ส.ส.ตรัง ประชาธิปัตย์ ถามช่วยยุ่นหลังสึนามิยังไง-นิวเคลียร์บึ้มกระทบไทยหรือไม่ “กษิต” ลุกแจง ทาบทามสายการบินญี่ปุ่นช่วยขนของ สั่งบินไทยพร้อมขนคนกลับ รับยังติดต่อ 541 คนไทยไม่ได้ “มาร์ค” ยันไม่พบสารปนเปื้อนเข้าไทย พร้อมตรวจสอบสินค้าที่คลองเตย แย้มแผนสำรองไม่สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทย
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จากประเทศญี่ปุ่นต่อประเทศไทยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น 9.1 ริกเตอร์ ได้ส่งผลให้เกิดสึนามิจึงทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 25,000 คน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูจิมะ อยากจะถามว่าประเทศไทยได้ช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นอย่างไร โดยเฉพาะคนไทยในประเทศญี่ปุ่นมีมาตรการให้การช่วยเหลืออย่างไร และขณะนี้เรื่องสถานการณ์สารปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ประเทศญี่ปุ่นได้มี การสั่งห้ามบริโภคนม และผัก หลังญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นระดับ 5 มีผลกระทบต่อไทยหรือไม่และจะมีสารปนเปื้อนในอาหาร น้ำ และในอากาศอย่างไรบ้าง
นายสมบูรณ์กล่าวว่า ดังนั้นอยากถามว่าสารปนเปื้อนจะมาถึงประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งอยากได้รับการยืนยันจากรัฐบาลถ้ามีจริงจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีแผนงานว่าจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ทางรัฐบาลมีแผนงานอย่างไรบ้าง เนื่องจาก ประเทศไทยเคยเกิดสึนามิมาแล้วระบบเตือนภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอยากให้รัฐบาลให้ความมั่นใจในการเสริมความปลอดภัยให้ประชาชนในฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน เพราะทราบว่ายังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ รวมทั้งเส้นทางและอาคารหลบภัยต้องเตรียมไว้เพื่อลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น จึงอยากถามว่ามีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
ด้าน นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยมีมาตรการช่วยเหลือ 3 ทางคือรัฐบาลไทยได้ให้งบประมาณช่วยเหลือไปแล้วกว่า 205 ล้านบาทไม่นับรวมสิ่งของ โดยบริจาคผ่านทางภาคเอกชนและมีการเปิดบัญชีธนาคารแล้วประมาณ 8-9 บัญชี และผ่านสภากาชาดไทย นอกจากนี้ เงินที่ได้รับจะทยอยส่งให้สภากาชาดของญี่ปุ่นรวมทั้งสิ่งของที่จะส่งไปก็ได้รับความร่วมมือจากกองทัพเพื่อสะดวกในการขนส่ง ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ทาบทามสายการบินเจเอแอล ด้วยกำลังรอคำตอบอยู่ ทั้งนี้ คนไทยที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 40,900 คนมีการตรวจสอบคนไทยที่ปลอดภัยแล้วรวม 9,281 คน และเดินทางกลับประเทศไทยแล้วกว่า 9,931 คน แต่ยังคนไทยแจ้งความจำนงที่จะขอกลับประเทศไทยอีก 816 คน ซึ่งการบินไทยได้เตรียมที่นั่งไว้พร้อมแล้ว นอกจากนี้ยังมีคนไทยที่มีปัญหาอีก 541 คนที่ยังติดต่อไม่ได้เนื่องจากเกิดการขัดข้องทางโทรศัพท์แต่เรากำลังเร่งดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม สถานทูตไทยในกรุงโตเกียวได้เปิดศูนย์ประสานงานไว้แล้ว นอกจากนี้ เราได้จัดที่พักสำรองไว้ที่เมืองโอซาก้าอีกกว่า 8,000 ที่นอนเพื่อรองรับคนไทยที่ยังไม่สามารถกลับประเทศไทยได้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบสารปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีใน 3 ทาง คือ ทางอากาศ อาหาร และผ่านบุคคล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบความผิดปกติแต่อย่างใด และรัฐบาลได้ตรวจสอบอาหารที่มาจากญี่ปุ่นก็ยังไม่พบระดับสารปนเปื้อนที่เป็น อันตราย ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจสอบสินค้าจากฝั่งทะเลตะวันออกยังไม่พบสิ่งผิดปกติและจะทำการตรวจสอบสินค้าที่คลองเตยด้วย ในส่วนของคนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศยืนยันว่าเรามีกลไกติดตามอย่างละเอียด รอบคอบโดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ส่วนเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ประเทศไทยมีแผนว่าจะก่อสร้างนั้น เราได้ทำแผนสำรองไว้แล้วโดยไม่ได้ยึดว่าจะต้องมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทย ซึ่งมีเวลาอีก 2 ปีในการพิจารณาและเหตุการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นก็จะถูกนำมาพิจารณาทบทวนต่อไป นอกจากนี้ การเตือนภัยสึนามิในประเทศไทยนับตั้งแต่เกิดสึนามีเมื่อปี 2547 ทางรัฐบาลได้มีการปรับปรุงกฎหมาย ปรับปรุงระบบเตือนภัย มีการซ้อมหนีภัยอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังได้มีการประสานงานกับระดับนานาชาติที่จะมาช่วยกันดูแล ดังนั้น ยืนยันว่าเราจะปรับปรุงให้เกิดความเข้มแข็งต่อไป รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อรู้แนวปฏิบัติในการลดการสูญเสียด้วย