“สุเทพ” ประกาศขอรับบริจาควัสดุก่อสร้างเพื่อปลูกบ้านให้ผู้ประสบอุทกภัยที่เสียหายทั้งหลัง ระบุหากได้เงินเอกชนช่วยจะคล่องตัวกว่าใช้งบรัฐ เผยจ่ายเงินชดเชยช้าเพราะตัวเลขที่แจ้งสูงเกินจริง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวขอรับบริจาค
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า อยากขอเชิญชวนผู้ที่มีใจกุศลอยากช่วยเหลือคนไทยด้วยกันที่กำลังประสบความเดือดร้อนในภาคใต้ โดยเฉพาะประชาชนที่มีบ้านเรือนพังทั้งหลัง อยากให้ช่วยกันร่วมเป็นเจ้าภาพช่วยซื้อวัสดุก่อสร้างเพื่อมอบให้ทางทหารช่าง หรือทางจังหวัดจัดสร้างบ้านให้แก่ประชาชนเหล่านั้น ซึ่งเท่าที่ประเมินตัวเลขบ้านเรือนที่จะต้องสร้างใหม่ อย่างที่ จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 200 หลัง จ.กระบี่ ประมาณ 145 หลัง และที่ จ.สุราษฎร์ธานีประมาณ 100 หลัง ซึ่งค่าวัสดุก่อสร้างจะสร้างตามแบบบ้านที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทยได้ออกแบบไว้ จะมีราคาประมาณหลังละ 2.4 แสนบาท
“หากใครมีใจกุศลขอให้ติดต่อได้ที่กองทัพบก หรือติดต่อมาที่ผม หรือนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ได้ จะได้ประสานงานในการรับเงินบริจาคนี้และดำเนินการให้คณะกรรมการในระดับจังหวัดได้จัดซื้อวัสดุก่อสร้างและมอบหมายให้ทางทหารช่างรับผิดชอบในการก่อสร้าง ผมตั้งใจว่าจะพยายามสร้างให้เร็วที่สุดให้เสร็จภายใน 3 เดือน สำหรับจำนวนบ้านทั้งหมด ซึ่งราคาบ้านที่ระบุไว้ 2.4 แสนบาท ถือว่าราคาสูงสุดแล้ว เพราะราคาที่ถูกสุดเพียง 1.2 แสนเท่านั้น”
ส่วนวัสดุที่ต้องการนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ความจริงบ้านที่สร้างให้ประชาชนก็เป็นบ้านธรรมดา ซึ่งวัสดุที่ต้องการก็เช่น กระเบื้องลอนคู่ พื้นซีเมนท์หรืออาจจะเป็นไม้ก็ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนติดต่อขอบริจาคบานประตูมาแล้ว ตนก็รับไว้และจะส่งไปภาคใต้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จึงไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การใช้จ่ายเงินงบประมาณจะมีหลักเกณฑ์และดำเนินการอย่างเดียวกันมาก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเสียหายบางส่วนจ่ายให้ 2 หมื่น ถ้าเสียหายทั้งหลังจากให้ 3 หมื่น ซึ่งหลักเกณฑ์นี้หากนำไปใช้เฉพาะที่ภาคใต้ก็จะมีปัญหาอีกเพราะใช้กันมานานแล้ว จึงต้องอาศัยเงินบริจาคซึ่งจะคล่องตัวกว่า ซึ่งจะมีคณะกรรมการในระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อไปจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง ตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปก่อนเลย ส่วนเรื่องหน้าที่ในการหาเงินเป็นหน้าที่ของพวกตนที่จะรวบรวมเรี่ยไรกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าการประกาศรับบริจาคจากเอกชน จะทำให้ภาคเอกชนเกิดความหวั่นไหวหรือไม่ เพราะยังคงมีข่าวเงินบริจาค หรือสิ่งของบริจาคบางแห่งยังไม่ถึงมือประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า เท่าที่ทราบเรื่องนี้อยู่ที่ข้อมูล บางจังหวัดส่งข้อมูลมาถูกต้อง เจ้าหน้าตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุผิดปกติอะไรก็สามารถจ่ายเงินชดเชยได้เลย แต่บางแห่งตัวเลขผู้ประสบภัยที่แจ้งมา กับตัวเลขที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจไม่ตรงกัน มีตัวเลขมากกว่าผู้เสียหายจริงจึงเกิดปัญหา ก็ต้องเสียเวลาให้การตรวจสอบอีก ก็อาจจะทำให้จ่ายเงินช้า
ต่อข้อถามว่าที่มีปัญหาเพราะมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ดูแลคนเดียว ทำไมไม่กระจายให้คนอื่นดูแลด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ความจริงมีคณะกรรมการดูแลอยู่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าแบ่งกันทำหลายฝ่ายก็จะยุ่งยากสับสนมากขึ้น ซึ่งปัญหาทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่นายสาทิตย์ แต่เป็นเพราะการรวบรวมตัวเลขข้อมูล ตั้งแต่ระดับตำบล หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัดที่เขาจะต้องตรวจสอบกันมาก่อน จนมาถึงนายสาทิตย์ก็ต้องลงไปสุ่มตรวจเพราะเงินหลวงการใช้จ่ายก็ต้องมีกฎเกณฑ์กติกา
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งนายอำเภอสิชล ในที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้จะมีการพิจารณากันหรือไม่ เพราะหากเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีเรื่องนี้หรือไม่ แต่คิดว่ากระทรวงมหาดไทยก็คงต้องรีบแก้ไขเรื่องนี้
