xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” เตือนนายกฯ “ลุงลอง” พร้อมยื้อยาว - แนะ “วีระ-ราตรี” ยอมเซ็นออกจากคุกก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” เตือน “อภิสิทธิ์” รู้ไว้ “พล.ต.จำลอง” ปรมาจารย์ดื้อ สลายชุมนุมวันนี้วันหลังมาใหม่ไม่เลิกง่ายๆ แน่ โต้บทความ “ท่านจันทร์” ยันไม่มีวันแตกคอ ตราบที่ยังมีธรรมเป็นตัวเชื่อม เตือน “ชวน” เตรียมรับผิดชอบ อ้าง “มาร์ค” ถูกป้ายสี แนะ “วีระ-ราตรี” ยอมไปก่อน ให้พ้นคุกเขมรโดยเร็ว เชื่อพี่น้อง พธม.-คนรักชาติเข้าใจ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”  

เมื่อเวลา 20.25 น. วันที่ 7 มี.ค.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า อยากจะเตือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าที่ได้ฉายาดื้อตาใส ดื้อทุกเรื่อง ทั้งเอ็มโอยู 43 และเรื่องอื่นๆ นั้น ยังมีคนที่ดื้อตัวพ่อ หรือเป็นปรมาจารย์ดื้อ คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ อีกคน ซึ่งตนมีความเชื่อใจในตัว พล.ต.จำลองมาตลอด ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะต่างก็เอาธรรมนำหน้าเช่นกัน

นายสนธิกล่าวต่อว่า วันนี้มีคนที่ใช้ชื่อว่าท่านจันทร์ เขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ตำหนิว่าในที่สุด พล.ต.จำลองกับตนต้องแตกกัน ก็อยากจะบอกให้ฟังว่า ความผูกพันของคนนั้นมีหลายลักษณะ อาจจะผูกพันทางสายเลือด เป็นพี่น้อง เป็นญาติกัน หรือเป็นเพื่อนกัน เรียนรุ่นดียวกัน กับความผูกพันทางใจจากการที่เคยช่วยเหลือกัน เคยร่วมต่อสู้กับความยากลำบากมาด้วยกัน ซึ่งความผูกพันทางใจนี้สำคัญที่สุด เพราะใจต้องมีหลักการเดียวกันจึงจะผูกพันกันได้นาน

นายสนธิกล่าวว่า ตนกับ พล.ต.จำลองผูกพันกันมาตลอด ตั้งแต่สมัยที่ พล.ต.จำลองเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตนเป็น บก.หนังสือพิมพ์ เรื่อยมาจน พล.ต.จำลองลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. แม้ไม่เคยเจอกัน แต่ใจถึงกัน ไม่เคยห่างเหิน เพราะตนรู้ว่า พล.ต.จำลองไม่ว่าอยู่ที่ไหนสิ่งที่กำกับไว้ในใจเสมอ คือ ความซื่อสัตย์สุจริต และทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่เคยคิดอะไรเพื่อส่วนตัวแม้แต่นิดเดียว พล.ต.จำลองเป็นคนเกรงใจคน แต่ถ้าถึงเวลาที่จะต้องพูดก็ไม่ยอมใครโดยจะเอาธรรมนำหน้า พล.ต.จำลองจึงเป็นคนมีอุดมการณ์ มีหลักการ ด้วยเหตุนี้ถึงไม่ได้เจอ พล.ต.จำลอง แต่ พล.ต.จำลองก็ยังอยู่ในทุกอณูของพวกเรา ขอเพียงให้มีธรรม เราก็อยู่ด้วยกันได้ ดังนั้น ตามข้อเขียนของคนที่ใช้ชื่อว่าท่านจันทร์นั้น ขอให้รู้ว่าวันไหนที่ตนไม่มีธรรม หรือวันไหนที่ พล.ต.จำลองไม่มีธรรม นั่นแหละตนจึงจะแตกแยกกับ พล.ต.จำลอง เพราะเรามีธรรมเป็นตัวเชื่อม และคนที่มาชุมนุมอยู่ที่นี่ก็มีธรรมกันทุกคน

นายสนธิกล่าวต่อว่า วันนี้ นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย ได้เล่าให้ฟังว่า จากการเดินดูพี่น้องที่มาชุมนุมเมื่อช่วงบ่าย ได้พบกับพี่น้องชาวใต้คนหนึ่ง บอกว่าได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่ปรากฏว่ามีจดหมายจากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ส่งมาบอกว่ายังเชื่อมั่นนายอภิสิทธิ์อยู่ และบอกว่าอย่าไปเชื่อเรื่องที่นายอภิสิทธิ์ถูกใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งตนเห็นว่าถ้านายชวนเขียนจดหมายมาอย่างนี้ กาลดับขันธ์ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่คนเอาอัตตามาแบกเอาไว้ แล้วเลือกพรรคตัวเองเหนือชาติบ้านเมือง เมื่อนั้นก็ถึงวันพินาศฉิบหายของพรรคการเมืองนั้น

นายสนธิกล่าวต่อว่า ใครก็ตามที่เข้าใจหลักไตรลักษณ์ หรือความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ย่อมจะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไม่อยู่กับที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล้วนอนิจจังทั้งสิ้น วันข้างหน้าถ้าอนิจจังเกิดกับนายอภิสิทธิ์ แล้วเขาไม่มีแม้แผ่นดินจะอยู่ เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำให้เสียดินแดน ต้องไปอยู่เมืองนอกตามสัญชาติที่เขาปกปิดมานานแล้ว ถึงวันนั้นนายชวนจะว่าอย่างไรกับจดหมายที่เขียนว่าอย่าไปเชื่อเรื่องที่นายอภิสิทธิ์ถูกใส่ร้าย นายชวนต้องรับผิดชอบคำพูดนี้ ตนพูดตลอดว่าเมื่อใครก็ตามที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อชาติเพื่อประชาชน แล้วดันบอกว่า มติพรรคสำคัญกว่าชาติ ประเทศไทยก็ถึงจุดจบแล้ว เราพึ่งไม่ได้แล้ว

“ผมเชื่อว่าพี่ลอง (พล.ต.จำลอง) นั้นไม่ต้องการให้พวกเราแตกตื่น หรือตระหนกตกใจ ผมเชื่อ และอ่านความคิดพี่ลองออก ตำรวจอยากสลายก็มาสลายเลย สลายวันนี้ วันพรุ่งนี้มาใหม่ สลายวันพรุ่งนี้ วันมะรืนนี้มาใหม่ เพราะฉะนั้นแล้ว พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่าความดื้อของใครมากกว่า หรือใครดื้อตัวพ่อกันแน่” นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวต่อว่า วันนี้นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ภรรยาของนายเหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ได้เดินทางไปจังหวัดลพบุรี โดยมีทหารเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมด้วย และบอกว่าให้ระวังการรัฐประหารนั้น ตนอยากฝากบอกนางธิดาว่า น่าเสียดายที่ตนเป็นเพียงลูกจีนคนหนึ่ง ถ้าตนเป็นทหารที่คุมกำลังแค่ 1 กองพลจะปฏิวัติเดี๋ยวนี้เลย เพราะแผ่นดินสกปรกมาก มีแต่สัตว์นรกเลื้อยยั้วเยี้ยเต็มแผ่นดิน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องล้างบ้านล้างเมือง เอาคนดีมาปกครอง เอาคนชั่วออกไปให้หมด

อย่างไรก็ตาม นายสนธิกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายอภิสิทธิ์ก็มีข้อดีอยู่ ตรงที่ได้มีการแยกแยะกันอย่างเด่นชัดว่า ใครคือมารที่แท้จริง ใครคือมารที่แอบแฝง ใครคือคนที่ใช้ธรรมนำหน้า ถ้าไม่มีนายอภิสิทธิ์ก็คงจะมีการห้อยโหนพวกเราอยู่ตลอด ปีนี้เป็นปีแห่งการแยกแยะน้ำดีออกจากนำเสีย เรากรองน้ำดีออกมา ส่วนน้ำที่มีสิ่งโสโครกก็แยกออกไปไว้ต่างหาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคนที่มาฟังการปราศรัยแต่รวมถึงคนทุกวงการ

ก่อนหน้านี้ใครจะไปรู้ว่าทหารไทยเองก็มีทหารกุนเชียง ใครจะรู้ว่าทหารไทยมีเมียน้อย 4 คนทำมาหากินกับเขมร วันนี้ตนไม่เห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกษิต ภิรมย์ รวมถึงนายศิริโชค โสภา กล้าออกมาพูดสักคำว่า ไทยยังไม่เสียดินแดน เพราะวันนี้ความจริงปรากฏมากเกินกว่าที่จะสงสัยอีกแล้วว่าประเทศไทยเสียดินแดนหรือยัง และคนพวกนี้เมื่อก่อนเคยท่องว่าเรายังไม่เสียดินแดน วัดแก้วฯ เป็นของไทย ทหารไทยยังยึดครองอยู่ แต่วันนี้เงียบเป็นเป่าสาก วันนี้เราแยกแยะได้หมด ทหารดีทหารเลว เห็นชัด ประชาชนที่หลงใหลนายกฯ หัวถุงยาง แม้แต่นักสื่อสารมวลชนบางคนที่เคยห้อยโหนเรา นักนำมวลชนที่เคยขึ้นเวทีห้อยโหนเรา วันนี้ก็พิสูจน์ชัด

นายสนธิกล่าวในตอนท้ายว่า วันนี้มารดาของนายวีระ สมความคิด ได้ให้คนมาพบตนเพื่อถามว่าจะช่วยนายวีระให้ออกจากคุกของกัมพูชาได้อย่างไรบ้าง ตนจึงบอกว่าตนไม่มีอำนาจอะไรทั้งสิ้นที่จะช่วยได้ คนที่จะช่วยได้คือคนที่มีอำนาจรัฐ จึงฝากบอกไปว่าเขาจะให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ ขอให้นายวีระ ละน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ได้ออกมาก่อน ไม่ต้องกลัว ให้เซ็นอะไรก็เซ็นไปก่อน พี่น้องคนรักชาติรักแผ่นดินเข้าใจนายวีระและ น.ส.ราตรี วันนี้ วัตถุประสงค์คือออกมาให้ได้ก่อน ไม่มีใครตำหนิ หรือว่ากล่าวใดๆ ทั้งสิ้น เราเข้าใจดี ขอให้ออกมาก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น