ประธาน กก.พิจารณาแนวทางแก้ไข รธน. ส่งการบ้านนายกรัฐมนตรี เผยเสนอปรับโครงสร้างการเมืองใหม่ทั้งหมด โดยให้แยกอำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ พร้อมเสนอเลือกนายกฯโดยตรง ผ่านระบบปาร์ตี้ลิสต์ พรรคไหนได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากสุดได้ตั้งรัฐบาล ระบุระบบที่มีอยู่พรรคครอบงำ ส.ส.
วันนี้ (11 เม.ย.) นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า คณะกรรมการฯ ได้นำรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการฯ มอบให้นายกรัฐมนตรี หลังจากปฏิบัติงานจนเสร็จภารกิจ
โดยคณะกรรมการมีข้อเสนอให้มีการปรับโครงสร้างทางการเมืองใหม่ทั้งหมด เนื่องจากโครงสร้างทางการเมืองปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ไขวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นได้ โดยแนะนำให้มีการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นมา 1 ชุดเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญปรับปรุงโครงสร้างทางการเมือง โดยนายกรัฐมนตรีจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในสัปดาห์นี้
“โครงสร้างปัจจุบันมีปัญหามาก แต่โครงสร้างใหม่นั้นอย่งแรกควรมีการแบ่งแยกอำนาจให้ชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และ ส.ส.ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว นอกจากนี้คณะกรรมการฯยังเสนอให้ประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงแทนระบบที่ใช้ในปัจจุบัน ที่ประชาชนเลือก ส.ส.และ ส.ส.มาเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะส.ส.จะต้องใช้เงินมากที่จะทำให้ตัวเองได้รับเลือกตั้ง เพื่อให้ได้สิทธิเข้ามาเลือกนายกรัฐมนตรี”
นายสมบัติกล่าวว่า ระบบปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ทำให้พรรคครอบงำ ส.ส.ทั้งหมด แต่ระบบใหม่ที่มีการเสนอไปนั้นให้ประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ผ่านการเลือกตั้งในระบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคไหนได้รับเลือกมาในระบบบัญชีรายชื่อมากกว่าพรรคนั้นก็ได้เป็นรัฐบาล และหัวหน้าพรรค จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะมีการจัดระบบใหม่เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องรัฐบาลมีเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะเรื่องการเสนอกฎหมาย เพราะหากกฎหมายฉบับใดที่รัฐบาลนำสู่สภาผู้แทนราษฎร และต้องการให้ผ่านการพิจารณาเนื่องจากเป็นกฎหมายสำคัญ รัฐบาลก็ต้องหาเสียง ส.ส.มาสนับสนุน เหมือนระบบที่สหรัฐอเมริกากำลังใช้อยู่ ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็สามารถมีส่วนร่วมโหวตสนับสนุนกฎหมายได้ทุกฉบับ โดยไม่ถูกพรรคครอบงำ และหากกฎหมายใดรัฐบาลเสนอแล้วไม่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบเหมือนในอดีต แม้จะเป็นกฎหมายการเงินเหมือนในอดีตเพราะถือว่าฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นอิสระต่อกันอย่างชัดเจน โดย ส.ส.ร.ชุดที่จะมีการจัดตั้งขึ้นใหม่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญและระบุเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยว่าให้ประชาชนเลือก พรรคเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเมืองทั้งหมด
นายสมบัติกล่าวว่า นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาพรรคการเมืองนำเงินนอกระบบมาใช้ คณะกรรมการฯ เสนอให้พรรคการเมืองรับเงินบริจาคผ่านระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งสามารถบริจาคได้คนละไม่เกิน 1% โดยพรรคที่ได้รับความนิยมจากประชาชนจะได้รับเงินบริจาคในระดับร้อยล้านหรือพันล้านบาท เพื่อให้มีที่มาของเงินบริจาคให้ชัดเจน