xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” รับบ้อท่าแก้ของแพง หันเน้นเพิ่มรายได้สู้ค่าครองชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ติดตามการประกันราคาข้าว ย้ำแก้ปัญหาเกษตรกรรายย่อยได้ดีกว่าการแทรกแซง พร้อมเตรียมคลอดการประกันภัยพืชผลจากภัยพิบัติชดเชยไร่ละ 2 พัน ขณะเดียวกัน ยังประกาศทำเขตส่งเสริมพิเศษทางการเกษตร ใช้ร้อยเอ็ดนำร่อง เพิ่มรายได้ สร้างคุณภาพผลผลิตข้าว รับบ้อท่าแก้ราคาสินค้าแพง อ้างต้นทุนการผลิตสูง แต่จะหันมาเน้นเพิ่มรายได้ให้ประชาชนเพื่อสู้ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ด้านชาวนารัองให้ลดต้นทุนปุ๋ย น้ำมันดีเซล ปรับความชื้นขึ้นเป็น 25%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (11 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO Conference ติดตามเรื่องการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี ยโสธร และร้อยเอ็ด พร้อมนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมจะดำเนินการจัดทำเขตส่งเสริมพิเศษด้านการเกษตร โดยจะเริ่มนำร่องที่ จ.ร้อยเอ็ด ก่อนเป็นพื้นที่แรก ทั้งนี้เป้าหมายของการจัดทำเขตส่งเสริมพิเศษด้านการเกษตรนั้น ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการสร้างโอกาสหรือสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเท่านั้น แต่จะเน้นการสร้างคุณภาพผลผลิตข้าวไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการ คือ การลดต้นทุนการผลิต และการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความร่วมมือกันมากขึ้น

“รัฐบาลจะทำเขตส่งเสริมพิเศษทางการเกษตร มีร้อยเอ็ดเป็นเป้าหมายก่อน เราจะไม่เน้นสร้างแค่โอกาสหรือรายได้ แต่จะต้องสร้างคุณภาพผลผลิตข้าวไทยให้ได้รับการยอมรับสูงขึ้น”

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะเดินหน้านโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกรต่อไป พร้อมขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนโยบายนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อให้โครงการประสบผลสำเร็จและให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับเกษตรกรอย่างแท้จริง โดยส่วนหนึ่งที่รัฐบาลพยายามดำเนินการ คือ การทำให้ประชาชนในระดับฐานรากมีความเข้มแข็ง มีรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ ปัญหาภัยธรรมชาติ ตลอดจนปัญหาต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจมีความเข้มแข็งตั้งแต่ฐานราก

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าประชาชนยังได้รับความเดือนร้อนจากปัญหาสินค้ามีราคาแพง และค่าครองชีพสูง เนื่องจากต้นทุนสินค้าหลายชนิดต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น จุดนี้อาจจะแก้ไขได้ยาก และกระทรวงพาณิชย์สามารถแก้ไขได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวน้อยสุด คือ การสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนเพิ่มขึ้นซึ่งรัฐบาลจะพยายามเดินหน้าโครงการต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้นต่อไป

“ประชาชนเดือดร้อนจากของแพง ยอมรับว่าแก้ยาก เพราะเมื่อต้นทุนขึ้น กระทรวงพาณิชย์ก็ทำได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราทำให้รายได้สูงขึ้นเพื่อสู้กับของแพงจะดีกว่า ดังนั้นต้องเพิ่มเงินในกระเป๋าผ่านโครงการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนโครงการประกันภัยพืชผลอันเนื่องจากภัยธรรมชาตินั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดวางแนวทางให้เป็นระบบมากขึ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ และเชื่อว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายปีเป็นต้นไป

ด้าน นายธีระ วงศ์สมุทร กล่าวว่า โครงการประกันรายได้ของรัฐบาล เรามุ่งช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย มีรายได้เพียงพอการดำรงชีพ เราเน้นย้ำต้นทางทำให้ดีที่สุด ภารกิจที่กระทรวงมอบหมายขึ้นทะเบียนเกษตรกร เรามี 3 ขั้นตอน รับขึ้นทะเบียน การตรวจสอบใช้ระบบประชาคม อัตรากำลังเกษตรกรไม่เพียงพอลงลึก สิ่งที่เราหวังพึ่งเวทีประชาคม เหตุการณ์ที่จังหวัดพะเยาแจ้งความเท็จ ได้ดำเนินคดีแล้ว และส่งเรื่องให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการ มีปัญหาอุปสรรคบ้างก็ต้องแก้ไขกันไป ขอทำความเข้าใจเรื่องของต้นทุน เรามองต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ เฉลี่ยทั้งประเทศ ไม่สามารถแยกแยะพื้นที่ เพราะนี้คือโครงการประกันรายได้ของรัฐบาล ทั้งผันแปร และคงที่ แม้เรื่องดอกเบี้ยก็คิดให้หมด รวมถึงค่าเช่านา คิดให้หมด เรามีหน่วยงานกล่งสำนักการเกษตรเป็นผู้ประเมิน ฟังจากผู้ที่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดูกันชัดๆ ว่าอะไรที่ว่าต้นทุนสูง เพื่อรองรับข้อมูลตรงกัน

จากนั้น นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาเกิดความชื้น โดยเฉพาะนาปรังความชื้นอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ทำไม่ได้ ราคาประกันส่วนต่างที่อ้างอิงประกาศเป็นรายจังหวัดได้หรือไม่ ความละเอียดน่าจะมากขึ้น ฤดูนาปรังมีปัญหาแมลงศัตรูข้าวเพลี้ยงกระโดดสีน้ำตาล ซึ่งได้มีการขอให้งดทำนาสักรอบเพื่อตัดวงจร ขณะที่เกษตรกรพิษณุโลก อยากให้นายกฯและครม.เรื่องของปัญหาราคาส่วนต่าง 8,800 กว่าบาท แต่ที่ขาย 7,500-8,300 อยากให้แก้ไขขายได้ที่ราคากลาง

ขณะที่ตัวแทนเกษตรกรจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า การประกันรายได้ถ้าสมบูรณ์แบบ เป็นธรรมมากว่านี้ อยากให้นายกฯ มอบหมายหน่วยงานของรัฐเข้ามากำกับการซื้อขาย เรื่องของความชื้น ราคาข้าวเปลือก ในช่วงการประกันรายได้ที่รัฐบาลพยายามแก้ไขช่วยเกษตรรายย่อย จากการรับประกันราคาข้าวที่ 25 ตัน พบว่าผู้ที่มีนามากกว่า 35 ไร่ หากลูกหลานมาแบ่งซอยเพื่อให้เข้าหลักเกณฑ์ และรัฐบาลได้ลดภาวะความตึงเครียดจาก 25 ตันเป็น 30 ตัน

“อยากเสนอแนะว่า ใครทำ 100 ไร่ก็ขอให้เต็มเลย กรณีของราคาข้อเท็จจริงเวลาชาวนาเกี่ยวข้าวความชื้น 25 เปอร์เซ็นต์ขึ้นทั้งนั้น อยากขอให้ความชื้นที่ตั้งไว้ 15 เปอร์เซ็นต์เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ และขอความเป็นธรรมจุดรับซื้อ การลดต้นทุนการผลิต อยากให้ภาครัฐช่วยส่งเสริมการปรับปรุงดิน ในจังหวัดลพบุรีจะช่วยตรวจสอบการทุจริต ในอนาคตจะปรับลดต้นทุนการผลิต การทำนาลดการทำนาเหลือปีละ 2 ครั้ง เรื่องของน้ำท่วมจาการชดเชยไร่ละ 606 บาท เป็น 2,098 บาทถือว่ารัฐบาลช่วยประชาชนแท้จริง”

นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบว่า ประเด็นที่เกี่ยวกับการประกันรายได้อยากย้ำว่า เรื่องความชื้น ความเป็นธรรมในการซื้อขาย ทางกรรมการติดตามอยู่ และจะดูว่าสามารถปรับปรุงกลไก วิธีการทำงานได้อย่างไร กรณีของพื้นที่ถ้าทำทั้งครัวเรือนแล้วแยกชื่อเราก็ไม่ได้ว่า ในคณะกรรมการฯก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะมีการปรับขึ้นหรือไม่อย่างไร แนวคิดดูรายย่อย งบประมาณ ควบคุม 80-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแม้เราประกันรายได้ให้ส่วนหนึ่งแล้ว หากขาดทุนขึ้นมา ทำให้ส่วนที่ไม่ได้รับประกัน การขาดทุนก็จะกระทบรายได้ จึงมีการขยับจาก 25 ตันมาเป็น 30 ตัน ส่วนเรื่องลดต้นทุน การปลูกพืชอื่น เรากำลังทำโครงการจัดระบบการปลูกข้าว การบริหารจัดการงบประมาณก็อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด

“เรื่องน้ำท่วมขณะนี้กำลังเตรียมการ การประกันภัยพืชผลจากปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ตรงนี้ดำเนินการต้นปีไม่ทัน จะไปดำเนินการช่วงปลายปี แต่แนวคิดคร่าวๆ ปกติถ้าเกิดภัยพิบัติจะได้ไร่ละ 600 บาท ถ้าทำระบบประกันจ่ายเบี้ยประกัน อยู่ที่ประมาณ 100 กว่าบาท เมื่อเกิดภัยพิบัติก็จะรับไป 2,000 บาท”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การที่เราปรับตัวเลขเป็นราย ยากมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เสนอมาด้วยซ้ำเรื่องผลผลิตประกาศเป็นภาค แต่ ครม.เห็นใจว่าถ้าประกาศเป็นภาคจะทำให้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าให้เป็นรายพื้นที่จะสับสนมาก เรื่องของความชื้นเรานำสมมุติฐานความชื้นไปเกี่ยวข้องแล้ว ถ้าความจริงชื้นกว่านั้นราคาก็ต่ำลงไป รัฐบาลก็อยากให้อัตราตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ว่า มีเรื่องเราต้องคำนึงถึงภาระงบประมาณ เราพยายามทำตามหลักวิชา ความเป็นจริง หากมาทำตัวเลขสูงๆ เข้าไว้ วันข้างหน้าโครงการนี้จะมีปัญหา เหมือนโครงการรับจำนำ สมัยแรกๆ เขาเพียงต้องการเอาข้าวออกมาจากการซื้อขาย ไม่ให้ข้าวท่วมตลาด และราคาตก แต่ตอนหลังมาแข่งขันจำนำสูงกว่ากัน กลายเป็นโครงการที่บิดเบือน ทำให้ทุกอย่างเสียหาย

“อยากให้เข้าใจรัฐบาล นักการเมือง ข้าราชการมีใจให้อยู่แล้ว แต่ต้องอยู่หลักวิชา ความเป็นจริง ไม่อย่างนั้นโครงการมีปัญหา เรื่องศัตรูพืช ขึ้นทะเบียนท่านได้รับการชดเชย แตกต่างจากการแทรกแซงเรื่องต้นทุนที่ผมยืนยันเรื่องน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ด้วยความเห็นใจเกษตรกร ภาคขนส่ง กำลังปรึกษากระทรวงพลังงาน การคลัง ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น เราพยายามตึงไม่ให้มีปัญหา” นายกฯ กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เวลาบริหารโครงการมีปัญหาเราต้องแก้ไข พี่น้องอาจเคลื่อนไหวชุมนุม เวลามีปัญหาผ่าน ส.ส. ผู้ว่าฯ ตนจะรับทราบ จะให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา ขอยืนยันเราเอาใจใส่ ใช้ช่องทางราชการ นโยบายประกันรายได้อยากย้ำอีกครั้งว่า เกษตรกรปลูกข้าวทานเอง ภาคอีสานในพื้นที่นอกเขตชลประทานอยากได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น จะดูภาพรวมอีกครั้ง จากที่เข้าโครงการได้ปีละครั้ง เราพยายามดูภาพรวม เรื่องน้ำ เกษตรอินทรีย์เราต้องเดินหน้า ขอย้ำกับพี่น้องเกษตรกร ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นโยบายนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนจำนวนมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นเกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ขอยืนยันนโยบายนี้ต้องเดินอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เห็นคือ เศรษฐกิจไทยเวลาที่เขาพูดว่า ดี ไม่ดี จริงๆ แล้วปีไหนที่เกษตรกรรายได้ดี ตนไม่เคยธุรกิจบ่น ธุรกิจก็จะบอกว่า การค้าการขายคล่องตัว เพราะฉะนั้น 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำอย่างมากก็คือ ทำอย่างไรให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีรายได้ที่ดี การที่เราแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาน้ำท่วม ก็เพื่อให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งจากฐานรากจริงๆ และที่ดีใจเริ่มเห็นหลายครอบครัวหันกลับเข้าสู่การเกษตร ชนบท กลับเข้าสู่ถิ่นฐานของตัวเอง ถ้าต่อเนื่องได้ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมก็จะแก้ไขได้ด้วย และทราบดีว่าประชาชนทั่วประเทศ และพี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนจากปัญหาของแพง เป็นปัญหาแก้ยาก เป็นปัญหาทุกยุคทุกสมัยที่ต้องไปไล่ตามแก้ ไปไล่ตามคุม กระทรวงพาณิชย์ทำได้ระดับหนึ่งเท่านั้นเอง แต่หากทำให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นสูงกับของแพงอย่างนี้ทำได้ การเพิ่มเงินในกระเป๋าอย่างสมเหตุสมผลจะเดินหน้าต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น