กกต.ขอบคุณ ส.ส.ผ่านกฎหมายลูกเลือกตั้ง 3 ฉบับ ทำจัดการเลือกตั้งชัดเจน คาดใช้เวลาแปรญัตติในสภาสูงไม่นาน ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เชื่อไม่มีปัญหา เสร็จทันกำหนดการเดิม เล็งเพิ่มเจ้าหน้าที่คุมเลือกตั้งล่วงหน้า คาดประกาศเขตเลือกตั้งกลางเดือนนี้ ชี้บึงกาฬมี ส.ส.2 คน แนะเลิกพูดปฏิวัติ ยันให้ทหารดูแล รปภ.แค่ชายแดนใต้
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่จ.จันทบุรี นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ขอบคุณ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลที่ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ เพราะจะทำให้การจัดการเลือกตั้งของ กกต.มีความชัดเจนมากกว่ามาออกประกาศข้อกำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะทำให้บ้านเมืองสู่การปรองดอง และในวันที่ 11 เม.ย.ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาซึ่งจะมีการตั้งกรรมาธิการแปรญัตติก็คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน คาดว่าจะผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาไม่เกินวันที่ 20 เม.ย. ก่อนจะมีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญที่ก็คิดว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน เพราะเนื้อหาสาระไม่ได้ซับซ้อน ดังนั้น โดยระยะเวลาที่กฎหมายลูกจะแล้วเสร็จก็น่าจะทันกับกำหนดเวลาที่นายกฯ จะยุบสภาช่วงต้น พ.ค.
ส่วนที่มีการแปรญัตติให้ลดวันเลือกตั้งล่วงหน้าเหลือเพียง 1 วัน และให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านั้น นายประพันธ์กล่าวว่า กกต.สามารถปฏิบัติได้ เพียงแต่จะต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งให้มากขึ้น เพราะประชาชนจะต้องมารอคิวลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่าเดิม ซึ่ง กกต.จะแก้ไขปัญหาในการบริหารจัดการต่อไป และการลงทะเบียนล่วงหน้าก็จะทำให้เกิดความแม่นยำ เพราะจะทราบว่ามีผู้มาใช้สิทธิจำนวนเท่าใด และการลงทะเบียนล่วงหน้าจะแก้ปัญหาการขนคนมาลงคะแนนเลือกตั้งที่จะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วย
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า สำหรับการแบ่งเขต ส.ส.ใน 375 เขตนั้น กกต.กลางจะสามารถแบ่งเขตและประกาศได้ในช่วงกลางเดือน เม.ย.นี้ เพื่อให้ผู้สมัครได้เตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่ โดยขณะนี้ทุกจังหวัดได้ส่งรูปแบบการแบ่งเขตมาครบทุกจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนจ.บึงกาฬ ขณะนี้ กกต.ได้ประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว โดยมี ส.ส.2 คนใน 2 เขตเลือกตั้ง นอกจากนี้ในวันที่ 18 เม.ย. กกต.กลางก็จะเชิญประธาน กกต.ประจำจังหวัดมาซักซ้อมในการเตรียมการจัดเลือกตั้งด้วย
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยยังออกมาระบุจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นนั้น นายประพันธ์กล่าวว่า ตนยังเห็นว่าการลงมติของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในร่างกฎหมายลูก 3 ฉบับ แสดงให้เห็นว่าทุกฝ่ายพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วจึงควรเลิกพูดเรื่องปฏิวัติได้แล้ว เพราะผู้บัญชาการเหล่าทัพก็มีท่าทีชัดเจนว่าจะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น รวมทั้ง กกต.ก็ยืนยันจะจัดการเลือกตั้งด้วยความเป็นกลาง สุจริตเที่ยงธรรม เพื่อให้ผลเลือกตั้งออกมาเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินด้วย
นายประพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯมีข้อเสนอมายัง กกต.ให้ทุกพรรคการเมืองร่วมลงสัตยาบันเพื่อให้เลือกตั้งมีความเป็นธรรมว่า การร่วมลงสัตยาบันของพรรคการเมืองทาง กกต.ก็ดำเนินการอยู่ ก่อนหน้านี้ก็มีการเชิญผู้สมัครและพรรคการเมืองมาร่วมลงสัตยาบันในโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์อยู่แล้ว และก่อนการเลือกตั้งทุกครั้งก็จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมพูดคุยทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือไม่ให้พรรคการเมืองกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
“กกต.ไม่อยากจะให้ใบเหลืองและใบแดงแก่ผู้สมัคร เพื่อยุบพรรคใคร แต่หากมีหลักฐานปรากฏที่มีการกระทำผิดชัดเจนก็จำเป็นที่ กกต.ต้องดำเนินการ และในส่วนเรื่องเสรีภาพการหาเสียงก็จะต้องไม่มีการขัดขวาง เพราะหากว่าเป็นคน ของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองเป็นคนของตัวเองต้องห้ามปราม ถ้ารู้ว่าเป็นคนของตัวเองแล้วกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือรู้เห็นเป็นใจ หรือสนับสนุนก็จะกระทบต่อผู้สมัครและพรรคการเมืองนั้น ส่วนในเรื่องของความมั่นคง กกต.ก็ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ทหารช่วยดูแลความปลอดภัยในการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น ดังนั้น พื้นที่อื่นจะไม่มีทหารเข้ามาช่วย กกต.ในการเลือกตั้งแต่อย่างใดตามที่พรรคการเมืองต่างๆ กังวล” นายประพันธ์กล่าว