บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ แม้ภาพการชุมนุมคนรักชาติวันนี้ อาจดูไม่คึกคักเท่าเวทีเสื้อแดง ซึ่งอาจเป็นเพราะชุมนุมมานานกว่า 70 วัน แต่เวทีแห่งนี้เต็มไปด้วยข้อมูลแห่งความจริง ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลล้วนๆ ขณะที่เวทีเสื้อแดงได้แต่พาดพิงอำมาตย์ เบื้องสูงอย่างเดียว โดยผู้เชี่ยวชาญบนเวทีพันธมิตรฯ แต่ละท่้านกล่าวให้แง่คิดอย่างน่าสนใจ ดังนี้
พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการรวมพลังปกป้องดินแดน กล่าวว่า ขอฝากถึงกองทัพ อย่ายึดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทางมาตรา 74 ที่ให้เป็นกลางทางการเมือง ความมั่นคงของชาติอยู่เหนือความเป็นกลางทางการเมือง อยู่เหนือบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะหากความมั่นคงของชาติล่มสลาย ประเทศก็ล่มสลาย แล้วจะมีรัฐธรรมนูญไปทำอะไร ในเมื่อประเทศล่มสลายไปแล้ว
พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า เราไม่เคยเห็นคนในครอบครัวสถาบัน ออกมาพูดขอความเป็นธรรมให้บิดา ข้อบกพร้องนี้ตนโทษไปที่รัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว ความผิดจาบจ้วง เกิดมานานแล้วในภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังใจเย็น ทั้งที่มีเครื่องมือมากมาย นี่คือ วิกฤตผิดพลาดที่ได้นายกฯหุ่นเชิดเป็นผู้นำของชาติ ดังนั้น หากทำเหมือน 2 ปี ที่ผ่านมา ก็ไม่สมควรเป็นผู้นำอีก
ด้าน พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ คณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า อย่ากะพริบตาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป อาจไม่มีการโหวตโน ฝากเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะเสนาธิการทหารบก วางกำลังให้ว่างอยางน้อย 1 กองพล ในช่วง 1-2 เดือนนี้ อย่างไรก็ดี 1 กองพล ถือว่าน้อยสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองในภาวะเช่นนี้ แต่ไม่ต้องห่วงท่านจะมีพันธมิตรฯหนุนหลัง
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน กล่าวว่า เราไม่เอาเลือกตั้ง แต่ต้องการเอาบ้านเมืองให้หลุดพ้นจากหล่มการเมืองนี้ วันนี้ต้องหยุดกระบวนการเลือกตั้ง เดินหน้าปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้จงได้ประเทศถึงจะมีความหวัง ไม่ว่าเสื้อสีไหนก็ตามต้องช่วยกัน อยากวิงวอนพี่น้องเสื้อแดง เลิกไปตามหน้าคางคก แกนนำคนไหนด่าถึงสถาบันเบื้องสูง ไปทนฟังอยู่ได้อย่างไร ขว้างน้ำแข็งใส่หน้ามันไปบ้างสิ และธิดาแดง ปลุกระดมล้มสถาบัน เปลี่ยนแปลงสถาบันบ้านเมื้องไปสู่ประชาธิปไตยอันไม่มีสถาบัน ต้องเลิกไปงมงายตามมันได้แล้ว มาร่วมกันสร้างสังคมใหม่ด้วยกันดีกว่า
