สภาสูงพิจารณางบกลางปี กมธ.ตั้งข้อสังเกตเศรษฐกิจโต แต่ไม่ได้ช่วยอะไรประชาชน เพราะยังเดือดร้อน และของแพง แนะใช้งบต้องตรวจสอบ ชี้ประชาวิวัฒน์ทำคนแบกหนี้สาธารณะเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันนี้ (21 มี.ค.) ซึ่งมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2554 จำนวน 99,967,631,300 บาท ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้แนบข้อสังเกตจำนวน 5 หน้า แบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ 1.นโยบายและการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม กระทรวงการคลังควรคำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทำให้เสี่ยงในการจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ การจัดงบเพิ่มเติมต้องติดตามการใช้จ่ายเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต ที่สำคัญสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทยปี 2553 เจริญเติบโตขึ้น แต่ประชาชนในพื้นที่ชนบทกลับได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าราคาแพง จึงควรให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ของประชาชนเป็นหลักไม่ควรให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้กระทรวงการคลังควรเน้นวิธีการกระจายเม็ดเงินและรายได้ลงไปในระดับรากหญ้าหรือพื้นที่ชนบทให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม 1.การจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานไม่ควรกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น การเบิกจ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีความล่าช้า กระทรวงการคลังควรเร่งดำเนินการเชื่อมโยงการเบิกจ่ายดังกล่าว รวมถึงการนำเสนองบเพิ่มเติม ควรมีข้อมูลที่ให้รายละเอียดแผนงาน โครงการและงบประมาณรายจ่ายในแต่ละแผนงานหรือโครงการอย่างเพียงพอ ชัดเจน
2.การจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยพิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการร่วมกันในการกำหนดแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นรูปธรรมเพราะเป็นปัญหาทุกปี และควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม การกำหนดขั้นตอนการรักษาระบบนิเวศน์แต่ละพื้นที่ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการควรมีแนวทางบริหารจัดการงบประมาณการจัดซื้อจัดจ้างของโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ กระจายงบประมาณไปยังโรงเรียนต่างจังหวัดที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนทันสมัย สำหรับรายจ่ายเพื่ออุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อจัดสรรเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยยังชีพผู้พิการหรือทุพพลภาพ ควรกำหนดแนวทางและมาตรการที่ชัดเจนในการตรวจอบการเบิกจ่ายเงิน
3.รายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลัง ต้องประเมินฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งเงินคงคลังและรายได้จากการจัดเก็บเพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้แทนการกู้เงินจากต่างประเทศ และสามารถกู้เงินจากกองทุนในประเทศเพื่อไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่ต่างประเทศ ทั้งนี้กระทรวงการคลังต้องมีแนวทางหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ในเรื่องการลดรายจ่าย และการเพิ่มรายได้ของประเทศนอกจากนี้ สถานการณ์โลกปัจจุบันมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้นในหลายประเทศส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การที่รัฐบาลดำเนินนโยบายประชาวิวัฒน์ต้องใช้เงินงบประมาณค่อนข้างสูงส่งผลกระทบให้ประชาชนต้องแบกภาระหนี้สาธารณะมากเกินไป
