เธอพูดในประเด็นนี้ใช้ไม่ได้ แล้วสองก็คือ การที่ไปบอกว่า สิ่งที่คุณเป็นในขณะนี้ ทำไมคุณถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมคุณถึงตกต่ำแบบนี้ ก็เพราะคุณเลือกที่จะยืนอยู่ 2 ขา คือด้านหนึ่ง คนไม่มีจุดยืนจะเป็นอย่างนี้ ด้านหนึ่งก็อยากไปทำมาหากิน อยากเอาความดีความชอบ รับใช้ประชาธิปัตย์ ด้านหนึ่งกลัวตัวเองจะเสียชื่อเสียงกับประชาชน พี่น้องพันธมิตรฯ เลยถ่างขา จนวันนี้เดินขาเป๋เหมือนเป็ดแล้ว วันนี้ขาวต้องเป็นขาว ดำต้องเป็นดำ ผิดต้องเป็นผิด ถูกต้องเป็นถูก เธอจะเลือกยืนอยู่ตรงไหนเธอต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ไม่มีทางจะยืนถ่างขาแล้วตีกินกับทุกข้าง กับพี่น้องจะมาตีกิน กับประชาธิปัตย์จะไปรับใช้เขาตีกิน คนแบบนี้ไปไม่รอด สุดท้ายไม่มีใครเอาเธอ ต้องแปลความนะ คำว่า ไม่มีใครเอาเธอ อย่าไปแปลความเป็นอย่างอื่นนะ ถ้าเธอจะไปอยู่ประชาธิปัตย์ อยากรับใช้เขา ก็ประกาศตัวไปเลยไม่ต้องอาย ไม่ต้องเขิน ไม่ใช่อีกด้านก็ให้คนมาเคลียร์ ขอร้องบนเวทีนี้อย่าพูดถึงหนูนะ อย่างนั้นอย่างนี้ ให้คนมาเคลียร์มาล็อบบี้ เพราะเป็นห่วงพี่น้องประชาชนจะไม่เข้าใจเธอ เขาจะเข้าใจเธอได้อย่างไรในเมื่อเธอปากเสียอย่างนี้

พี่น้องครับ แต่เรื่องที่อัปยศกว่านั้นก็คือ เธอตอบต่อไปว่า เธอไม่เคยเป็นหน้าห้อง ไม่เคยรู้จักมัลลิกา ทนายปากหมาขาสั่นมีปากหาเรื่องคนไปทั่ว เธอบอกเธอไม่รู้จักมัลลิกา ทำไมต้องแหลกันขนาดนี้ ไปทำงานอยู่กระทรวงไอซีทีกับจุติ ไกรฤกษ์ ไม่รู้จักมัลลิกา บุญมีตระกูล ได้อย่างไร เธอก็ปากพอๆ กับเธอนั่นแหละ แล้วบอกไม่เคยรู้จัก ตลกไหมครับพี่น้อง ในเมื่อมัลลิกาเป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่ง ส่วนเธอเป็นที่ปรึกษาไม่โดยตำแหน่ง แล้วไปทำงานกระทรวงไอซีที ถ้าเธอบอกไม่รู้จักก็เท่ากับโกหกคำโต เป็นผู้หญิงโกหกไม่งามเลย เสียหายมาก ถ้าไม่รู้จักแล้วทำไมบอกว่า วันนั้นวันนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ใช้ให้เธอไปทำงานอันนู้นอันนี้ เธออ้างทำไม เพราะฉะนั้นอันนี้ก็โกหก

สองพาดพิงบุคคลที่สาม บอกผมให้ไปดูแลคนนั้นคนนี้ มีกิจการอยู่ตรงนั้น หาว่าผมมีผู้หญิงอื่นแล้วไปดูแลกิจการของผู้หญิงคนนั้น นี่เธอโกหกหน้าด้านๆ และไม่ควรจะพูดเลย เป็นผู้หญิงด้วยกัน โดยทั่วไปเขาจะไม่พาดพิงผู้หญิงด้วยกันในทางเสียหาย แล้วเธอมารณรงค์สิทธิสตรีให้สตรีมีคุณธรรม ให้สตรีมีบทบาทต่อสังคม ให้สตรีมีความเข้าใจหน้าที่ ให้สตรีมีบทบาทในทางสร้างสรรค์ ก้าวหน้า แล้วทำไมเธอทำตัวน้ำเน่า ล้าหลัง อัปยศ บัดสีอย่างนี้ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็แย่ ไม่ควรพาดพิงบุคคลที่สาม ซึ่งเขาไม่เกี่ยวข้องเลยแล้วเธอก็นั่งจินตนาการเอาเอง ที่เลวกว่านั้น ไม่พูดไม่ได้ ไปพาดพิงถึงภรรยาผม อันนี้เลวระยำมาก ซึ่งผมไม่พูดไม่ได้ เธอบอกว่า ภรรยาผมเป็นอาจารย์อยู่สถาบันนิด้า ทำไมโง่อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่รู้หรือว่าได้ดิบได้ดีเพราะสามี มีรถป้ายแดง ไปซื้อคอนโดให้ สู้แล้วรวย ทำไมเลวอย่างนี้ครับพี่น้อง ภรรยาผมไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตการทำงานทางการเมืองผม แล้วสอง เธอเป็นครูบาอาจารย์ เป็นคณบดี ใครก็รู้ ในสถาบันที่มีชื่อเสียง เธอบังอาจพูดจาใส่ร้ายว่าภรรยาผมโง่ได้อย่างไร เขาจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศ เรียนเตรียมอุดม เขาก็สอบได้ติดอันดับ TOP10 ของประเทศ ลูกชายผมเรียนจุฬาฯ สอบออกได้ที่ 1 ของคณะศิลป์-คำนวณ ของเตรียมอุดม สอบเข้าจุฬาฯ คณะศิลปกรรม คณะเดียวกับลูกนายกฯ ก็สอบได้ที่ 1 ครับลูกชายผม ถ้าพ่อแม่โง่ลูกคงไม่เป็นอย่างนี้ เธอควรจะรู้ว่าเธอกำลังทำความผิด ความเลว ความร้ายแรง ที่เธอไปพูดจากร้าวร้าวถึงคนอื่นที่เขาไม่เกี่ยวข้อง เขาไม่ว่าอะไรตัวเธอเลย ทำไมเธอถึงแรด ถึงร่าน ถึงพล่าน ถึงเลวแบบนี้ แล้วพูดประหนึ่งว่า ผมมีผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดู ซื้อรถให้ผม ซื้อคอนโดให้ผม เลยปิดปากภรรยาผม ผมว่านี่เลวระยำบัดซบ คุณไม่รู้หรอว่าผมเป็นใคร ผมทำมาหากินอะไร ผมประกอบอาชีพทนายความมา 20 กว่าปีเกือบ 30 ปี ทำไมคุณไม่ถามว่า ผมว่าคดีให้เพื่อนของพ่อนายก คดีมรดกหลายร้อยล้าน สำเร็จเพราะฝีมือใคร และคดีอื่นๆ อีกมากมาย ผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ผมต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ผมเป็นที่ปรึกษาคุณหญิงกัลยา เข้าก็แจ้งทรัพย์สินออกก็แจ้งทรัพย์สิน ผมมีเงิน มีทรัพย์สินอย่างไร ผมแจ้ง ไม่เหมือนคนบางคน มีเงินมีทรัพย์สิน ได้มาแล้วงุบงิบเอาไปที่ไหนบ้างไม่รู้เลย เธอไม่ควรใช้คำพูดอย่างนี้ เธอเห็นผมขับรถเล็กซัสป้ายแดง เธอคงนึกว่ามีนารีมาอุปถัมภ์ผม ผมคิดว่าถ้าเธอไม่มีข้อมูล เธอโง่ เธอไม่มีข้อเท็จจริง ไม่ควรปั้นน้ำเป็นตัวและใส่ร้ายคนอื่น ถ้าจะสร้างผลงานให้ตาประชาธิปัตย์ ให้เข้าตานายอภิสิทธิ์ ก็ทำงานให้มีข้อมูลมากกว่านี้หน่อยน้อง จะได้มีอนาคต แล้วถ้าบอกว่าผมมาสู้ตรงนี้แล้วรวย มีนายรีอุปถัมภ์ ทำไมเธอไม่มาล่ะจะได้มีบุรุษอุปถัมภ์เธอจะได้รวยด้วยกัน หนีไปทำไม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ปองจ๋า เธอทำความผิดพลาดอย่างร้ายแรงแล้ว เธอฆ่าตัวเธอตายแล้ว เธอเผยโฉมหน้าตัวตนของเธอออกมาหมดแล้ว ผมไม่อยากพูดว่าผมให้ค่าหรือไม่ให้ค่าคุณ เพราะค่าของคุณก็เป็นที่รู้กันในสายตาประชาชนด้วยตัวคุณกระชากหน้ากากตัวคุณออกมาให้คนเห็นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องราวทั้งหมดที่จำเป็นต้องพูดเพราะอยากเตือนว่า บรรดาแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ แน่จริงดาหน้าออกมาเลย ซึ่งความจริงแล้ว ผมไม่อยากจะพูดถึง แต่ว่าเธอเกินความพอดี ถ้าเขาวิพากษ์วิจารณ์คุณว่าอย่างไรคุณก็ตอบโต้แค่นั้นก็สมเหตุสมผล ถ้าผมวิจารณ์อะไรคุณไม่ถูก หรือพูดจาพาดพิงในทางที่ทำให้คุณเสียหาย คุณก็ชี้แจงมาได้เราไม่ว่ากัน แต่นี้เธอเล่นลามปามไปถึงคนนู้นคนนี้ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ผมถือว่าเธอเป็นสตรี แม้แต่สตรีด้วยกันเธอยังไม่ให้เกียรติ แสดงว่าเธอคงไม่ให้เกียรติตัวเธอเอง และคงไม่ให้เกียรติผู้หญิงทุกคน เพราะเธอมีปากที่ไร้เกียรติ

เพราะฉะนั้นผมหวังว่าความจำเป็นที่ต้องรบกวนเวลาพี่น้องที่อยากจะพูดก็คือ ขอเตือนไปถึงคุณปองว่า ถ้าคุณจะเลือกทางเดินชีวิตของคุณไปทำงานรับใช้ใคร หรือมีจุดยืนอย่างไร เธอก็ไปตามทางของเธอพวกเราไม่ว่า พวกเราจะมีความสุขมากถ้าเธอได้ทำในสิ่งที่เธอเลือก ไม่จำเป็นจะต้องมาทำงานอะไร รับใช้ใครที่เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว ใช้ความเท็จ ใช้ปากพูดจาระรานคนอื่นโดยปราศจากความจริง ถ้าผมไม่จริง ผมไม่มีความจริงอยู่กับตัว ผมยืนอยู่ตรงนี้ และยืนอยู่ที่นี่ และยืนซดกับความชั่ว คนเลวไม่ได้หรอกครับพี่น้อง ทุกคนกระทืบผมตายทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเธอมี ว่าผมไปทำความชั่วความเลวอะไร เธอไม่ต้องเกรงใจว่ามาเลย แต่ถ้าไม่มีอย่าปั้นน้ำเป็นตัว อย่าเอาความเท็จมาพูด เพราะเวทีนี้เราอยู่ได้ เราสู้ได้ด้วยความจริง

เอาละพี่น้องผมใช้เวลารบกวนเวลาพี่น้องมาพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง แต่เป็นความจำเป็น เพราะนึกไม่ถึงว่าในชีวิตจะเจอผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเลวเกินจินตนาการ ผมไม่เคยพูดถึงเธอในทางให้ร้ายขนาดนั้น แต่เธอได้ฆ่าตัวเธอไปแล้ว ผมหวังว่าถ้าเธอยังไม่หยุดผมคิดว่าต้องมีมาตรการต่อไป แต่ถ้าเธอหยุด กลับเนื้อกลับตัว ยุติเสีย ผมคงจะไม่ต้องพูดถึงอีก แต่ถ้าไม่หยุดและเดินหน้าต่อ ผมจำเป็นต้องใช้มาตรการดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้อง เกียรติ ศักดิ์ศรี และรักษากระบวนการพี่น้องประชาชนไม่ให้คนเลวมาทำลายจิตใจและเจตนารมณ์อันดีงามของพี่น้องประชาชน นี่คือความตั้งใจ และหวังว่าสิ่งที่พูดคงไม่เป็นการทำให้พี่น้องเสียความรู้สึก เพราะผมคำนึงอยู่เสมอว่า เธอเป็นผู้หญิง จะพูดอะไรเราต้องระมัดระวัง แต่ผมคิดว่าถ้าเธอพูดอย่างนี้ผมจำเป็นต้องตอบโต้และชี้แจง เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นผู้หญิงจะพูดทำนองนี้ เอาละรบกวนเวลาพี่น้องมาพอสมควรแล้ว ผมขอกราบขอบพระคุณ และเราจะยืนหยัดอยู่ด้วยกัน เดินไปในแนวทางนี้ร่วมกัน จนกว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ ขอบพระคุณมากครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น