xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ลั่นเดินหน้า “โหวตโน” ปชช.อย่าใจอ่อน - ซัด รบ.แก้ปัญหาปาล์มผิดเกษตรกรเดือดร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ลั่นต้อง “โหวตโน” เท่านั้นเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ เตือนประชาชนอย่าใจอ่อนเพราะนักการเมืองต้องออกมาอ้อนวอนแน่นอน ชี้พวกนี้ไม่มีทางสำนึกจริงต้องเดินหน้าฆ่าอย่างเดียว พร้อมซัดรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มผิด ช่วงขาดแคลนดันไม่ให้นำเข้า เปิดโอกาสนายทุนพรรคกักตุนฟันกำไรมหาศาล ส่วนช่วงนี้ผลผลิตปาล์มจากเกษตรกรออกจำนวนมาก ดันให้นำเข้า ส่งผลจากกิโลกรัมละ 11 บาท เหลือเพียง 5 บาท

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.วันนี้ (31 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ขึ้นปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า เรื่องการเห็นชอบร่างเจบีซีดูแล้วเป็นข่าวดีสำหรับพันธมิตรฯ แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับรัฐบาล เพราะกำลังแพ้ภัยตัวเอง การประชุมสภาไม่ว่าจะพิจารณาเรื่องอะไร ฝ่ายค้าน พรรคร่วมไม่ให้ความร่วมมือเลย จะโทษฝ่ายค้านว่าไม่เข้าประชุม หรือให้นับองค์ประชุมไม่ได้ เพราะหน้าที่ในการเข้าประชุมให้ครบเป็นหน้าที่รัฐบาล และพรรคร่วมเป็นหลัก

พรรครัฐบาลมีเสียงข้างมาก แต่ขณะนี้การพิจารณาเรื่องใดๆ ไม่ครบองค์ประชุมเลย อาจจะเพราะพรรคร่วมเจตนาตบหน้าสั่งสอนรัฐบาลที่รีบประกาศยุบสภาก็เป็นได้  แค่นี้ก็พอคาดหมายการประชุมในวันที่ 5 เมษายนได้แล้วว่าบรรยากาศจะเป็นเช่นไร รัฐบาลไม่มีทางเลือก มีทางเดียวคือต้องถอนร่างเจบีซีกลับไป คาไว้ในการประชุมรัฐสภาก็จะหน้าแตกซ้ำซาก โหวตก็ไม่สามารถผ่านไปได้

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ผลงานที่สำคัญของพันธมิตรฯ คือ ขณะนี้โหวตโนได้กลายเป็นกระแสที่สูงมาก สังคมขานรับกันทั่วประเทศ ต้องถือว่าเป็นผลงานพี่น้องประชาชนโดยแท้ การรณรงค์โหวตโนได้กลายเป็นหอกที่ปักลงกลางใจประชาธิปัตย์อย่างทรงพลังที่สุด

ส่วนกระแสพี่น้องจะออกมาโหวตโน เป็นการปิดประตูการเมืองน้ำเน่าสำหรับทุกพรรค เพื่อสั่งสอนนักการเมือง และระบอบการเมืองที่เน่าเหม็น ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองเดินหน้าต่อไม่ได้แน่นอน ขณะนี้กลไกของรัฐก็มาร่วมขบวนการโหวตโน ด้วยการใส่เกียร์ว่างไม่ฟังคำสั่งรัฐบาลแล้ว นายอภิสิทธิ์ปกครองประเทศไม่ได้แล้ว ไม่มีอำนาจสั่งคนให้ทำตามคำสั่งได้เลย นี่คือสภาพที่จะได้เห็นว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ได้ไล่บดขยี้นักการเมืองในระบอบเก่า นักการเมืองน้ำเน่ากำลังจนตรอก ไม่มีที่ยืน

“ท่านอย่าได้ใจอ่อนกับนักการเมืองพวกนี้ เพราะเดี๋ยวซักพักก็จะมาขอร้อง ทำเป็นมาเสนอทางออก คำถามคือเราจะยอมประนีประนอม เกี้ยเซี้ยกับนักการเมืองเก่าเหล่านี้หรือไม่ ถ้าไม่ยอมต้องเดินหน้าฆ่าลูกเดียว นักการเมืองพวกนี้ไม่มีทางสำนึก พอขี่คอประชาชนได้มันจะเหยียบคอมิดเลย แต่เมื่อไหร่โดนประชาชนไล่ล่า โดนความจริงไล่ล่า มันก็จะคุกเข่าอ้อนวอน ทำมาพูดดี พูดหวาน เราต้องระวัง เราจะไม่ให้อภัยนักการเมืองโกงบ้านกินเมืองทรยศประชาชนแน่นอน” นายประพันธ์กล่าว

โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลกำลังจะแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มอีกรอบ ยิ่งแก้ก็ยิ่งแย่ ประชาชนเดือดร้อน รีบออกไปเลยดีกว่า เสียภาษีบ้านเมืองเปล่าๆ อยากฝากไปยังพี่น้องชาวใต้ คือเรื่องน้ำมันปาล์ม รัฐบาลแก้ปัญหากลัดกระดุมผิดมาตั้งแต่แรก การขาดแคลนน้ำมันปาล์มในรอบแรกตั้งแต่ตุลาคม มาจนถึงปลายปีที่แล้ว เพราะภัยน้ำท่วมผลผลิตปาล์มจึงลดน้อยลง และมีการเอาไปทำไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มที่สำรองเอาไว้เพื่อการบริโภคก็น้อยลง แต่ว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่ เป็นพวกนักการเมือง เป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากสุดในภาคใต้นั่นแหละ เริ่มรู้ว่ารัฐบาลไม่ให้นำเข้าน้ำมันปาล์ม ก็เลยกักตุนไว้ในคลังขนาดใหญ่ วันหลังจะเอาภาพมาให้ดู ที่กักตุนของบริษัทพีเค ใหญ่มาก เก็บได้เป็นแสนๆ ตัน

ที่นายสุเทพพูดในสภาทำเป็นเอาตำแหน่งเดิมพันว่าไม่ได้ประโยชน์ ซึ่งถ้ามีประโยชน์จริงก็คงไม่บอก หรือถ้าไม่ได้เองแต่พรรคพวก หรือผู้สนับสนุนพรรคได้มันก็คือกันนั่นแหละ อาจไม่ได้เงินโดยตรงแต่ก็มีวิธีช่วยกันให้ได้ผลประโยชน์ทางการเมือง

ขณะเดียวกัน ฝ่ายการเมืองก็ไม่ให้นำเข้าน้ำมันปาล์ม และปั่นกระแสว่าน้ำมันขาดแคลน มีราคาแพง พอปล่อยน้ำมันที่กักตุนไว้ออกไปก็ได้กำไรมหาศาล กินหลายต่อมากในการขาดแคลนรอบแรก แล้วพอประชาชนโวยวายก็สั่งให้ดีเอสไอไปตรวจ แต่ดันไปตรวจในสถานประกอบการณ์ที่ทำโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ตรวจบริษัทที่ต้องสงสัย ไปตรวจก็ตอนที่ปล่อยน้ำมันออกไปหมดแล้ว รอบแรกก็เล่นปาหี่ตบตาประชาชน เปิดทางให้เอกชนได้กำไร

หลังจากนั้นค่อยมาให้นำเข้าจากต่างชาติได้ ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ผลผลิตปาล์มของเกษตรกรออกจำนวนมาก ที่ปัญาหาขาดแคลนบรรเทาลงไม่ใช่ผลงานรัฐบาลเลย แต่เป็นไปตามกลไกการตลาด เพราะเมื่อให้พวกกักตุนขายไปหมดแล้ว น้ำมันจากต่างประเทศก็ทะลัก เกษตรกรก็มีผลผลิตปาล์มมาก จึงทำให้เพียงพอก็ตรึงราคาอยู่ได้

แต่ปัญหาคือ ผลผลิตเกษตรกรที่ออกมาช่วงที่ขาดแคลนอยู่ที่กิโลกรัมละ 11 บาท แต่พอมาช่วงนี้ราคาเหลือเพียง 5 บาท เป็นจังหวะทำให้พ่อค้าไปกดราคาซื้อปาล์มจากชาวสวน พอปาล์มมาอยู่กับนายทุนหมดแล้ว เอามาบีบเป็นน้ำมัน อีกไม่นานก็จะเริ่มกระบวนการปั่นราคา บอกว่าขาดแคลนอีก เพื่อมารีดไถผู้บริโภคอีกรอบ รัฐบาลแก้แบบกลัดกระดุมผิด เวลาที่พืชเกษตรออกควรได้ราคาก็ไปกดมัน

นายประพันธ์กล่าวว่า ไม่ว่าแก้ปัญหาเรื่องอะไรก็ล้มเหลว ทำงานไม่เป็นทุกเรื่อง ผลสำรวจถึงออกมาว่าประชาชน 66 เปอร์เซ็นต์ ไม่พอใจการบริหารงานของนายกฯ และไม่มีผลงานเด่นเลยแม้แต่เรื่องเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น