xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ประกาศยุบสภาต้นเดือน พ.ค.!! ชงแก้ กม.ลูกเลือกตั้งเข้าสภาสัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
นายกฯ เผย พบ กกต.คุยเลือกตั้ง อ้างเวลาเหมาะสม บ้านเมืองดีขึ้น คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้ง ดีกว่าปล่อยคนส่วนน้อยแต่เสียงดังเรียกร้อง คาด กกต.ชง พ.ร.ป.เข้าสภาได้สัปดาห์หน้า ลั่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาไม่เกินสัปดาห์แรกเดือน พ.ค.

วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนได้เดินทางไปพบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อดูความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับการยุบสภา และการเลือกตั้ง ซึ่งได้มีการพูดคุยสอบถามประเด็นเชิงเทคนิค ปัญหาข้อกฎหมายทั้งหมด จึงอยากเรียนสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนว่า 2 ปีที่ผ่านมา ตนได้ย้ำเสมอว่ารัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อคลี่คลายปัญหาของบ้านเมือง ขณะนั้นมีทั้งปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และแน่นอนที่สุดปัญหาทางการเมือง ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่ามีคนมองว่าประเทศไทยถึงขั้นเป็นรัฐที่ล้มเหลวได้

นายกฯ กล่าวต่อว่า 2 ปีที่ผ่านมาเราได้คลี่คลายปัญหาไปหลายเรื่อง หลายส่วนตนยืนยันว่า ได้เห็นความพึงพอใจของประชาชนถึงนโยบายสำคัญๆ เช่น เรื่องการเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การประกันรายได้เกษตรกร และภาพร่วมเศรษฐกิจมีความมั่นคงขึ้น แต่ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองก็ยังดำรงอยู่ สิ่งที่รัฐบาลได้ 2 ปีที่ผ่านมา ตนได้ยืนยันมาตลอด คือ การรักษาความเป็นนิติรัฐ และพร้อมที่จะพิจารณาคืนอำนาจให้แก่ประชาชน ในเวลาที่เห็นว่าเหมาะสม วันนี้สิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ชัดเจนคือ สภาพปัญหาบ้านเมือง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะปากท้องของประชาชน ก้าวไปสู่อีกขั้นหนึ่ง ก็คือเราอาจผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้ว แต่สภาพปัญหามันเปลี่ยน มันเป็นปัญหาเรื่องปากท้อง ของแพง ตนต้องการเห็นประเทศเดินหน้า ต้องการที่จะเห็นการเดินหน้าเพื่อมีคำตอบสำหรับพี่น้องประชาชน ตนไม่ต้องการให้ปัญหาในเรื่องการเมืองมาเป็นอุปสรรค มาเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองแทนมีความชัดเจน เดินหน้าต่อไปในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่กระทบต่อพี่น้องประชาชน ต้องมามีความอึมครึมทางการเมืองอยู่

“ด้วยเหตุผลนี้ผมอยากจะเรียนว่า การเลือกตั้งเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญ คิดว่าเมื่อสภาพปัญหามันพัฒนาในเรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ แล้วเราต้องการความชัดเจน เสียงของประชาชนจะได้ชี้อนาคตของชาติบ้านเมืองได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ผมยังมั่นใจด้วยว่า เสียงนี้จะเป็นเสียงที่สำคัญที่สุด ดังที่สุด มากกว่าการปล่อยให้สภาพการเมืองให้เป็นเรื่องของคนจำนวนน้อย แต่ส่งเสียงดัง แต่คนส่วนใหญ่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และไม่มีโอกาสออกสิทธิออกเสียง ใช้สิทธิใช้เสียง ผมเชื่อว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยมีความรู้สึกว่า อยากจะเห็นว่ามันพอแล้วสำหรับความวุ่นวายทางการเมือง และน่าถึงเวลาที่จะให้เจ้าของประเทศคือประชาชน เขาชี้ว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งผมมั่นใจว่าขณะนี้ต้องการเห็นการเดินหน้าสู่การแก้ปัญหาปากท้อง” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อตนไปพบกับ กกต.ก็เห็นภาพชัดเจนว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ กกต.สามารถเสนอกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาภายในสัปดาห์หน้าได้ คือได้ทำไว้พร้อมแล้ว และสภาจะมีเวลาพิจารณา และได้ทำความเข้าใจตรงกันว่า ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ถ้ามีความเหมาะสมจริงๆ จะต้องมีการเลือกตั้ง เรื่องของการออกระเบียบตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ แต่เราพยายามผลักดันกฎหมายให้เสร็จ เป็นทางเลือกที่ 1 แต่เมื่อพิจารณากับปัญหาภาพใหญ่ของประเทศแล้ว และตนได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง มีการปรึกษาหารือโดยตรงบ้าง ผ่านทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์บ้าง ก็ทราบว่าการตัดสินใจจะถูกใจทุกคนไม่ได้

“ผมตั้งใจจะนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อที่จะให้มีการยุบสภา ไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าความชัดเจนในเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบ การแบ่งเขตเลือกตั้งจะมีความเรียบร้อย คือไม่มีปัญหา จากการที่ได้พูดคุยกับกกต.ในวันนี้ ผมทราบดีว่า อาจจะมีเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อนนักการเมือง หรือเพื่อน ส.ส.ที่ไม่เห็นด้วย แต่ผมได้ตัดสินใจเพื่อที่จะเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของผมตั้งแต่ต้นว่า เราควรจะมีการเลือกตั้งก่อนที่สภาจะครบวาระ และเราควรที่จะได้เลือกจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อขจัดความไม่ชัดเจน ความอึมครึมออกไป ฉะนั้นขอยืนยันว่า สัปดาห์หน้าจะเริ่มต้นกระบวนการของการเร่งรัดพิจารณากฎหมายต่างๆ และจะดูความก้าวหน้าการทำงานต่างๆ ซึ่งวันนี้ได้พูดคุยกับกกต.ในรายละเอียด และไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ผมจะนำเรื่องกราบบังคมทูลเพื่อให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใหม่ อันนี้คือสิ่งที่อยากเรียนสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชน” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกฯ แถลงเสร็จ ไม่ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามแต่อย่างใด พร้อมกับเดินกลับตึกไทยคู่ฟ้า แม้ช่วงระหว่างที่เดินกลับขึ้นตึกไทยนายกฯ ก็ไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะลงมาแถลงได้ไปพบนายสุเทพที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ แต่ไม่นายสุเทพไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้มีการโทรศัพท์พูดคุยคุยกันแทนเป็นเวลา 30 นาที
กำลังโหลดความคิดเห็น