“ประพันธ์” ตั้งข้อสังเกต “ชวน” ปิดปากเรื่องเอ็มโอยู 43 ตลอด อีกทั้งสมัยไปเซ็นก็ทำแบบงุบงิบไม่บอก “น.ต.ประสงค์” ซึ่งเป็นทีมที่ปรึกษา ทั้งๆ ที่ปกติจะปรึกษาเกือบทุกเรื่อง เชื่อ “สุขุมพันธุ์-สุรินทร์” ล้วนเป็นเครื่องมือนายทุนมะกันร่วมเดินตามแผนฮุบผลประโยชน์ในทะเล ลั่นถ้าสภาผ่านร่างเจบีซีจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ชวน” รวมหัว “มาร์ค” ขายชาติอย่างแน่นอน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลาประมาณ 21. 00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า วันนี้ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือสีอื่น ก็ล้วนแต่ตกเป็นเหยื่อและถูกทำร้ายด้วยน้ำมือของระบอบอภิสิทธิ์
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า พันธมิตรฯลุกขึ้นต่อสู้ขับไล่ระบอบทักษิณ บาดเจ็บล้มตาย และพิการจำนวนมาก นายอภิสิทธิ์ก็ชุบมือเปิบเนรคุณประชาชน ส่วนคนเสื้อแดงออมาขับไล่อภิสิทธิ์โดยตกเป็นเครื่องมือนักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง ทำให้นายอภิสิทธิ์ใช้กำลังเข้าปราบปราม บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ตกเป็นเครื่องมือระบอบอภิสิทธิ์ด้วยเช่นกัน อยากฝากเตือนพี่น้องเสื้อแดงว่าถ้านักการเมืองพรรคเพื่อไทยไปจับมือกับนายอภิสิทธิ์ ก็ถือว่าเป็นการทรยศ 91 ศพด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้ทั้งเหลือง แดง หรือหลากสี ที่รักชาติบ้านเมือง ต้องก้าวข้ามนายทักษิณ และนายอภิสิทธิ์ เอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง เพราะนักการเมืองทุกคนล้วนหลอกใช้ประชนเป็นเครื่องมือทั้งสิ้น” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องใหญ่ที่สุดคือรัฐบาลจะเอารายงานการประชุมเจบีซี 3 ฉบับเข้าสภา นายสุเทพก็ยืนยันแล้วว่า จะเอาเข้าในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคมที่จะถึงนี้ นั่นก็หมายความว่างานใหญ่มาถึงแล้ว นายสุเทพเดินหน้าไม่ถอย เพราะก่อนหน้านี้นายสุเทพ และนายประวิตร ได้ไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาหลายครั้ง แต่ไม่บอกความจริงกับประชาชนว่าพวกคุณจะได้ประโยชน์อะไร แต่ที่แน่ๆ ประเทศไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย รัฐบาลไม่เคยมีใครสักคนออกมาแถลงว่าถ้าผ่านเจบีซี 3 ฉบับนี้แล้วประเทศจะได้อะไร ที่เสียหายแน่ๆ ก็คือจะเป็นการยกแผ่นดินให้นายฮุนเซนโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
วันที่ 25-28 มีนาคมนี้ ถ้าเอาเข้าสภาตรงกับวันศุกร์เป็นการเรียกแขกให้เป็นอย่างดี เรื่องนี้พี่น้องประชาชนถอยไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว เพราะถ้ายอมให้สภาผ่านก็จะสูญเสียแผ่นดินอย่างแน่นอน นักการเมืองเอาแผ่นดินไปขายแลกประโยชน์กับนายฮุนเซน เราจะยอมหรือ ต้องเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องออกมาร่วมกัน ทั้งหมดไฮไลต์อยู่ตรงนี้ คือถ้ายอมให้นักการเมืองปู้ยี่ปู้ยำประเทศแบบนี้ เราก็เสียชาติเกิด
โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร กล่าวต่ออีกว่า เรื่องนี้คาใจมาตลอดว่าประชาธิปัตย์ให้สมาชิกพรรคทุกคนยกมือเห็นชอบผ่านร่างเจบีซีนี้ นี่เป็นหลักฐานชัดเจนแล้วว่าทุกคนในประชาธิปัตย์รวมหัวกันขายชาติ รวมทั้งนายชวนด้วย เมื่อก่อนก็คิดว่าเหลือนายชวนคนเดียวที่เป็นคนดี แต่ที่ไหนได้เป็นทั้งแก๊งเลย สังเกตว่านายชวนไม่ออกมาพูดเรื่องนี้เลย ตอนไปลงนามเอ็มโอยู 2543 นายชวนเป็นนายกฯ มีคณะที่ปรึกษา 5 คน น.ต.ประสงค์ก็ร่วมอยู่ในคณะด้วย ตนเป็นเลขาฯ น.ต.ประสงค์ จึงรู้เรื่องดี เวลานายชวนมีเรื่องสำคัญเช่นเรื่องการเมืองการต่างประเทศอย่างนี้มักจะไว้วางใจปรึกษา น.ต.ประสงค์
แต่แปลกเรื่องเอ็มโอยู 43 นายกฯชวนไม่มาปรึกษาเลย งุบงิบกันไปเซ็น มีเพียงนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ม..รว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และนายชวน เท่านั้นที่รู้เรื่อง ทีมที่ปรึกษาไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้เลย มันผิดสังเกตมาก อีกทั้งไทยมีคณะกรรมการเจบีซี และจีบีซีกับทุกประเทศที่มีชายแดนติดกัน ทั้ง ลาว เขมร มาเลเซีย พม่า เอาไว้คอยประชุมปรึกษาเวลามีปัญหาชายแดน แต่ทุกประเทศโดยรอบไม่มีที่ไหนมีเอ็มโอยูกับไทยเลย แต่ทำไมไปงุบงิบทำกับเขมรประเทศเดียว นี่คือพิรุธที่ไปลงนามเอ็มโอยู 43 และกลายคณะกรรมการเจบีซี จากที่เอาไว้ปรึกษาหารือแก้ปัญหาตามสนธิสัญญา กลายเป็นมาสำรวจปักปันเขตแดนใหม่ตลอดแนวชายแดน
นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องมาจน 25 มีนาคมนี้ จึงถึงบางอ้อว่า มันมีผลประโยชน์ทางทะเลที่แอบตกลงกับนักการเมืองไทย ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันจึงยอมทำเรื่องนี้ นายสุรินทร์เป็นเด็กทุนเรียนจบจากสหรัฐฯ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็จบจากอมเริกา เป็นขี้ข้าอเมริกาทั้งนั้น นายทุนอเมริกามีส่วนผลักดันให้เกิด เอ็มโอยู 43 แน่นอน จะเห็นว่ารัฐบาลนี้มันเป็นขี้ข้าเดินตามก้นอเมริกามากขนาดไหน ครม.วันนี้ประชุมเรื่องที่อเมริกาและชาติพันธมิตรส่งกองกำลังทหารไปถล่มลิเบีย ครม.ไทยก็เสือกไปบอยคอตลิเบียตาม ทั้งๆที่เป็นเรื่องภายในประเทศลิเบีย อเมริกาสนับสนุนการส่งกองกำลังมันก็คืการไปฆ่าคน แล้วไทยเสือกอะไรไปสังฆกรรมกับเขา ประเทศอื่นในอาเซียนยังไม่มีที่ไหนบอยคอตเลย อวดเก่ง เอ็มโอยู 2543 ก็คงจะถูกนายทุนอเมริกาบีบคอไปเซ็นแน่ๆ ถ้าผ่านเจบีซี 3 ฉบับนี้ นายชวนก็แก้ตัวไม่ได้เลย ว่านายชวนร่วมขายชาติกับนายอภิสิทธิ์แน่นอน
นายประพันธ์กล่าวต่ออีกว่า สุดท้ายอยากกราบเรียนพี่น้องว่าสภาจะประชุมผ่านเจบีซี เป็นจุดสำคัญและหัวเลี้ยวหัวต่อของชาติบ้านเมือง ประชาชนต้องออกมาแสดงจุดยืนร่วมกัน หยุดการกระทำของนักการเมืองนี้ ด้วยความอุตสาหะ ภารกิจที่ทำร่วมกันต้องประสบความสำเร็จแน่นอนขอแค่ออกมากันให้มาก อย่างไรเราก็จะยืนหยัดสู้ด้วยกันจนกว่าจะได้ชัยชนะ ความเพียรพยายามจะต้องทำให้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักครับ ยังคึกคักกันอยู่หรือเปล่า ขอเสียงหน่อยยังไม่ซึมนะครับ ส่งเสียงทักทายพี่น้องทางบ้านและที่อยู่ต่างประเทศด้วยครับ ดังๆ ด้วยครับ กราบสวัสดีพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณน้องแอน น้องเก๊ ที่จะให้ผมไปอยู่กับพี่วีระ ความจริงแล้วเขาคงอยากให้ผมไปไกลกว่านั้น นายอภิสิทธิ์คงไม่อยากจะเห็นหน้าผมหรอก เช่นเดียวกันชาตินี้ผมก็ไม่อยากจะเห็นหน้าเขาเหมือนกัน ถ้าเลือกได้ผมขออย่าเกิดร่วมโลกกับนายคนนี้เลยครับพี่น้อง นี่ไม่ได้เกิดจากความรู้สึกจงเกลียดจงชังอะไรเป็นส่วนตัว แต่รู้สึกว่าตั้งแต่รู้จัก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาผมไม่เคยมีครั้งใดในชีวิตที่จะสะอิดสะเอียนและรังเกียจเดียดฉันนายคนนี้เท่ากับทุกวันนี้
เดี๋ยวก่อนจะพูดถึงเขา มาพูดเรื่องอื่นก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้ฟังเรื่องของพระมหาชนก ที่ อ.ปานเทพ หยิบมาทบทวนและเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องมาศึกษา และทบทวนเรื่องราวอันเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้น ผมคิดว่านี่คือสิ่งเตือนใจพวกเรา และเป็นสิ่งที่ปลุกเร้า ให้กำลังใจ และเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเราเป็นอย่างยิ่งครับ
การต่อสู้และการยืนหยัดของพวกเราที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นงานหนักงานเหนื่อย และเป็นงานที่ต้องทุ่มเท ต้องเสียสละ หลายคนถามผมว่า ปัญหาเรื่องนี้จะจบเมื่อไหร่ จะมีทางออกอย่างไร ผมกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องด้วยความสัตย์จริง เมื่อตัดสินใจมาร่วมชุมนุม มาร่วมต่อสู้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนในวันนี้ ในเรื่องนี้ ผมไม่เคยกังวลใจเลยว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไรและจบเมื่อไหร่ แต่ผมเชื่อมั่นอย่างเดียวว่า ที่เราทำอยู่นี้เราทำถูกต้อง และมีความสุขใจที่จะทำหรือไม่ นี่ต่างหาก และ2. ไม่ว่าจะนานสักเท่าไหร่ ถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์กับชาติบ้านเมืองแล้ว ยิ่งทำมากก็ได้บุญมาก ยิ่งทำนาน ทำเยอะก็ยิ่งได้มหากุศลต่อตนเองและครอบครัว คิดได้ดั่งนั้นก็มีความสุข คนที่ควรจะเป็นทุกข์ คือคนที่อยู่ในอำนาจและทรยศชาติทรยศประชาชนต่างหากไม่ใช่เรา
เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจึงไม่มีความทุกข์ร้อนและเป็นกังวลใจ แต่มีความเชื่อมั่นอยู่เสมอ และถามตัวเองว่า 1.ที่ทำอยู่ทุกวันนี้มีความสุขหรือไม่ 2.มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำหรือไม่ และ3. ตัวเองยังมีพลังและมีความเพียรที่จะเอาชนะความผิด ความไม่ถูกต้อง ความไม่เป็นธรรม และเอาชนะคนชั่วที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายหรือไม่ ตราบใดที่เรายังมีพลังเราก็ต้องมีความหวัง และเราต้องเชื่อมั่นว่าเราจะได้ชัยชนะอย่างแน่นอนครับ
นี่คือความมุ่งมั่นตั้งใจ ยิ่งฟังเรื่องราวพระมหาชนก ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในใจพวกผมตลอดเวลาว่า ถ้าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง จงทำต่อไป และจงทำต่อไป อย่าหยุด ในที่สุดคนที่อยู่บนความไม่ถูกต้องจะแพ้พ่าย และจะต้องพบกับความอัปยศกับการกระทำของตนเองอย่างแน่นอน
พี่น้องครับ ผม เคยมีคนถามว่า คุณประพันธ์ ที่มาพูดมาปราศรัยทุกวันเคยมีความวิตกกังวล เคยมีความกลัว ความเจ็บ ความตาย หรือภยันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองบ้างหรือเปล่า ผมว่าในใจพี่น้องคงถามและเป็นห่วงเป็นใยผมอยู่เช่นเดียวกัน หลายคนที่รักใคร่นับถือก็เป็นห่วงเป็นใย แต่พี่น้องเชื่อไหมครับว่า ตั้งแต่ผมสู้มาทุกครั้ง ทุกเหตุการณ์ ผมไม่เคยนึกถึงความเจ็บ ความตาย ความยากลำบากใดๆ ในชีวิตเลยครับ ไม่เคยท้อ ไม่เคยนึกถึง และไม่เคยกลัว ผมกลัวอย่างเดียวว่า สิ่งที่ผมทำนั้นจะเป็นผลเสียหายต่อชาติ ต่อบ้านเมือง ต่อประชาชนหรือไม่ สิ่งนี้ต่างหากที่ผมวิตกกังวล และคิดใคร่ครวญด้วยความรอบคอบอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง ต้องเดินหน้าและไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้นครับ
แม้จะมีคนที่เห็นใจ เข้าร่วม หรือเห็นด้วยกับเราในระยะแรกๆ ยังไม่มาก ก็ไม่เป็นไร ถ้าเรามีธรรมะ มีความจริง มีความถูกต้อง มีความดีงามเป็นสรณะ เป็นแนวทาง เป็นที่ยึดเหนี่ยว ผมเชื่อแน่ว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และสามารถเอาชนะความชั่วความเท็จได้ และประชาชนส่วนใหญ่รักความเป็นธรรม รักความจริง รักชาติ รักบ้านเมืองอย่างแน่นอน เป็นแต่เพียงว่า เขายังไม่รู้ข้อมูล ไม่รู้ข้อเท็จจริงเท่านั้นเอง เมื่อใดประชาชนรู้ข้อมูล รู้ข้อเท็จจริง ได้สติปัญญาแล้วจะเกิดพลังมหาศาลอย่างเช่นในช่วงสุดท้ายของพระมหาชนก จึงต้องไปตั้งมหาวิทยาลัยเพื่อให้ปัญญากับประชาชน ให้ทุกคนได้ความรู้ ได้สติ ได้ปัญญา เพราะนั่นคือการให้ที่ยั่งยืนที่สุด และจะทำให้สังคมอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และมีความปรองดองอย่างแท้จริง
พี่น้องครับ ต้องยอมรับว่า ในการต่อสู้ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์และนักการเมืองที่ยโสโอหังอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพวก รวมทั้งนายสุเทพ และบรรดาบริวารคนในพรรคของเขาทั้งหมด ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยได้รับการท้าทายจากพลังประชาชนครั้งใดที่หนักหน่วง รุนแรง และจริงจัง ทรงพลังที่สุดเท่ากับครั้งนี้ครับ แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเคยเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่พลังของกลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่ทรงพลังเท่ากับการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนครั้งนี้ครับ สาเหตุเพราะว่า การขับเคลื่อนพลังของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ภายใต้การนำของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และพรรคการเมืองพรรคนั้นเป็นตัวแทนอำนาจ ตัวแทนผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ มีชนักติดหลัง เพราะเป็นคนที่เคยทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย และถูกตราหน้าว่า ในช่วงบริหารชาติบ้านเมืองก็โกง ทุจริต และหลบหนีคดีความอยู่นั่นเองครับ
ทำให้พลังของพี่น้องเสื้อแดง ซึ่งมีจำนวนมาก และผมเชื่อว่า พี่น้องประชาชนจำนวนมากนั้น มีเหตุมีผล และมีความสุจริตใจที่จะมาร่วมต่อสู้ แต่เนื่องจากว่าตกอยู่ในกับดักที่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองและพรรคการเมือง เอาพลังของประชาชนอันบริสุทธิ์มาใช้เป็นเครื่องมือของตนเอง เลยทำให้ความชอบธรรมของคนเสื้อแดงลดน้อยลงไป แม้ว่าหลายเรื่องเขาจะพูดถูกต้อง และการกระทำของนายอภิสิทธิ์ไม่ชอบ แต่ทำให้ขาดพลังลงไป
แต่พี่น้องครับ วันนี้ กลุ่มคนเสื้อแดง หรือพี่น้องประชาชนที่เป็นคนเสื้อแดงที่เคยร่วมต่อสู้กับแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ผมว่าเขาก็มีสติปัญญา มีความรู้ และมีวิจารณญาณของเขา เพราะประชาชนที่บริสุทธิ์ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้และคัดค้านการปกครองของระบอบอภิสิทธิ์ ของนายอภิสิทธิ์นั้น เขาก็มีเหตุผลและมีชุดความคิดของเขาที่ชัดเจน และเขามองเห็นว่านายอภิสิทธิ์ปกครองบ้านเมืองด้วยความไม่เป็นธรรม บริหารบ้านเมืองล้มเหลว เห็นแก่ตนเองและพวกพ้อง ขณะเดียวกันหาทางทำลายพลังของประชาชนไม่ว่ากลุ่มใด สีใด นั่นเองครับพี่น้อง
และผมเชื่อแน่ว่า ถ้าพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงได้พิจารณาด้วยเหตุด้วยผลแล้ว เขาย่อมคิดได้ว่าความเป็นจริงแล้ว ถ้าพี่น้องประชาชนใช้เหตุใช้ผล ใช้ความเป็นตัวของตัวเองไม่ติดกับดักอยู่ภายใต้การนำของกลุ่มแกนนำและพรรคการเมืองบางพรรค ที่จะชักนำประชาชนไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตน เพื่อต่อรองเอาอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองนั้น ผมคิดว่าพลังของประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงจะมีความหมายและมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมาก เพราะโดยความเป็นจริงแล้ว ขณะนี้ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มคนเสื้อสีอื่นๆ ล้วนต่างตกเป็นเหยื่อ และถูกทำร้ายด้วยน้ำมือของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เช่นเดียวกันครับพี่น้อง
เพราะอะไรครับ พี่น้องเห็นหรือยังครับ ประชาชนคน พันธมิตรฯ หรือกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็แล้วแต่ ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ บาดเจ็บ ล้มตาย เสียชีวิตไปจำนวนไม่น้อย พิการก็จำนวนมาก ท้ายที่สุดคนที่ขึ้นมาชุบมือเปิบ เสวยอำนาจและได้ผลประโยชน์ กลายเป็นนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ ท้ายที่สุดก็เนรคุณพี่น้องพันธมิตรฯ และประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ ใช่ไหมครับพี่น้อง ขณะเดียวกัน พอกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมขับไล่นายอภิสิทธิ์ ประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงก็ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มแกนนำและกลุ่มพรรคการเมือง ที่ต้องการจะโค่นล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ด้วยการจะใช้พลังมวลชนไปโค่นล้มเขาโดยไม่มีความชอบธรรม ทำให้นายอภิสิทธิ์ใช้กำลังเข้าปราบปรามพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดง บาดเจ็บ ล้มตาย พิการอีกจำนวนนับร้อย ถูกตั้งข้อกล่าวหา ถูกดำเนินคดี คนเสื้อแดงตกเป็นเหยื่อของระบอบอภิสิทธิ์เช่นเดียวกันครับ จึงอยากจะฝากเตือนไปถึง หรือฝากความปรารถนาดีไปถึงพี่น้องคนเสื้อแดงว่า ถ้าวันหนึ่งพรรคเพื่อไทยจับมือจูบปากกับนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่นายอภิสิทธิ์ทรยศพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ต่างอะไรกับการที่พรรคการเมืองที่หลอกใช้คนเสื้อแดง เมื่อไปจูบปากกับนายอภิสิทธิ์มันก็ทรยศกับ 91 ศพกลุ่มคนเสื้อแดงที่ตายไปไงครับพี่น้อง
เพราะฉะนั้นวันนี้ผมคิดว่า เหลืองและแดง ถ้ามีใจรักชาติบ้านเมือง และพี่น้องหลากสีก็ตามแต่ ถ้ามีใจรักชาติบ้านเมือง ต้องก้าวข้ามทั้งทักษิณ และต้องก้าวข้ามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง เราต้องหันมาจับมือกัน เพราะนักการเมืองหลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือแล้วทรยศหักหลังประชาชน ทุกคนครับพี่น้องนักการเมืองในระบอบนี้
วันนี้ผมได้รับข้อความจากพี่น้องซึ่งเป็นคนเสื้อแดง ท่านเขียนมาผมอยากจะอ่านแต่ผมไม่เปิดเผยชื่อท่าน มันสะท้อนให้เห็นว่า จริงๆ แล้วพวกเราก็ดี หรือกลุ่มคนเสื้อแดงก็ดี มันมีหัวอกอันเดียวกันครับพี่น้อง ทุกคนได้รับผลกรรมจากการบริหารชาติบ้านเมืองที่ล้มเหลวของนายอภิสิทธิ์โดยถ้วนหน้า คนเสื้อเหลืองก็เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า คดีนับไม่ถ้วน บาดเจ็บล้มตายก็ไม่น้อย คนเสื้อแดงก็เช่นเดียวกัน จริงๆ แล้วประชาชนที่ออกมาสู้นั้น เพราะเขาเห็นว่าการปกครองของนายอภิสิทธิ์นั้นไม่ชอบธรรม แต่เผอิญว่า การนำของการต่อสู้มันผิดพลาด แล้วปล่อยให้กลุ่มคนที่นิยมความรุนแรงแฝงตัวเข้ามาในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงทำให้พลังของคนเสื้อแดงถูกบั่นทอนลงไป แต่ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงมีการนำที่เข้มแข็ง มีการนำที่ถูกต้อง มีการนำที่ดี อย่างเช่นการนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือการนำของพวกเรา รับรองพลังเหลือง+แดงบดขยี้อภิสิทธิ์ได้อย่างแน่นอน
ท่านผู้นี้ส่งข้อความมาว่าอย่างนี้ ท่านบอกว่า เพื่อนพี่สาวแดงจ้า ตอนหลังฟังคุณประพันธ์เพราะเกลียดอภิสิทธิ์มาก จนจะขอตามไปมัฆวานด้วย เธอก็บอก เย้ดีใจจังเลย แต่เขาเห็นคุณประพันธ์รายการพี่หมี ก็เลยตกใจว่า กลางคืนจะมาอีกรอบไหม เพราะตอนนี้ทำงานดูไม่ได้เต็มที่ค่ะ ที่สำคัญ วันที่ 24 นี้เขาจะไปมัฆวาน คุณประพันธ์จะขึ้นเวทีตอนกี่โมง ทราบยังคะ
แสดงว่าถ้าเป็นคนเสื้อแดงที่เขามีจิตใจรักความเป็นธรรม เขาฟังเอาเหตุเอาผล เขาก็จะรู้ว่าที่พันธมิตรฯ มาต่อสู้ เขาไม่ได้ต่อสู้เพราะจงเกลียดจงชังคุณทักษิณ ถ้าทักษิณบริหารชาติบ้านเมืองดี ไม่โกงไม่กิน ใช้ความรู้ความสามารถแก้ปัญหาให้ชาติบ้านเมือง เราไม่ต้องไปไล่เขา เอาละคุณทักษิณไปแล้ว ตอนแรกๆ พี่น้องคนเสื้อแดงคงนึกว่าเราจะต่อสู้เพื่อนายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ทำชั่วอย่างไรคงช่วยประคบประหงม ประคับประคองกันไป ลูบหน้าปะจมูก ไม่ว่าไม่วิพากษ์วิจารณ์ แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์บริหารชาติบ้านเมืองเสียหาย พันธมิตรฯ ไม่ได้ละเว้น และต่อสู้เอาจริงเอาจังอย่างเอาเป็นเอาตายครับ เพราะเราถือเอาชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง เราไม่ยึดติดที่ตัวบุคคล ผมจึงคิดว่าท่านผู้นี้คงเข้าใจพวกเรามากขึ้น ที่สำคัญเรื่องโกง เรื่องทุจริต เรื่องทำให้ประชาชนเดือดร้อน เรามิได้ละเว้น เรื่องความไม่เป็นธรรม ไม่ว่าปฏิบัติต่อพวกเราหรือปฏิบัติต่อคนเสื้อแดง เราก็ไม่เห็นด้วยทั้งนั้น แต่ถ้าใครทำผิด ไม่ว่าสีไหน เสื้อไหนเราก็ไม่เข้าข้าง ไม่ปกป้อง เรายินดีให้กระบวนการยุติธรรมจัดการไปตามกฎหมาย นี่คือจุดยืนของพวกเรา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้นพี่น้องที่ติดตามฟังพวกเรานั้น ถ้าท่านมีใจกว้าง ใจเป็นธรรม จะเข้าใจว่า เรายึดเอาประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง แล้ววันนี้ผมเข้าใจว่าท่านอาจจะมาอยู่แถวนี้แล้วก็ได้ แต่ถ้ามาแล้วก็เขียนจดหมายน้อยส่งมาหลังเวทีได้ว่า หนูมาฟังพี่ประพันธ์แล้วนะคะ เราจะได้ยืนยันว่า ไม่ได้ส่งข้อความมาทำให้คุณประพันธ์เคลิ้มว่าสาวเสื้อแดงมาหลอกคุณประพันธ์ได้ แต่ว่าเธอไม่ได้เขียนจดหมายมา เธอเขียนเป็นข้อความมาบอกว่า ขอบคุณค่ะ ดีใจจังที่คุณประพันธ์สอยแดงมาได้อีกหนึ่งแล้ว ผมคิดว่านี้คงเป็นเพียงตัวอย่างว่า การที่เรายืนหยัดต่อสู้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยความเพียรของพวกเรานั้น จะมีคนที่เห็นด้วยกับเราเพิ่มมากขึ้นโดยลำดับ
พี่น้องครับ วันนี้ผมอยากจะมีเรื่องมาพูดคุยและรบกวนเรียนพี่น้อง เรื่องที่ 1.คือ พี่น้องครับ รัฐบาลนี้เขากลัวเวทีนี้มาก โดยเฉพาะไม่รู้เป็นอะไร ผมได้รับข้อมูลข่าวสารจากพี่น้องที่รับฟังรายการบนเวทีนี้ ถ้าถึงเวลาคุณประพันธ์ขึ้นเวทีทีไร ช่วงหลังนี้สัญญาณรบกวนหนักมากกว่าช่วงใดๆ เลยครับพี่น้อง ดูไม่ได้เลยพี่น้องทางบ้าน เพราะฉะนั้นรัฐบาลที่พยายามอ้างว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน รับฟังความเห็นประชาชน เสียงเดียวก็ฟัง แสนเดียวก็ฟังนั้น ความจริงแล้วรัฐบาลนี้ขี้ขลาดตาขาว กลัวความจริงที่สุดครับ เพราะฉะนั้นช่วยโห่ดังๆ หน่อย
นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่นักประชาธิปไตยตัวจริง นายอภิสิทธิ์ชอบฟังเฉพาะคำยกยอปอปั้น คำสอพลอ ถ้าเราพูดความจริง วิพากษ์วิจารณ์ นายอภิสิทธิ์กลัวที่สุดครับพี่น้อง กลัวความจริง กลัวแสงตะวันเหมือนพวกปีศาจกลัวแสงครับพี่น้อง เรื่องที่ 2.ที่ผมจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องก็คือว่า ท่านได้ฟังไปแล้วว่า เมื่อตอนเย็นนี้เวทีวิชาการ เรื่องใหญ่ที่สุดที่กำลังจะมาถึงก็คือ รายงานการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือรายงานการประชุมเจบีซี 3 ฉบับ ที่จะเข้าสภา เราได้ตีกันและยื่นหนังสือล่วงหน้าไปแล้วหลายครั้งว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ ที่เราบอกว่าเขาจะเข้ารัฐสภาวันที่ 22 และมีท่าทีว่าจะเลื่อนมาเป็นวันที่ 29 นั้น บัดนี้ได้รับการยืนยันจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วว่าจะนำเข้าประชุมรัฐสภา ในวันศุกร์ที่ 25 ที่จะมาถึงนี้ครับพี่น้อง นั่นหมายความว่า งานนี้งานใหญ่มาถึงแล้วครับพี่น้อง ศึกใหญ่มาถึงแล้ว แสดงว่านายสุเทพเดินหน้าไม่มีถอย ทำไมนายสุเทพเดินหน้าไม่มีถอย ผมรู้แล้วครับ ก่อนหน้านี้ทั้งนายสุเทพและ พล.อ.ประวิตร มีโอกาสไปพบกับนายฮุน เซน และรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา หลายครั้ง การเจรจาในทางลับมีหลายครั้ง แต่ไม่ยอมบอกประชาชนไทยว่า ทำไมจึงต้องเดินหน้าให้เรื่องนี้ผ่านรัฐสภา คุณได้ประโยชน์อะไรครับ
ที่แน่ๆ คือ ประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย และรัฐบาล ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ นายกษิต ภิรมย์ ไม่เคยมีใครแม้แต่คนเดียวออกมาแถลงกับประชาชนเลยว่า ถ้าผ่านความเห็นชอบ 3 ฉบับนี้แล้ว ประเทศไทยและประชาชนไทยจะได้อะไรจากการพิจารณาเห็นชอบของรัฐสภา แต่ที่เสียหายแน่ๆ อ.ปานเทพ บอกไปแล้ว ผมก็บอกไปหลายครั้งแล้วว่า นี่จะเป็นการยกแผ่นดินให้ฮุน เซน โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยความเห็นชอบของรัฐสภาไทยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยครับ โดยฝีมือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนดีของบรรดาแม่ยกปัญญาอ่อนทั้งหลายครับพี่น้อง
เพราะฉะนั้นวันที่ 25, 26, 27, 28 ถ้าเข้าวันศุกร์ก็พอดีเลย นายสุเทพช่างนัดหมายวันเรียกแขกให้พี่น้องประชาชนได้ดีเหลือเกิน พี่น้องครับ เรื่องนี้พี่น้องประชาชนก็ถอยไม่ได้ ถอยไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว และยอมไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว เพราะถ้าเรายอมให้รัฐสภาผ่านร่างรายงานการประชุมทั้ง 3 ฉบับนี้เมื่อใด เราก็สูญเสียแผ่นดิน เสียชาติอย่างแน่นอนครับพี่น้อง นักการเมืองเอาชาติเอาแผ่นดินไปขายกินแลกประโยชน์กับนายฮุน เซน โดยชอบด้วยกฎหมาย เราจะยอมไม่ยอม พี่น้องครับไม่ยอม เราต้องเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องของเราออกมาร่วมกันครับ ว่าอย่างไรนะ ออกมา ออกมา ออกมา เราต้องหาทางหยุดเรื่องนี้ให้ได้
พี่น้องครับ ทั้งหมดจะมาถึงจุดไฮไลท์สุดท้ายอยู่ตรงนี้ว่า ถ้าเรายอมให้นักการเมืองปู้ยี่ปู้ยำชาติบ้านเมืองอย่างนี้ได้ ผมก็คิดว่า เราก็คงต้องเสียชาติเกิดใช่ไหมครับ พี่น้องครับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาใจผมมาโดยตลอดว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติให้สมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส.ยกมือให้ความเห็นชอบรายงานการประชุมทั้ง 3 ฉบับ นี่เป็นหลักฐานชัดแจ้งแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนสมคบคิดกัน รวมหัวกันขายชาติไม่เว้นแม้กระทั่ง นายชวน หลีกภัย เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาเราพยายามจะเชื่อ พรรคประชาธิปัตย์เลวหมดทุกคนเหลือดีอยู่นายชวนคนเดียว เราก็คิดว่าจะเชื่อได้ แต่ความจริงแล้วนี่ไปกันยกแก๊งยกพรรคเลยครับพี่น้อง ผมตั้งข้อสังเกตมาตั้งนายแล้วว่า ทำไมตลอดเวลานายกฯ ชวนไม่ออกมาพูดเรื่องนี้เลย
พี่น้องครับผมจะเล่าให้ฟังนิด ในช่วงที่ลงนามเอ็มโอยู 2543 นายชวนเป็นนายกฯ รอบสอง คนที่เป็นที่ปรึกษานายกฯ มีอยู่ 5 คน มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน, ท่านบุญชู โรจนเสถียร, น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ, ดร.อาภรณ์ ชีวะเกรียงไกร และ อาจารย์รัฐศาสตร์จากจุฬาฯ ผมจำชื่อท่านไม่ได้ เป็นที่ปรึกษานายกฯ ทางการนะ 5 ท่าน ทุกครั้งจะมีการประชุมที่ปรึกษานายกฯ สัปาดห์ละ 1 วัน ผมอยู่ทำเนียบรัฐบาล อยู่ตึกบัญชาการ เลยตึกแดงไป เป็นเลขาท่านประสงค์ สุ่นศิริ เรื่องสำคัญแบบนี้นายกฯ ชวน มักจะมาปรึกษาท่านประสงค์ เพราะท่านประสงค์เคยเป็นเลขาธิการนายกฯ พล.อ.เปรม เคยเป็นเลขาสภาความมั่นคง และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในยุคที่นายกฯ ชวน เป็นนายกฯ ครั้งแรก เรื่องการเมือง เรื่องการต่างประเทศ เรื่องสำคัญอย่างนี้ ส่วนใหญ่ท่านจะมาปรึกษาและเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมที่ปรึกษา แม้กระทั่งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารทุกเหล่าทัพ แต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจ ตำแหน่งสำคัญ เขาจะให้ที่ปรึกษาคณะนี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่นายกฯ ชวนไว้วางใจ และท่านประสงค์เป็นคนที่ท่านนายกฯ ชวนไว้วางใจ เป็นผู้กลั่นกรองเรื่องสำคัญ ผมได้มีโอกาสช่วยทำงานอยู่กับท่าน ผมได้เรียนรู้ รู้หมดว่าทหารมาเฟียมีแก๊งไหนบ้าง ตำรวจดี ตำรวจไม่ดีมีกลุ่มไหนบ้าง เวลาเขาจะเสนอชื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร. ผมได้มีโอกาสรู้ประวัติ รู้ความเป็นมา ก่อนจะทำความเห็นเสนอนายกฯ ชวน
แต่มันแปลกครับ เรื่องเอ็มโอยู 2543 นายกฯ ชวนไม่มาปรึกษา ไม่นำเรื่องนี้เข้าหารือที่ประชุมที่ปรึกษา งุบงิบกันทำแล้วไปเซ็น มีนานสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีต่างประเทศ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ รัฐมนตรีช่วย เท่านั้นครับที่รู้เรื่องนี้ รวมทั้งนายกฯ ชวน แล้วก็เดินทางไปลงนามที่กัมพูชา โดยไม่ให้ทีมที่ปรึกษาพิจารณาให้ความเห็นเรื่องนี้ ผมมีโอกาสถามท่าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ว่าเรื่องนี้ได้มีการนำมาหารือ ถามความเห็นท่านไหม บอกไม่มีเลย ไปลงนาม ไปเซ็น ท่านไม่รู้เลย มารู้ภายหลังตอนที่พันธมิตรฯ เคลื่อนไหว ถึงได้รู้ว่า นายกฯ ชวนแอบไปลงนามเอ็มโอยู 2543 กับกัมพูชา
พี่น้องครับเรื่องนี้ผิดสังเกตมาก เพราะอะไรครับ ประเทศไทยมีคณะกรรมการเจบีซีกับทุกประเทศที่มีชายแดนติดกัน คณะกรรมการเจบีซีย่อมาจาก Joint Boundary Committee และมีคณะกรรมการอีกอันหนึ่งเขาเรียกว่า จีบีซี General Border Committee คณะกรรมการเจบีซี เรามีกับลาว เขมร มาเลเซีย พม่า เอาไว้เป็นที่ประชุมตกลงปรึกษาหารือกันเวลามีปัญหาระหว่างชายแดน มีมานานแล้วตั้งแต่มีประเทศไทย ตั้งแต่ประเทศเราได้เอกราชแล้วเราทำสนธิสัญญา ทางใต้เราทำกับอังกฤษ พม่ากับมาเลเซียนี่อังกฤษ ส่วนลาวกับเขมร เราทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส หลังจากฝรั่งเศสกับอังกฤษถอนตัวออกไป บรรดาประเทศนี้ได้เอกราช ปัญหาชายแดนเป็นเรื่องคณะกรรมการเจบีซี พิจารณา และคณะกรรมการจีบีซี เวลามีปัญหา แต่ทุกประเทศโดยรอบนี้ ไม่มีประเทศไหนมีเอ็มโอยูกับประเทศไทยเลยครับ ลาวเราก็ไม่มีเอ็มโอยู มาเลเซียก็ไม่มี พม่าก็ไม่มี ทำไมไปงุบงิบลงนามทำเอ็มโอยูกับเขมรประเทศเดียวครับพี่น้อง นี่คือพิรุธ
และวันนี้เราจึงได้รู้แล้วใช่ไหมครับว่า ที่ไปลงนามเอ็มโอยู 2543 และเปลี่ยนบทบาทของคณะกรรมการเจบีซี กลายมาจากคณะกรรมการที่ปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาท หรือปัญหาตลอดแนวชายแดนเท่านั้น ไม่ใช่มาสำรวจปักปันเขตแดนใหม่ กลายเป็นว่า ยุคนายกฯ ชวน เป็นยุคที่มีการตั้งคณะกรรมการเจบีซีขึ้นมา และไปลงนามเอ็มโอยู 2543 เปลี่ยนจากคณะกรรมการที่มีหน้าที่แก้ไขปัญหา โดยยึดเอาสนธิสัญญาที่เรามีแต่เดิมระหว่างไทย-ฝรั่งเศส กลายเป็นมาสำรวจปักปันเขตแดนใหม่ตลอดแนวชายแดนไทยหมดเลย นี่มันเป็นพิรุธว่า ต้องการตกลงผลประโยชน์กับฮุน เซน แบ่งปันกันเรื่องอะไรกันแน่จึงไปยอมทำบันทึกตกลงเอ็มโอยูเฉพาะกับเขมรประเทศเดียวครับพี่น้อง เรื่องมันมาจนกระทั่งถึงวันศุกร์ที่จะเข้า วันที่ 25 ผมจึงมาถึงบางอ้อว่า อ๋อ มันมีผลประโยชน์แหล่งพลังงานทางทะเล ที่ฮุน เซน คงแอบตกลงกับนักการเมืองไทย นายทุนของประเทศไทยที่สนับสนุนพรรคการเมือง คงได้ประโยชน์ร่วมกัน จึงยอมทำเรื่องนี้ครับ
ส่วนนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ นั้น สุรินทร์ พิศสุวรรณ เป็นเด็กที่ได้ทุนไปเรียนโดยสหรัฐอเมริกา และสุขุมพันธ์จบมาจากสหรัฐอเมริกา สองคนนี้โปรอเมริกันมาโดยตลอด นักการเมืองไทยที่จบจากอเมริกา เป็นขี้ข้าอเมริกาทั้งนั้นเลยครับพี่น้อง แสดงว่านายทุนพลังงานอเมริกันต้องมีส่วนครอบงำ ชักใย ทำให้เกิดเอ็มโอยู 43 นี้ขึ้นอย่างแน่นอนครับ
เพื่อยืนยันว่าวันนี้ ว่ารัฐบาลไทยเป็นขี้ข้าอเมริกันอย่างไร ครม.วันนี้ประชุมกัน อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เอากำลังทหารไปถล่มประเทศลิเบีย ประเทศไทยเสือกไปยุ่งอะไรกับเขาถึงมีมติบอยคอตตามยูเอ็น ตามอเมริกา ทั้งๆ ที่เราอยู่ตรงนี้ แล้วปัญหาการเมืองของประเทศลิเบีย เป็นเรื่องต่อสู้ภายในระหว่างประชาชนฝ่ายเอากัดดาฟี กับฝ่ายไม่เอากัดดาฟี แต่ฝ่ายหนึ่งนั้นอเมริกาสนับสนุน ก็เอากำลังไปถล่มประเทศลิเบีย ก็ฆ่าคนลิเบียตายทั้งนั้น บุกรุก รุกรานประเทศลิเบีย รัฐบาลไทยเสือกอะไรไปร่วมสังฆกรรมกับเขา ในขณะที่จีน รัสเซีย ประเทศอื่นเขาคัดค้าน เขาประณามการที่อเมริกาส่งกำลังเข้าไปถล่มลิเบีย ลิเบียจะดีจะชั่วอย่างไรก็ต้องให้เขาว่ากันเองเรื่องประชาชนในประเทศเขา ทำไมอเมริกามีสิทธิ์อะไรจะเอากำลังเข้าไปถล่มประเทศลิเบีย แล้วรัฐบาลไทยเสือกทะลึ่งเห็นชอบ เห็นดีเห็นงามกับเขา นี่คุณกำลังชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน หาเรื่อง แส่ซะแล้วครับพี่น้อง ประเทศอื่นในอาเซียน ยังไม่เห็นมีประเทศไหนเขาบอยคอตเลย อวดเก่ง เฮ่อตามก้นอเมริกาทันทีเลยครับพี่น้อง
ผมถึงบอกว่า เอ็มโอยู 2543 คงถูกอเมริกันนายทุนแหล่งพลังงาน จูงจมูกและบีบคอไปเซ็นแน่ๆ ถึงไม่มาปรึกษาที่ปรึกษาอย่าง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และไม่ยอมให้สภาที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีขณะนั้นรับรู้เลยครับพี่น้อง ผมคิดว่าเรื่องนี้ นายกฯ ชวน วันนี้ถ้าหากว่าผ่านร่างเจบีซี 3 ฉบับนี้ในสภา นายกฯ ชวน คงจะแก้ตัวไม่ได้ คงจะร่วมขายชาติกับอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ แน่นอนครับ แก้ตัวไม่ได้เลย
นี่คือเรื่องที่ผมอยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า คนที่เราคิดว่าจะเป็นหลักให้กับบ้านเมือง กลับกลายเป็นไม้หลักปักขี้ควายไปแล้วครับ แทนที่จะคัดค้าน ใช้เหตุใช้ผลพิจารณาว่าอันนี้จะเกิดผลดีผลเสียกับชาติบ้านเมืองอย่างไร เราพูดความจริงอยู่ที่นี่ คนทั้งประเทศก็รู้จนหูจะแตก รัฐบาลไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะมาโต้แย้งหักล้างเราได้ ทำไมยังหน้ามืดตามัวที่จะเดินหน้าผ่านร่างเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่นายกฯ ชวน และพรรคประชาธิปัตย์ ต้องตอบประเทศไทย สังคมไทย และประชาชนไทยว่า พวกคุณกำลังทำอะไรกับบ้านเมืองครับพี่น้องครับ
พี่น้องครับ อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูด เพราะว่าเห็นนายกฯ อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ ซึ่งไปให้สัมภาษณ์ที่พัทยา ไม่รู้รอดมาได้อย่างไร ทำไมไม่โดนพวกเสื้อแดงล็อกคอไว้ ตอนแรกที่โดนพวกเสื้อแดงล้อมกรอบจะทุบกะบาล ผมยังรู้สึกเห็นใจอยู่ ตอนนี้ผมว่าทุบซะได้ก็ดีเหมือนกันนะครับ เพราะคนแบบนี้อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน
พี่น้องดูนะครับ ผมเห็นบทสัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งให้สัมภาษณ์เมื่อเย็นนี้ ผมขอดูก่อนนะครับ ให้สัมภาษณ์ที่พัทยา ผมอ่านแล้วผมอยากจะตอบนายอภิสิทธิ์ พี่น้องครับเขาบอกว่าอย่างนี้นะครับ นายอภิสิทธิ์บอกว่า 1.ก็คือ นักข่าวถามว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ วันไหน เห็นนายสุเทพบอกว่าจะยุบระหว่างวันที่ 7-10 นายอภิสิทธิ์บอกว่า ยังไม่ทราบ เห็นคนพูดว่า วันที่ 3 พ.ค. แต่นายสุเทพบอกว่ายังไม่ทราบ แต่ถ้าวันที่ 7-10 ก็ไม่ใช่สัปดาห์แรก เมื่อถามว่า แสดงว่าจะยุบสภาวันฉัตรมงคลใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรายังไม่ทราบ ตนเพียงแต่บอกว่า ไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. และวันพุธ-พฤหัสฯ นี้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง 3 ฉบับ จะเข้าสู่การพิจารณาของสภา
พี่น้องครับ สรุปแล้วเขายังไม่ได้ตอบว่าจะยุบสภาวันไหน สรุปแล้วก็คือจะรอให้กฎหมายลูก 3 ฉบับผ่านซะก่อนถึงจะให้คำตอบว่าจะยุบสภาหรือไม่ยุบสภาวันไหน แต่พี่น้องครับ นี่คือนิสัยของไอ้หินกลิ้ง ปลาไหลใส่สเก็ต ลักษณะนิสัยของนายอภิสิทธิ์ ผมไม่เคยเชื่อขี้ปากมันเลยครับ ความจริงแล้วมันอยากจะอยู่จนครบเดือน ธ.ค. อยากจะอยู่ครบเทอม แต่เป็นลีลาพลิ้ว ถามว่าจะยุบเมื่อไหร่ไม่ตอบ ไม่บอก ถ้าจะตอบว่าทันทีที่กฎหมายลูก 3 ฉบับผ่าน ผมจะกำหนดวันยุบสภาทันที ก็ไม่พูด จะยุบเมื่อไหร่เดี๋ยวดูก่อน ถ้าผ่านเร็วก็ยุบเร็ว สรุปแล้วคือแทงกั๊ก พูดปลิ้นไปปล้อนมาหาความแน่นอนไม่ได้ครับพี่น้อง
ประเด็นเรื่องยุบสภา คุณจะยุบหรือไม่ยุบ ผมไม่เคยเชื่อขี้ปากนายอภิสิทธิ์เลย ผมเชื่อแน่เขาพูดเพราะ ที่บอกว่าจะยุบเดือน พ.ค. เพราะกลัวประชาชนจะไล่วันพรุ่งนี้มะรืนนี้ กลัวประชาชนจะออกมาถล่มไล่ กลัวออกมา กลัวว่าจะมีทหารมาปฏิวัติ ถีบลงจากตำแหน่งนายกฯ ไวๆ นี้ เลยพยายามพูดเรื่องยุบสภามาลดทอนกระแส และผ่อนคลายกระแสการลุกขึ้นสู้ของประชาชน แต่เชื่อเถอะ วิชากะล่อน ตัวเบา เอาตัวรอดของคุณ มันเอาตัวไม่รอดหรอก เราไม่เชื่อขี้ปากอยู่แล้ว ยุบไม่ยุบก็ไล่ ใช่ไหมครับพี่น้อง ประชาชนหมดความเชื่อถือในตัวคุณอภิสิทธิ์แล้ว
ส่วนประเด็นที่ 2 เขาบอกว่าจะมีความรุนแรงในการเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์บอกว่า ถาม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี แล้วยืนยันว่า จะสามารถควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยได้ ส่วนความรุนแรงที่หัวคะแนนจะมีปัญหาความปลอดภัยหรือไม่นั้น บอกว่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง เพราะอย่าลืมว่า พรรคการเมืองไหนออกนอกลู่นอกทางต้องถูกลงโทษตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่ความเป็นจริง ความรุนแรงมันเกิดขึ้นทุกวัน และเกิดขึ้นตั้งแต่เดี๋ยวนี้แล้วครับพี่น้อง แล้วสอง พรรคไหนออกนอกลู่นอกทาง รับรองครับ เป็นพรรคอื่นเท่านั้นที่จะโดนจัดการตามกฎหมาย พรรครัฐบาลหลับหูหลับตา ไม่มีทางโดนเล่นตามกฎหมายอย่างแน่นอน
ผมจึงอยากจะฝากเตือนพรรคเพื่อไทย และพี่น้องคนเสื้อแดงว่า ผมเดิมพันได้เลย เลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีทางชนะพรรครัฐบาลแน่ เพราะรัฐบาลอย่างไรก็โกงเก่งกว่าพรรคฝ่ายค้านแน่นอน เพราะฉะนั้นพรรคเพื่อไทยถ้าลงเลือกตั้ง คงเป็นเครื่องมือประกอบการแสดง ยิ่งถ้าจูบปากพรรครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้าเมื่อไหร่ พี่น้องเสื้อแดงครับ แสดงว่าพรรคเพื่อไทยทรยศคนเสื้อแดงเช่นเดียวกันครับพี่น้อง
ประการต่อมา คำถามนี้สำคัญเขาถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะมีเลือกตั้ง หลายฝ่ายปลุกกระแส ไม่ให้มีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีบางฝ่ายเท่านั้น แต่ตนยังมั่นใจว่า เราผ่านบทเรียนมาเยอะ ตนยังมองไม่เห็นว่า ผู้เสนอไม่ให้มีการเลือกตั้ง และไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าบ้านเมืองจะเดินไปอย่างไร มีแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น สะสมแผล หรือความขัดแย้งสำหรับบ้านเมืองต่อไป เราต้องมาช่วยกันทำให้ระบบของเราเดินหน้าต่อไป บ้านเมืองจะต้องเดินหน้าต่อไป นี่คือคำพูดของนายอภิสิทธิ์
พี่น้องครับ ตอนนี้นายอภิสิทธิ์รู้แล้วใช่ไหมว่ามีหลายฝ่าย วันแรกให้สัมภาษณ์ถามว่า มีบางกลุ่ม บางคนไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง วันนี้รู้หรือยังว่าไม่ได้มีบางกลุ่ม บางคน ไม่ใช่มีผมคนเดียวเท่านั้น มีหลายฝ่ายทั่วบ้านทั่วเมืองที่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งสกปรกโสโครก ไม่ใช่มีเพียงบางฝ่าย นายอภิสิทธิ์พยายามบอกว่า ตนยังมองไม่เห็นว่า ถ้าไม่มีเลือกตั้ง ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแล้วบ้านเมืองจะเดินไปอย่างไร ถ้าไม่ต้องมีการเลือกตั้งบ้านเมืองก็เดินไปสู่สวรรค์ซิครับ ถ้ามีเลือกตั้งในระบอบนี้บ้านเมืองก็ลงนรกซิครับ เพราะถ้ามีเลือกตั้งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ และภายใต้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และภายใต้กำกับ บงการของคณะกรรมการเลือกตั้งที่อยู่ภายใต้อำนาจรัฐที่มีนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็๗ะได้นักการเมืองสกปรกโสโครกกลับมา บ้านเมืองก็ลงนรกเหมือนเดิม มันจะมีอะไรดีขึ้น เพราะทุกวันนี้พวกคุณก็เป็นรัฐบาลอยู่แล้ว เลือกตั้งกลับไปคุณกลับมาเป็นรัฐบาลเหมือนเดิม บ้านเมืองยังอยู่ในนรกเหมือนเดิม ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น จะมาถามทำไมว่าจะเดินไปอย่างไร ทุกวันนี้เดินไปไหนไม่ได้เพราะนักการเมืองโกง ทุจริต ขายชาติ ไม่สนใจปัญหาของประเทศชาติ ประชาชนไงล่ะนายแหล จะเดินหน้าได้อย่างไร ที่เดินหน้าไม่ได้เพราะบริหารซังกะบ๊วย ไม่สนใจใยดีกับปัญหาชาติบ้านเมือง คุณกลับมาคุณจะมีอะไรดีกว่านี้ นอกจากมาแหลไปวันๆ อีกเหมือนเดิม
คำถามต่อมา ก็บอกว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้งจะทำให้เกิดความขัดแย้ง สะสมแผล แล้วทุกวันนี้ความขัดแย้งในสังคม และแผลร้ายในสังคมนั้นมันเกิดขึ้นจากน้ำมือใคร ไม่ใช่น้ำมือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรอ ที่บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คำถามว่า แผลร้าย ความขัดแย้ง ปัญหาของชาติที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มันจะหายไปได้อย่างไร เพราะมันได้นักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกง ได้ผู้นำประเทศที่ขี้ขลาด อ่อนแอ ไม่มีความสามารถอย่างคุณกลับมาอีก แผลของสังคมจะหายไปได้อย่างไรครับ ไม่มีทางเลย
สุดท้ายคือ เราต้องมาช่วยกันทำให้ระบบของเราเดินหน้า บ้านเมืองจะต้องเดินหน้าต่อไป ตกลงช่วยให้บ้านเมืองเดินหน้า หรือช่วยให้นักการเมืองสัตว์นรกกลับมาปกครองบ้านเมืองอีก ช่วยให้นักการเมืองสัตว์นรกอย่างพวกคุณอยู่ในอำนาจต่อไปอีก ช่วยให้นักการเมืองโกง ขายชาติ ขายแผ่นดิน อย่างพวกคุณกลับมาอีก แล้วบ้านเมืองเดินหน้าตรงไหน มีแต่จะถอยหลังเข้าคลอง
พี่น้องที่เคารพครับ ผมถึงบอกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนักพูด เป็นนักโต้วาที เป็นนักตอแหล แต่เมื่อเจอคนจริงอย่างพวกเรา โต้เถียงไม่ได้เลย วันนี้เพิ่งอ้าปากพูด พออ้าปากพูดก็โดนตอกกลับจมธรณีเหมือนเดิมครับ พยายามจะอวดอ้างว่าระบอบการเลือกตั้งที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือ สวรรค์ คือทางสว่าง คือทางเจริญ คือทางก้าวหน้า ทั้งๆ ที่ประชาชนทั้งประเทศเขามองว่ามันมืดมน ไร้อนาคต และนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความหายนะหนักกว่าเดิมเท่านั้นเอง แต่นายอภิสิทธิ์พยายามอธิบายในสิ่งที่ประชาชนเห็นกันทั่วบ้านทั่วเมือง เลือกตั้งก็ได้นักการเมืองสกปรกโสโครกพวกนี้ไปผลัดหน้าตาแป้งฟอกตัวเองกลับมาเหมือนเดิมใช่ไหมครับพี่น้อง
เพราะฉะนั้นจึงอยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องว่า การเมือง การเลือกตั้งวันนี้ต้องถือว่าจบแล้ว มันไม่มีทางจะทำให้เราได้สวรรค์ ได้ความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง เพราะนักการเมืองหาได้สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำกับชาติบ้านเมือง และประชาชนแต่อย่างใดไม่
สุดท้ายสำหรับวันนี้ อยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องว่า การเมือง การเลือกตั้งที่เป็นอยู่ในระบอบเดิมนี้ ไม่น่าจะเป็นอนาคตและความหวังให้กับชาติบ้านเมืองอย่างแน่นอน และ 2.การที่รัฐสภาจะประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบรายงานการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา เป็นจุดสำคัญและเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชาติบ้านเมืองเราครับ เราจะต้องออกมาแสดงพลังร่วมกันที่จะหยุดการกระทำของนักการเมืองเหล่านี้ให้จงได้ครับ ผมเชื่อแน่ว่า เรากำลังหารือกัน และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร ที่นำการเคลื่อนไหวต่อสู้ครั้งนี้ จะต้องหารือกันโดยรีบด่วน เพื่อกำหนดมาตรการสำคัญ หยุดยั้งการกระทำของนักการเมืองที่จะเอาชาติ เอาแผ่นดินของเราไปขาย และทำให้ประเทศเสียดินแดนอย่างถาวร
ผมหวังว่า ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เราพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนมา ถึงเวลาที่เราจะต้องมาตัดสินใจร่วมกัน พี่น้องครับ ด้วยความมานะ ความอดทน ความเสียสละ และความเพียรของพวกเราร่วมกัน ผมเชื่อแน่ว่า ภารกิจของเราที่ทำอยู่ร่วมกัน จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ขอเพียงแต่พ่อแม่พี่น้องทั้งหลายออกมาผนึกกำลังสามัคคีกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของชาติบ้านเมืองที่พวกเราแม้ตายก็ยอมไม่ได้ครับพี่น้องครับ ยืนยันว่า อย่างไรเราจะยืนหยัดสู้อยู่ด้วยกันจนกว่าจะได้ชัยชนะ เราหวังว่าความตั้งใจดี ความเพียรพยายามของเรา จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนครับพี่น้องครับ ขอบคุณมากครับ