“อภิสิทธิ์” ชี้ ข้อเสนอปฏิรูปการเมือง เป็นแค่ตุ๊กตา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างวุ่นวาย ระบุ รบ.จะไม่นำเข้าสู่การพิจารณาในสมัยนี้ ปัดตอบยุบสภา มิ.ย.ออกลีลาพลิ้ว “ชัดเจนคือยุบเมื่อไรก็เมื่อนั้น” เผย ยังไม่จับขั้วกับใครให้รอหลังเลือกตั้งถึงรู้ผล
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ จ.ราชบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอพรรคการเมืองที่ได้คะแนน ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์มากกว่าควรได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล และการแยกอำนาจบริหารและนิติบัญญัติออกจากกัน ว่า ข้อเสนอของนายสมบัติ เป็นข้อเสนอในเชิงระบบ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ตนย้ำไปแล้วว่า ข้อเสนอนี้สังคมทั้งหมดจะต้องร่วมกันพิจารณาในระยะยาว ฉะนั้น ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะมาชงเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ให้พรรคนั้นพรรคนี้ได้เปรียบ มันไม่มี เพราะถือว่าในส่วนรัฐธรรมนูญจบแล้ว สำหรับรัฐบาลชุดนี้ สองประเด็นผ่านสภาแล้วก็ว่าไปตามขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นอื่นๆ น่าจะเป็นตุ๊กตา หรือเป็นโจทย์สำหรับสังคม และพรรคการเมืองในการเลือกตั้งเพื่อนำเสนอต่อไปว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะหยิบประเด็นนี้ไปหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรายังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ที่ ปชป.ให้ความสำคัญสูงสุด คือนโยบายเกี่ยวกับปัญหาปากท้อง ของแพง ทำอย่างไรจะเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ของแพงได้ เมื่อถามว่า ข้อเสนอที่เขาจะส่งมายังรัฐบาลก็ยังค้างอยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องค้างอยู่ เพราะอย่าลืมว่าตอนที่ตนตั้งคณะกรรมการหลายชุดที่เกี่ยวกับงานปฏิรูปงานปรองดองทั้งหมด ตนบอกแล้วว่า งานของคนเหล่านี้จะอยู่ยาวกว่าอายุของรัฐบาลชุดนี้ ในส่วนของรัฐธรรมนูญขีดเส้นแล้วว่าสำหรับรัฐบาลชุดนี้คือเท่านี้ ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องอนาคต
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเชิงระบบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้ทางพรรคกลับไปพิจารณาเรื่องนี้ เมื่อถามว่า ส่วนที่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวะสุ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ปชป.เคยเสนอก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีเรื่องอื่นอีกตั้งเยอะ เรื่องอยู่ครบเทอมอะไรต่างๆ ส่วนเรื่องของนายกอร์ปศักดิ์ เป็นการพูดในเชิงการเมืองหลังการเลือกตั้งในระบบรัฐสภา ความจริงแล้วในระบบสภาก็แล้วแต่ประเพณีของแต่ละประเทศ เรายิ่งเห็นระยะหลัง หลายประเทศเลือกตั้งแล้วไม่มีใครได้เสียงข้างมาก ซึ่งหลักใหญ่หากใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ บางประเทศเขาก็ไม่มีประเพณีนี้ ผลการเลือกตั้งยังไม่ทันออกมาเลยก็วิ่งแย่งเสียงกัน อย่างที่ออสเตรเลียก็เห็นอยู่ แต่ที่อังกฤษ คนเป็นรัฐบาลเดิมย่อมมีสิทธิ์ได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่พอจัดไม่ได้เขาก็ไปให้พรรคที่ได้เสียงมากกว่าจัด ของเราหากบอกว่าใครได้เสียงมากกว่าก็ไปจัดก่อนก็เป็นลักษณะประเพณีทำนองนั้นอยู่แค่นั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงลึกถึงขั้นว่าถ้าบัญชีรายชื่อใครเยอะกว่าจะได้จัดตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของการพูดในเชิงของปัญหาความชอบธรรมที่มักจะเถียงกัน เพราะบางทีคะแนนที่ไปลงให้พรรคการเมืองมันเป็นการสะท้อนหรือเปล่าว่าคนต้องการให้พรรคไหนเป็นรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าสภาพการณ์จะเป็นอย่างไร ในเรื่องการจับขั้วกันทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ยังไม่มีการพูดอะไรกันเลยนะครับ เพราะถือว่าต้องไปดูผลการเลือกตั้งก่อน”
ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนในการยุบสภาเดือน มิ.ย.ตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายกอร์ปศักดิ์ ระบุหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่พูดเรื่องยุบสภา ต่อข้อถามว่า นายกฯไม่พูดเรื่องยุบสภามาหลายวันแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ทำไมจะต้องพูดทุกวันล่ะ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ตกลงจะชัดเจนในเดือน มิ.ย.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยิ้มก่อนตอบว่า “ชัดเจนก็คือ ยุบเมื่อไรก็เมื่อนั้นนั่นแหล่ะครับ” จากนั้นนายอภิสิทธิ์ก็แหวกวงล้อมของสื่อมวลชนออกไปทันที
