“โทรโข่งมาร์ค” โต้ “เด็จพี่” ยันเป็นไปไม่ได้แจก 10 ล้านแลกโหวตหนุนรัฐ ซัดพล่ามกลบซักฟอกเหลว ไล่ไปเช็กคนในทำข้อสอบรั่ว ชี้ลางบอกเหตุ “เจ๊มิ่ง” โดนหลอกใช้ เชื่อสุดท้าย “นช.แม้ว” ส่ง “ยิ่งลักษณ์” นั่งหัวหน้า โว “มาร์ค” แจงภาษีบุหรี่นอกครบทุกเม็ด สับ “ยุทธพงศ์” ส.ส.สอบตกอารมณ์ค้าง แนะพท.แจกซีดีอภิปรายโดยไม่มีตัดตอน
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุมีการว่าจ้าง ส.ส.ให้ยกมือให้ไว้วางใจรัฐมนตรีด้วยเงิน 8 หลักว่า โฆษกพรรเพื่อไทยได้ข้อมูลมาจากไหนและออกมาปูดข่าวนี้ทำไม ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะได้หลังตรวจสอบผลการลงมติแล้วพบว่า ส.ส.ที่ลงมติไว้วางใจก็เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลและบุคคลที่ตั้งใจจะย้ายพรรคมาร่วมกับฝ่ายรัฐบาลในอนาคต ด้วยการอ้างตัวเลข 8 หลัก คือ 10 ล้านบาทขึ้นไป แต่คงไม่มีใครที่จะยอมลงทุนด้วยเงินที่มากเช่นนี้ เพราะรู้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพพร้อมที่จะยกมือสนับสนุนทุกคนและไม่มี ความจำเป็นที่ต้องซื้อเสียง ส.ส.เพิ่มอีก
นายเทพไทกล่าวต่อว่า โดยพฤติกรรมเช่นนี้เป็นการกลบเกลื่อนความล้มเหลวของพรรคฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่โพลทุกสำนักให้คะแนนสอบตกจึงต้องเบี่ยงประเด็นปูดข่าวเรื่องซื้อเสียง ส.ส. อยากให้พรรคเพื่อไทยกลับไปดูพฤติกรรมคนในพรรคตัวเองว่า แม้ตัวอยู่พรรคเพื่อไทยแต่ใจฝักใฝ่พรรคการเมืองไหนกันแน่ โดยเฉพาะการรั่วไหลของประเด็นที่จะนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะทำให้รัฐมนตรีบางคนที่ถูกอภิปรายรู้ข้อสอบก่อนล่วงหน้า และสามารถเตรียมประเด็นชี้แจงตรงกับเรื่องที่จะอภิปรายไว้ได้ถูกต้องแม่นยำจึงไม่รู้ว่าเป็นการซื้อข้อสอบล่วงหน้าหรือการเก็งข้อสอบแม่นกันแน่
ส่วนประเด็นข่าวออกมาว่าในที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะตำหนิการทำหน้าที่ของนาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ผู้นำการอภิปายฯ ที่ได้ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกฯในสภาหลายครั้ง ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียคะแนนนิยมนั้น นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าดูความเคลื่อนไหวในพรรคเพื่อไทยเองอาจเป็นลางบอกเหตุได้ว่านายมิ่งขวัญถูกหลอกใช้ และถูกเขี่ยออกจากแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยค่อนข้างแน่นอนแล้ว ถือเป็นเหยื่อรายที่สองต่อจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเห็นได้จากการที่นายใหญ่กำลังใช้แกนนำในพรรคเป็นบันไดกรุยทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของตัวเองก้าวข้ามไปเป็นหัวหน้าพรรค โดยการส่งสัญญาณให้ ส.ส.เพื่อไทย ออกมาขานรับเห็นได้จากพฤติกรรมของส.ส.เพื่อไทยหลายคนเพียงแต่มีการเคาะปี๊บเคาะกะลาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคด้วยทุนสนับสนุนไม่อั้น อย่างไรก็ตาม ตนฟันธงไว้เลยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยใหม่แน่นอน เพราะคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คิดการเมืองไม่พ้นหัวกระไดบ้าน
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยทวงคำตอบจากนายกฯในประเด็นหลีกเลี่ยงภาษีบุหรี่ว่า ตนเห็นว่าเรื่องนี้นายกฯ ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาชัดเจนทุกประเด็นแล้วจน ส.ส.พรรคเพื่อไทยผู้อภิปรายฯ ไม่โต้แย้งใดๆ แต่กลับปล่อยให้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น ส.ส.สอบตกออกมาเคลื่อนไหวนอกสภา หากไม่พอใจก็ควรจะส่งเรื่องฟ้องไปยังศาลตามมาตรา 157 แต่ไม่ควรนำมาจุดประเด็นนอกสภาอีก ทั้งที่เรื่องนี้จบกระบวนการทางสภาไปแล้ว หากนายยุทธพงศ์ยังติดใจก็ไปลงเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.มาก่อนแล้วค่อยเอาเรื่องนี้มาอภิปรายในสภาชุดต่อไป ดังนั้นจึงควรยอมรับกติกาการตรวจสอบฝ่ายบริหารตามแนวทางในระบอบประชาธิปไตย
สำหรับกรณีที่ทางพรรคเพื่อไทยระบุจะทำหนังสือรวมข้อมูลการทุจริตในการอภิปายไม่ไว้วางใจแจกจ่ายประชาชน นายเทพไทกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ชาวบ้านจะได้รับรู้เรื่องต่างๆ เพียงแต่ข้อมูลที่ให้ต้องเสนอทั้งสองด้านที่สำคัญอย่าตัดต่อข้อมูลใดๆ จนทำให้รัฐบาลเสียหาย ถ้าคิดจะเผยแพร่ข้อมูลจริงๆ ก็ควรผลิตเป็นวีซีดีบันทึกการอภิปรายโดยไม่ตัดต่อข้อความใดๆ ทำแจกจ่ายชาวบ้านตั้งแต่ต้นจนจบจะดีกว่า ซึ่งถือเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐทางอ้อมที่รัฐบาลต้องเจียดงบประมาณมาทำซ้ำอีก ส่วนกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช.คลังและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาว่าญาติของนายกฯ มีตำแหน่งในบริษัทเอกชน ตนก็เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คนในตระกูลของนายกฯ จะไปประกอบอาชีพหรือมีหน้าที่การ งานในบริษัทเอกชนใดก็ได้ นายกฯ เองก็ไม่มีส่วนไปกำหนดหรือเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของเครือญาติหรือคนในตระกูลได้ แม้แต่ญาติบางคนในนามสกุลเดียวกันไปสังกัดคนละพรรคการเมืองก็มี ดังนั้นจึงไม่ควรเหมารวมว่าญาตินายกฯ อยู่บริษัทใดแล้วนายกฯ จะต้องเอื้อประโยชน์ให้