xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ซัดโจกแดงปราศรัยหมิ่นเหม่ จับผิด “แม้ว” โฟนอินบิดเบือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
โฆษกมาร์ค ชี้ 7 โจกแดงขึ้นปราศรัยเข้าข่ายหมิ่นเหม่ จี้หน่วยงานรัฐตรวจสอบละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่ จับผิด “แม้ว” โฟนอิน บิดเบือน 6 ประเด็น ชี้ สังคมเห็นต่างยุบสภา 3 กลุ่ม ปูดบางกลุ่มป่วนให้ปฏิวัติ หวังเปลี่ยนโครงสร้างสังคมครั้งใหญ่ ปัดคนรัฐบาลล็อบบี้ไม่ให้เกิดซักฟอก แนะ พท.เอาเวลาไปเตรียมข้อมูลสร้างคะแนนนิยมดีกว่า

วันนี้ (13 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมเสื้อแดงเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกของ 7 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ขึ้นเวทีหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งดูจากพฤติกรรมในการแสดงออกและการปราศรัย ถ้าตรวจสอบดูจะเห็นได้ว่า มีความหมิ่นเหม่ต่อการปลุกระดมมวลชน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียด ว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับการประกันตัวหรือไม่ และหากแกนนำมีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป จะสร้างความกังวลใจต่อประชาชนในสังคม จึงอยากเรียกร้องให้คนที่เป็นพยานต่อศาลในการรับประกันพฤติกรรมแกนนำนั้นว่า คนเหล่านี้ได้ปฏิบัติตามที่ได้ให้ข้อเท็จจริงต่อศาลหรือไม่

นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เป็นพฤติกรรมเดิมๆ ด้วยการระดมคนมาชุมนุมให้มาก และเปิดเวทีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โฟนอินปราศรัยกดดันศาล ด่ากองทัพ และรัฐบาล โดยเฉพาะการที่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช.พูดพาดพิงผู้พิพากษา ว่า คนไทยทนได้ แต่ทนต่อความอยุติธรรมไม่ได้ จึงอยากถามความหมาย ว่า กระบวนการการยุติธรรมไม่เพียงพอต่อสายตาหรือไม่ การที่ศาลปรานีปล่อยตัวแกนนำยังเป็นการให้ความยุติธรรมไม่พอหรือ การพูดถึงรัฐบาลและทหาร โดยเฉพาะการปฏิวัติที่ผ่านมา ทหารไม่ได้ขออนุญาตประชาชน ดังนั้น การชุมนุมไม่ต้องขออนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะการปฏิวัติที่ผ่านมา เพราะบ้านเมืองอยู่ในรัฐอธิปัตย์ ไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อประชาชน แต่เมื่อบ้านเมืองกลับเข้าสู่ปกติ ต้องกลับเข้าสู่กฎหมาย

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสรุปสาระได้ 6 ข้อ ที่เป็นเรื่องที่บิดเบือน และพาดพิงรัฐบาลจนเกิดความเสียหาย คือ 1.สังคมแตกแยกไม่ใช่เพราะคนเสื้อแดง แต่เกิดจากความยัดเยียดด้วยมือทหาร ทั้งๆ ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามปรองดอง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมเลิกรา 2.สังคมไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีผู้มีบารมีเข้าแทรกแซง อยากถามว่า ผู้มีบารมีที่กล่าวถึงเป็นใคร ใช่คนที่เคยกล่าวหาก่อนถูกยึดอำนาจใช่หรือไม่ และยืนยันว่า ไม่มีผู้มีบารมีเข้าแทรกแซง เพราะทุกองค์กรปฏิบัติตามหน้าที่ตัวเอง 3.การกล่าวหาว่าทหารฆ่าประชาชน เผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อดใจรอในการอภิปรายที่จะเกิดขึ้น เฝ้าดูข้อมูลว่าฝ่ายไหนมีข้อมูลที่เด็ดกว่ากัน ไม่ควรปรักปรำรัฐบาล ทหาร หรือเจ้าหน้าที่ 4.พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า ส่งสัญญาณไปยังผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ว่า ประเทศต้องการประชาธิปไตย ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรส่งไปยังคนเสื้อแดง ให้เตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง 5.ให้ความหวังกับประชาชนรูปแบบเดิม คือ ชนะจะได้กลับมาและฟื้นเศรษฐกิจภายใน 6 เดือน เป็นการขายฝันให้คนระบอบทักษิณ แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม และ 6.พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ไม่พร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า การยุบสภาเลือกตั้งใหม่นั้น นายกฯก็ได้ส่งสัญญาณถูกต้อง แม้มีเสียงวิจารณ์ แต่ถ้าดูสถานการณ์การยุบสภา น่าจะแบ่งกลุ่มที่มีความเห็นต่อการคืนอำนาจประชาชน 3 กลุ่ม คือ 1.พร้อมให้มีการเลือกตั้งใหม่ และคืนอำนาจให้ประชาชน รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ มีความพร้อมให้ประชาชนตัดสินใจอนาคตของประเทศชาติอีกครั้ง 2.กลุ่มที่ต้องการให้มีการยุบสภา และให้รัฐบาลอยู่จนครบวาระ เพราะไม่มีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่นายใหญ่ส่งสัญญาณชัดว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง และอยากให้บริหารจนครบวาระ อาจทำให้กระแสความนิยมตกต่ำไป และจะเป็นโอกาสของพรรคตัวเอง และ 3.กลุ่มที่งอแงไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.กลุ่มที่จะถือโอกาสตอนรัฐบาลประกาศยุบสภา และกดดันให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลาออกทั้งชุด จนเกิดภาวะสุญญากาศ ฉวยโอกาสผลักดันให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา และ 2.กลุ่มที่ต้องการให้เกิดการรัฐประหาร เห็นจากการชุมนุมของทั้ง 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเห็นว่าแกนนำได้ประกาศว่า ถ้าเป็นทหารจะปฏิวัติกวาดล้างนักการเมืองชั่วไปแล้ว และอีกกลุ่มบอกว่า ควรยกเลิกพรรคการเมืองบางพรรคที่ตั้งใหม่ แล้วเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกสภา และกลุ่มที่ 2 พยายามเคลื่อนไหวโดยพยายามสร้างเงื่อนไขให้ให้เกิดการปฏิวัติ และพยายามสู้ต่อต้านการปฏิวัติ โดยอ้างการปฏิวัติประชาชนเพื่อหวังชัยชนะ และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมครั้งใหญ่ที่มีมายาวนาน

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ยืนยันว่า ในส่วนรัฐบาล พร้อมเปิดให้มีการอภิปรายอย่างเต็มที่ตามข้อบังคับสภา และยืนยันว่าไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี แต่จะมี ส.ส.พรรคติดตามตรวจสอบว่าการอภิปรายเป็นไปตามข้อบังคับหรือไม่ และจะไม่ให้มีการฉวยโอกาสในการอภิปรายใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อสร้างมาตรฐานให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีคนในรัฐบาลล็อบบี้ไม่ให้เกิดการอภิปรายนั้น ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ ถ้าพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่า มีคนในรัฐบาลล็อบบี้จริง ก็อยากให้ออกมายืนยันว่าเป็นใคร และยืนยันว่าไม่มีคนในพรรคหรือรัฐบาลล็อบบี้แน่นอน ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมเคลียร์ข้อกล่าวหาก่อนการยุบสภา ดังนั้น อยากให้พรรคเพื่อไทยเตรียมตัวอภิปราย พร้อมทั้งสร้างคะแนนนิยมที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เช่น การหาแคนดิเดตผู้ที่จะมาเป็นนายกฯ และไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยดูแต่โพลที่ตัวเองสำรวจว่ามีคะแนนนิยมมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่ในความจริงผลโพลที่มาจากสำนักวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือออกมาว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมมากกว่าพรรคเพื่อไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น