“สาทิตย์” ปัดกระจุกงบช่วยอุทกภัยที่สำนักนายกฯ เหตุยังไม่มีงบจากการอนุมัติ ต้องใช้เงินบริจาค เผยได้รับรายงาน 4 จ.ภาคใต้ บ้านพัง 30 หลัง เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่ม 5 เม.ย. คาดจ่ายเงินชดเชย 5,000 บาทต่อครอบครัง ทันช่วงสงกรานต์ เตรียมถก ครม.เบื้องต้นช่วยเหลือระยะยาว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (คชอ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ว่า ในการประชุม ครม.วันนี้จะมีการเสนอของบประมาณในส่วนของงบกลาง 2 ส่วนก่อน ส่วนที่ 1 คือ การขอเงินช่วยเหลือเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 บาท จากการตรวจสอบประมาณ 580,000 ครัวเรือน เป็นวงเงิน 2,900 ล้านบาท โดยมีการปรับหลักเกณฑ์การทำงานให้มีความชัดเจนและรวดเร็วมากขึ้น หากครม.อนุมัติตนจะมีการประชุมทางใกล้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันพุธที่ 6 เม.ย.
ส่วนที่ 2 จะมีการของบกลางชดเชยในเรื่องของพืชผลทางการเกษตรและการประศุสัตว์ที่เสียหาย ซึ่งกระทรวงเกษตรได้ทำเรื่องผ่านทาง คชอ.แล้ว อาจจะใช้เงินทั้งหมด 3,200 ล้าน แต่เนื่องจากมีมีวงเงินเหลืออยู่จากการชดเชยพืชผลครั้งที่แล้ว 1,600 ล้าน วันนี้จึงจะเสนอขออีก 1,600 ล้าน และคาดว่าจะเร่งจ่ายเงิน 5,000 บาทให้ทันในช่วงสงกรานต์นี้
นายสาทิตย์กล่าวว่า สำหรับการจ่ายค่าชดเชยทางการเกษตรจะต้องรอให้น้ำลดลงก่อน เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เสียหาย ส่วนอาคารบ้านเรือนนั้นวันที่ 5 เม.ย.ตนจะลงไปในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนี้เรามีรายงานบ้านที่เสียหายทั้งหลังประมาณ 30 หลัง จะครอบคลุมใน 4 จังหวัด คือ จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ และ จ.ตรัง ส่วนบ้านที่เสียหายทั้งหลังจะใช้เงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรีจะทำงานร่วมกับกองทัพบก และจะสนับสนุนในการสร้างบ้านถาวรให้ โดยจะให้ทหารช่างร่วมกับอาชีวะเข้าไปช่วย ซึ่งงบกลางนั้นตนได้มีการเจรจากับสำนักงบไว้เบื้องต้นแล้วว่า 5,000 บาท น่าจะใช้งบประมาณ 2,000 ล้าน
ส่วนเกษตรขอน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้งบประมาณก็น่าจะเพียงพอ สำหรับการฟื้นฟูนั้นจะมีงบกลาง 9,900 ล้านบาท เป็นงบที่ขอผ่านสภาไปแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ฉะนั้นอาจจะต้องมาดูบางโครงการว่าอาจจะใช้งบเดิมแต่ทำให้การฟื้นฟูคลอบคลุมถึงภัยพิบัติในครั้งนี้ด้วยก็จะประหยัดงบได้เยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกระแสข่าวว่างบในการช่วยเหลือไปกระจุกอยู่ที่ นายสาทิตย์ และทางสำนักนายกฯก็ยังให้ความช่วยเหลือที่ล่าช้า นายสาทิตย์กล่าวว่า ขณะนี้ คชอ.ยังไม่มีงบที่อนุมัติ จากการทำถุงยังชีพ 100,000 ถุง 50 กว่าล้าน ก็ใช้เงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเงินจากการบริจาค ขณะนี้ยังไม่มีงบมาช่วยเหลือต้องรอจาก ครม.อนุมัติทั้งนี้ในการประชุม ครม.จะมีการพูดคุยกันในเบื้องต้นถึงภัยพิบัติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะในแต่ละครั้งก็ใช้งบประมาณในการฟื้นฟูจำนวนมาก และหลายที่ที่เกิดภัยในครั้งนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าผังเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป และโครงการของรัฐในการสร้างถนนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ โดยในการประชุมคชอ.วันนี้จะเสนอให้มีการตั้งศูนย์ดูแลแม่และเด็ก ร่วมกับกระทรวง พม.ขอบริจาคของใช้สำหรับสตรีและนมเลี้ยงเด็กให้กับจังหวัดที่ประสบภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นพบว่าเกิดจากนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าทำรีสอร์ทและทำสวนยาง นายสาทิตย์กล่าวว่า ตนคิดว่านั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ก็มีปัจจัยหลายตัวร่วมกัน แต่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเพราะปริมาณฝนเกิน 1,000 มิลลิเมตร ภายใน 3-4 วัน
“รัฐบาลจะหมดวาระนั้นไม่เป็นปัญหาในการดำเนินงาน เพราะหากยุบสภาก็ยังรักษาการ ภัยพิบัติรอสภาใหม่ไม่ได้ ทำอะไรได้ก็ต้องทำไปก่อน เราต้องช่วยประชาชนก่อน”