โฆษกรัฐบาล ปั่นกระแสประชาธิปไตย ต้องพิสูจน์ด้วยการเลือกตั้ง เชื่อ กำหนดทิศทางอนาคตประเทศได้ ใส่ร้ายการชุมนุมพันธมิตรฯเป็นแค่กลุ่มคนเล็กๆ แต่เสียงดัง หวังป่วนบ้านเมือง แต่กลับคารวะการชุมนุมแดงเผาเมือง มีพัฒนาการเพื่อนำบ้านเมืองไปสู่การเลือกตั้ง ฝันหวานหากประชาธิปัตย์ ได้รับเสียงข้างมาก พร้อมเป็นรัฐบาลสานต่อนโยบายเดิมภายใน 1 เดือน
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร เลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปพูดคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการลงละเอียดความเหมาะสมในการยุบสภา ว่า ในการคุยคือจะดูว่าเร็วที่สุดเมื่อไหร่ ช้าสุดเมื่อไหร่ และเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ และมีผลต่อทิศทางอนาคตของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีแนวทางที่ชัดเจนว่าประชาชน ต้องรับทราบพรรคเมืองที่เกี่ยวข้อง และผลการเลือกตั้งก็จะสะท้อนเจนตนารมณ์ของประชาชน และจะทำให้เสียงของกลุ่มเล็กๆ ต้องเคารพ รวมถึงเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ
นายปณิธาน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี มีความชัดเจนว่า คนส่วนใหญ่ต้องการพัฒนาทางการเมือง แต่มีเสียงส่วนน้อยที่ส่งเสียงดังๆ ทำให้เกิดความสับสน ที่ทำให้เกิดปัญหา เพราะต้องการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ในแง่ของมวลชน แต่มวลชนคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เขามุ่งไปในแง่ของทิศทางการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ก็ยังมีมวลชนกลุ่มอื่นที่มีแนวทางที่ชัดเจน ในการกลับไปทิศทางความรุนแรง ที่ทำความผิดกฎหมายเพื่อให้เกิดการใช้กำลัง ซึ่งหากเราใช้กฎหมายมากเกินไปก็จะเกิดการเผชิญหน้า แต่ที่หนักกว่านั้น คือ เรื่องของกองกำลัง ที่รอบ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ใช้ได้ผล และมีประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องไปสกัดกั้นแกนนำบางส่วนที่จะออกมาเคลื่อนไหวก่อนการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง เราต้องการให้ทิศทางการเมืองไม่ยุ่งเกี่ยวกับความรุนแรง ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนว่า กองทัพและตำรวจมีกรอบกติกา การใช้กำลัง เพราะหลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีการประกาศ พ.ร.บ หรือ พ.ร.ก.ออกมา ก็มีการจัดรูปแบบ จัดความรับผิดชอบ และมีการตรวจสอบที่ชัดเจน และแนวการใช้กำลังของกองทัพในการดูแลรักษาความมั่นคง ก็มีรูปแบบที่กองทัพทำงาน ได้โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
นายปณิธาน กล่าวว่า หลังจากที่ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบจะมีเวลาในการจัดการเลือกตั้ง 45-60 วัน และหลังจากนั้น 1 เดือน ก็สามารถที่จะตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดไว้ว่า หากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงมากและได้เป็นรัฐบาล จะเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ถ้ารัฐบาลกลับมาก็จะสานแนวทางที่รัฐบาลเคยทำไว้