xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ถาม “ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ” จะเป็นทาสนักการเมืองชั่วไปจนตายหรือ ชี้ถึงเวลาต้องร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” ย้ำเลือกตั้งใหม่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่เหลือคนเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกฯ อีกแล้ว ถาม “ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ-ผู้รักชาติ” จะยอมเป็นทาสนักการเมืองชั่วแบบนี้ไปจนตายหรือ ชี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาช่วยกันล้างบางนักการเมืองเลวให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ไม่อย่างนั้นสิ้นชาติแน่นอน พร้อมแนะแนวทางที่ดีที่สุดตอนนี้ต้องหยุด “อภิสิทธิ์” ไม่ให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วานนี้ (5 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชมุนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวบนเวที ว่า ขอถามพี่น้องประชาชนว่ามีใครที่เป็นนักการเมืองขณะนี้ ที่เหมาะสมจะมาเป็นนายกฯ หรือไม่ เราไม่เห็นใครเลย บอกตรงๆ นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ อย่าหน้าด้านต่อไปเลย พวกคุณคือคนสุดท้ายที่ประชาชนคิดว่าพอจะเป็นความหวังได้ หมดจากนายอภิสิทธิ์ไป จบไปเลย พวกที่เหลือไปลงนรกหมดเป็นนายกฯไม่ได้สักคน

นายประพันธ์กล่าวว่า สิ่งที่อิดหนาระอาใจ และสะอิดสะเอียนที่สุด วันนี้นายสุเทพอุตส่าห์ไปอบรมเยาวชนพรรคประชาธิปัตย์ ในโครงการที่บอกว่าเป็นอนาคตใหม่ของประเทศไทย สิ่งที่นายสุเทพบรรยายให้เยาวชนฟังเผยให้เห็นธาตุแท้ได้อย่างดี นายสุเทพสัญญาว่าถ้าประชาธิปัตย์ได้ 300 เสียงจะไม่เอาใครมาร่วมรัฐบาลเลย

“พูดมาแล้วของขึ้น ผมบอกชาตินี้ตายไป 10 ชาติ พรรคนี้ก็ไม่มีทางได้ 300 เสียง ขี้คุย ปล้นเอาได้ ซื้อเอา โกงเอา ได้แน่ นายสุเทพบอกอีกว่า ถ้าได้ 172 เสียง ก็ต้องไปยืมสุวิทย์ เนวิน บรรหาร แน่อยู่แล้วหนีไม่พ้นพรรคร่วมพวกนี้ เพราะพวกคุณเป็นอสูรกายด้วยกัน ก็ต้องเสพสังวาสกันไปจนตาย” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า จำได้หรือไม่ที่นายบรรหารเคยพูดว่าเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง แต่นายสุเทพพูดว่าถ้ายึดกรอบสี่เหลี่ยมประชาธิปัตย์ก็จะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชาติ กรอบสี่เหลี่ยมที่หมายถึงมีหมายความว่าถ้ายึดแต่อุดมการณ์ เป็นนักการเมืองที่ดี ไม่ยอมไปกอดนายเนวิน นายบรรหาร ความหมายก็คือจะอดอยากปากแห้งเหมือนคำพูดนายบรรหารนั่นแหละ

นายประพันธ์กล่าวต่ออีกว่า ประมูล 3 จี ข่าวก็มาแล้วว่าประชาธิปัตย์กินไปหลายพันล้าน จนอาจถึงหมื่นล้าน เดี๋ยววันหลังเอาเรื่องทุจริตมาแฉอีกเยอะ และจะขุดโคตรประวัตินักการเมืองเอามาแฉกันจะๆ ว่าพ่อนายบรรหารอพยพมาอยู่สุพรรณบุรี ขายกาแฟ แล้วทำไมวันนี้มีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้าน นายสุวัจน์สมัยก่อนพ่อแม่ทำงานอะไร ทำไมวันนี้ถึงรวยเป็นหมื่นๆ ล้าน และมีเครื่องบินส่วนตัวด้วย นายชวรัตน์ อนุทิน ชาญวีรกูล บริษัทเจ๊งจะล้มละลาย เป็นอาแป๊ะขายของธรรมดา ทำไมวันนี้รวยเป็นแสนๆ ล้าน ต้องเอาประวัติพวกนี้มาให้ประชาชนดู ว่าประเทศนี้มันฉิบหายเพราะนักการเมืองไทยเหล่านี้

รู้หรือไม่ ความร่ำรวยของนักการเมืองไทยรวมกันประมาณล้านล้านล้านบาท มันไม่ใช่น้อยเลย ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่เล่นการเมืองแล้วรวยเอารวยเอา ความร่ำรวยของประเทศที่ประชาชนทุกคนมีส่วนสร้างกันมา มันไปกระจุกรวยอยู่กับนักการเมือง และนายทุนหยิบมือเดียว เพราะฉะนั้นนายสุเทพถึงอยากออกจากกรอบสี่เหลี่ยมมาเป็นรัฐบาล เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่มีเศรษฐีใหม่ที่ชื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ เกิดขึ้นในวงการการเมือง วันนี้เทียบชั้นนายอนุทิน นายวิชัย เทียบชั้นนายนิพนธ์ นายสุวัจน์ ตอนนี้ต้องเรียกเสี่ยสุเทพ เทือกสุบรรณแล้ว ถึงบอกว่าวันนี้การเมืองมันล้มเหลว

“สุเทพบอกอีกว่า ที่ผ่านมาเป็นความขมขื่นของประชาธิปัตย์เพราะพยายามปรองดองเสนอทางออก กว่าจะหลุดพ้นจากการสืบทอดอำนาจของนายทักษิณมาได้ จนได้ตั้งรัฐบาลเรียกว่าเหนื่อยแทบตาย พอได้เป็นแล้วก็ถูกกลั่นแกล้ง ถูกเสื้อแดงบุกไม่ให้เขาสภา โดนเล่นงานจนแทบไม่รอด ถูกขัดขวางสารพัด สุเทพพูดว่าอภิปรายฯคราวนี้จะงัดข้อมูลเด็ดมาตอบโต้ฝ่ายค้าน สรุปแล้วก็คือ มันก็วนเวียนเถียงกันไปมา เหี้ยห่าเต็มสภาเหมือนเดิม แต่ที่อยากจะบอกพี่น้อง วันนี้สถานการณ์ที่บอกว่าเพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ สู้กันในสภาคราวนี้ เป็นเพียงเกมตบตาประชาชน แท้จริงแล้วประชาธิปัตย์แอบจับมือกับเพื่อไทยแล้วล้านเปอร์เซ็นต์ จึงได้มีกระบวนการประกันตัวแกนนำเสื้อแดง แต่คนที่ไม่ได้เป็นแกนนำยังไม่ได้ประกัน แล้วแกนนำก็ไปหลอกมวลชนมาเป็นเครื่องมือหากินต่อกับทักษิณ แต่พี่น้องเสื้อแดงกลับถูกทิ้งให้ติดคุกติดตะราง สงสารที่สุดคนที่มาร่วมชุมนุมแล้วกลายเป็นเครื่องมือให้เสื้อแดงเอาไปหากิน” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวว่า การที่ประชาธิปัตย์โดยนายสุเทพพยายามที่จะจัดอบรมสัมมนา เตรียมสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ คำถามคือประเทศไทยทำไมต้องลงทุนเลือกตั้งเพื่อเอาคนที่ทำงานไม่เป็น ล้มเหลว ไม่มีภาวะผู้นำ คนเขาเห็นธาตุแท้นายอภิสิทธิ์หมดแล้ว ยังมายัดเยียดให้ประชาชนอีกหรือ แล้วถ้าไม่เอานายอภิสิทธิ์แล้วจะเอาใคร หรือจะเอานายชัย ชิดชอบ หรือจะเอา พล.ต.สนั่น ดูในสภาฯ มีใครเป็นนายกฯ ได้ มิ่งขวัญ เฉลิม ชวลิต ดูแล้วพวกนี้เอาไปไถนายังไม่ได้เลย ทำประโยชน์อะไรไม่ได้ ถ้าเอาพวกนี้มาเป็นนายกฯประชาชนต้องเอาปี๊บมาคุมหัว

“เวทีนี้ถึงพูดคุยกันว่าแล้วเราจะเลือกตั้งไปหาพระแสงด้ามยาวอะไร เสียเงินในการจัดเลือกตั้ง นักการเมืองก็ไปซื้อเสียง ผลัดกันมาโกงจนร่ำรวยเป็นหมื่นๆ ล้านกันทั้งนั้น ไม่เคยคิดถึงผลประโยชน์ของชาติคิดถึงแต่ตัวเอง ด้วยเหตุนี้ประทศไทยถึงได้เกิดการขับไล่นายกฯหลายครั้ง มีคนไหนที่ไม่โดนไล่บ้าง ปัญหาก็คือเราจะไล่พวกนี้มันไปจนตายหรือ ทำไมเราไม่เป็นกันซะเองเตะมันลงจากอำนาจหมดเลยไม่ดีกว่าหรือ เลือกตั้งมามาโกงเราก็ต้องมาไล่มันอีก ก็ไล่มันซะตอนนี้เลยจะได้ประหยัดภาษีของชาติ

เหตุการณ์ที่เกิดการปฏิวัติในประเทศอียิปต์ ตูนิเซีย ลิเบีย และประเทศอาหรับต่างๆ เกิดขึ้นเพราะเขาทนนักการเมืองโกง นักการเมืองชั่วแบบบ้านเราไม่ได้ บัดนี้ผมเชื่อมั่นว่าการปฏิวัติโดยประชาชนร่วมมือกับทหารผู้รักชาติอาจจะเกิดขึ้น และควรจะต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย ตนคิดมานานแล้ว ตั้งใจว่าเลิกไล่รัฐบาลแล้วจะโค่นล้มแล้วเปลี่ยนแปลงประเทศดีกว่า เราต้องหาทางร่วมมือกันขจัดนักการเมืองชั่วออกจากแผ่นดิน เพราะปัญหาทุกอย่างบนบ้านเมืองนี้เกิดจากนักการเมือง” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าพวกนี้คือสวะสังคม เอาเปรียบประชาชน ครอบครัวนักการเมืองพวกนี้คือปัญหาของชาติ อยากจะถามว่าพวกเราที่มีความรู้ มีการศึกษา มีฐานะ ทำไมต้องไปกราบไหว้นักการเมืองชั่ว ไปทำงานให้ แล้วนักวิชาการทั้งหลาย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้รักชาติ ตกลงจะเป็นทาสบรรหาร สุวัจน์ เนวิน ไปจนตายใช่หรือไม่ ให้มันปกครองบ้านเมืองต่อไป มันเป็นใครมาจากไหน ทำไมต้องเสียสละยอมให้พวกนี้ขี่คอปกครองพวกเราต่อไป บอกนายอภิสิทธิ์ไว้เลยตอนนี้ประชาชนเตรียมรวมตัวขับไล่นักการเมืองชั่วแล้ว เรียกว่าต้องขุดโค่นล้างบางเลย ถ้าไม่ล้างบางนักการเมืองชั่วประเทศชาติไม่มีทางเจริญ

วันนี้หลักการเห็นแล้วว่าเราต้องไปบอกทหาร ข้าราชาการ ตำรวจ และผู้รักชาติทั้งหลาย ต้องออกมาช่วยกัน ยอมก้มหัวแบบนี้ต่อไปเราไม่เอากับคุณแล้ว แล้วเราก็จะยืดหยัดชุมนุมอยู่ต่อไป และจะหาทางสู้ให้ถึงที่สุด ตนคิดว่าวันนี้เราทั้งหลายต้องเปลี่ยนจุดยืน ไม่อย่างนั้นก็ต้องออกมาไล่กันอีก ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงเสียที ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงสิ้นชาติแน่

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าแนวทางที่สำคัญที่สุดขณะนี้คือ นายอภิสิทธิ์ ประชาธิปัตย์ กำลังดิ้นรนจะกลับมามีอำนาจอีก พวกเราต้องหยุดการคืนสู่อำนาจให้ได้

คำต่อคำ ประพันธ์ คูณมี ปราศรัย

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ผมก็นึกว่าคืนนี้เขาจะมีคอนเสิร์ตจนสว่าง นึกว่าไม่มีคิวปราศรัยแล้ว เพราะว่าเห็นพี่น้องที่นี่สนุกสนานกันเหลือเกิน นึกว่าฉลองชัยชนะไปแล้วเหรอครับ หายเหนื่อยหรือยังครับ หายเหนื่อยแล้วก็มาคุยกันต่อ ความจริงแล้วผมก็เป็นห่วงพี่น้องที่อยู่ทางบ้าน เพราะว่าหลายท่านก็บอกว่า รอฟังคุณประพันธ์ดึกไป แต่วันนี้ก็ต้องขออภัยว่าดึกจริงๆ เพราะขึ้นมาก็ 5 ทุ่มแล้ว กะจะพูด 3 ชั่วโมงถึงตี 2 ก็คงไม่มีใครฟังอีก งั้นเอาสัก 30 นาทีแล้วกัน วันนี้

ก็ไม่เป็นไรครับ เราก็ยังอยู่เป็นเพื่อนกัน และก็คงมีเรื่องราวหลายเรื่องที่อยากจะพูดคุยกันอยู่ ผมคิดว่าวันนี้การชุมนุมของพวกเราจากวันที่ 25 มกราคม มาจนถึงวันนี้ ผมจำไม่ได้แล้ว กี่วันแล้วครับ (40) 40 วันแล้ว ต้องปรบมือให้กับพวกเราด้วยครับที่ยังยืนหยัดกันอยู่อย่างเหนียวแน่น และก็ต้องปรบมือให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกท่านที่ติดตามรับชมรับฟังและติดตามการชุมนุมของพวกเราอย่างสม่ำเสมอและอย่างเหนียวแน่น และปรบมือทักทายพี่น้องทางบ้านด้วย บอกว่าตื่นๆๆ ได้แล้ว หายง่วงได้แล้ว คุณประพันธ์มาแล้ว

พี่น้องครับ ผมคิดว่าวันนี้ก่อนจะพูดจาปราศรัยกันในเรื่องอื่นๆ ก็ขอฝากข่าวดีก่อน ข่าวดีก็คือว่า วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์และได้รับการติดต่อพบปะกับพี่น้องประชาชนอยู่ประมาณ 3-4 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกก็คือว่า ได้รับโทรศัพท์จากคนที่เป็นคนที่คลั่งไคล้หลงใหลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์มาก เป็นกลุ่มคนมีกะตังค์ เป็นพวกแถวสปอร์ตคลับ ถ้าบอกสปอร์ตคลับพี่น้องก็คงอาจจะไม่ค่อยรู้ พี่น้องคงรู้ใช่ไหมครับแถวสปอร์ตคลับ ก็แถว ถ.อังรีดูนังต์ ที่มีเป็นที่เล่นกีฬา เป็นที่พบปะสโมสรสังสรรค์ มีสนามกอล์ฟ เป็นที่สำหรับสมาชิกสโมสรที่คนมีกะตังค์เขาไปใช้เป็นที่พักผ่อน และออกกำลังกายหรือพบปะกัน เขาก็โทรมาหาผม ซึ่งไม่ได้โทรมานานแล้ว เพราะผมคิดว่าเขาคงโกรธผมที่ผมไปวิพากษ์วิจารณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของรักของหวงของเขา ปรากฏว่าโทรมาผมก็ตกใจ โทรมานี่จะมาด่าหรือมาต่อว่าผมหรือเปล่าที่ผมไปวิพากษ์วิจารณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ปรากฏว่า โทรมานี่คือขอบคุณที่ทำให้ผมหูตาสว่าง บัดนี้ผมเชื่อแล้วว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ และทำให้ผมเข้าใจ ทำให้พวกเราเข้าใจ ว่ามันเป็นไปอย่างที่คุณพูดจริงๆ

ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าใจชื้นขึ้นมาโดยลำดับ และก็เป็นความจริงนะครับ ไปเจอพี่น้อง ไปเจอหลายท่าน มีลูกมีหลานเรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์ฯ บ้าง มีลูกมีหลานเรียนอยู่ที่เตรียมอุดมบ้าง คุณพ่อคุณแม่มาส่งลูก หรือมาดูลูกหลาน มาเรียนหนังสือ หรือมาเยี่ยมเยียน ก็มาพูดคุยทักทายกับผมเยอะ หลายท่าน ก็บอกว่าติดตามรับฟังอยู่ตลอดเวลา เมื่อก่อนก็ไม่คิดว่าคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นคนเช่นนี้ ไม่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นเช่นนี้ วันนี้เขาหูตาสว่างและเชื่อแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ และคนที่เราจะฝากความหวังไว้ได้เหมือนในอดีตแล้ว

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมกล้ายืนยันได้ว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้รับข้อมูลข่าวสารและมีความคิดเห็นที่ตรงกับพวกเรามากขึ้นโดยลำดับ และก็มากขึ้นอย่างเหลือเชื่อจริงๆ ความศรัทธาที่ประชาชนเคยมีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันนี้ผมเชื่อแน่ว่าลดน้อยถอยลงไปมากทีเดียว

ผมขออ่านจดหมายฉบับนี้หน่อยนะครับ เพราะว่าท่านผู้นี้เขียนมาค่อนข้างจะสุภาพและมีเหตุผลดีมาก ที่สำคัญก็คือใช้หัวกระดาษของส่วนราชการเขียนมา แล้วข้อความในนี้ก็น่าสนใจ เรื่อง ท่านเขียนยังกับหนังสือราชการเลย วันที่ 4 มีนาคม 2554 เรื่อง ขอสนับสนุนแนวคิดของคุณประพันธ์ 1000 เปอร์เซ็นต์ เรียนคุณประพันธ์ที่เคารพอย่างสูง ดิฉันได้ฟังการปราศรัยของคุณเมื่อคืนวันที่ 3 มีนาคม แล้ว ขอบอกว่าสนับสนุน 1000 เปอร์เซ็นต์ เพราะเรื่องนี้พวกเราได้คุยกันในกลุ่มก่อนหน้าที่คุณจะพูดมาหลายวันแล้วว่า ควรจะร่วมมือร่วมใจกันล้างประเทศ ทำความสะอาด ไล่ส่งความสกปรกโสโครกออกไปจากประเทศไทยเสียที เพราะหากขืนปล่อยให้พวกชั่วชาติเหล่านี้เอาคำว่าประชาธิปไตยมาข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองก็เดินไปไม่ได้ เราจะต้องออกมานั่งข้างถนนอยู่ร่ำไป คนที่ไม่รู้ ไม่เอาใจใส่บ้านเมือง ก็จะหาว่าเรามาบ้าประท้วง ซึ่งพวกเราก็บ้าจริง แต่บ้ารักประเทศไทย

ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นหารู้ไม่ว่าพวกเราพันธมิตรฯ มีคุณูปการต่อประเทศไทยอย่างสูง มิได้ชมตัวเองนะคะ เพราะตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมา หากไม่มีพวกเรา ป่านนี้เราคงต้องเสียใจไปตลอดชั่วชีวิต ก็คงไม่ต้องลงรายละเอียดนะคะ ดิฉันขอขอบคุณประชาชนคนไทยที่รักชาติด้วยหัวใจ ที่ยอมสละความสุขส่วนตัว สละทรัพย์สินเงินทอง แรงกาย แรงใจ มาช่วยกันต้านทานสิ่งชั่วร้ายที่มีอยู่ในรัฐสภา และในแวดวงข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ในขณะนี้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองประเทศไทยทุกพระองค์ทรงโปรดปกป้องคุ้มครองพวกเราทุกคนให้ปลอดภัย และเกิดความสวัสดีมีชัยในชีวิตทุกๆ คนนะคะ และขอบอกลาพรรคประชาวิบัติด้วยว่า ครอบครัวดิฉัน 15 คน เพื่อนบ้าน เพื่อนที่ทำงาน ที่ดิฉันกระจายข่าวเล่าความเลวร้ายของพรรคประชาวิบัติให้ฟัง พวกเขาจะไม่เลือกพวกเจ้าอีกต่อไป

และขอบอกผู้ใหญ่ในพรรคด้วยว่า พวกคุณเป็นวัวเป็นควายหรือ ถึงไม่กล้าแสดงความคิดเห็น นั่นหมายถึงคุณก็รู้เห็นเป็นใจกับนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และไม่ต้องมาแก้ตัวว่าเป็นมติพรรคนะ เพราะคุณเป็นคนมีความรู้สูง มีมันสมอง แต่ขาดปัญญาและคุณธรรมและความกล้า จงไปตาย ไปนรกกันให้หมดทั้งพรรคนั่นล่ะ นี่ผมไม่ได้พูดเองนะครับ เขาเขียนมาอย่างนี้

ขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน แกนนำทั้งหลาย และวิทยากรทุกท่าน หากไม่มีพวกท่าน พวกเราคงได้แต่นั่งสาปแช่งพวกมันอยู่ที่บ้าน ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุขนะคะ ขอกราบคารวะมาด้วยความเคารพอย่างสูง

นี่ท่านเขียนมาดีมากนะครับ นี่ก็คือเป็นความรู้สึกของประชาชนไทยที่มีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ ไม่ใช่ผมเขียนมาเอง แล้วท่านยังมี ปล.ตอนท้ายด้วย แต่ท่านบอกว่าอย่าอ่านแล้วกัน เพราะว่า พูดง่ายๆ ก็คือท่านที่เขียนมาเหล่านี้ทุกท่าน พร้อมเมื่อไรที่พี่น้องเป่านกหวีดและพร้อมจะขับไล่รัฐบาลและนักการเมืองขั่ว พวกเขาจะพร้อมออกมาร่วมกับพวกเราครับ

พี่น้องที่เคารพรัก และพี่น้องชาวพรรคประชาธิปัตย์ที่เคารพรักทุกท่านครับ ผมขอกราบเรียนด้วยความจริงใจไปยังท่านทั้งหลายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และสิ่งที่ประชาชนมีความรู้สึกจงเกลียดจงชังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์นั้น ผมอยากจะบอกคุณตรงๆ ไม่ใช่ว่าผม นายประพันธ์ คูณมี หรือวิทยากรบนเวทีนี้ เอาความเท็จ เอาเรื่องมาใส่ร้ายป้ายสีและหาเหตุหาเรื่องมาทำลายทำร้ายคุณทางการเมือง พวกเราเป็นแต่เพียงเอาความจริงมาบอกประชาชนเท่านั้น แท้ที่จริงแล้วประชาชนทั้งประเทศก็เคยมีความหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เพราะคุณเคยสร้างความหวังให้กับพวกเรา ว่าคุณจะเป็นพรรคการเมืองที่เลวน้อยที่สุด ใช่ไหมครับ

และนายอภิสิทธิ์ก็พยายามที่จะขายตัวเองกับคนไทยทั้งประเทศ ว่าจะเป็นนักการเมืองที่ดีของคนไทย และจะมาเป็นคนที่แก้ไขปัญหาการเมืองที่ล้มเหลวของประเทศ คุณพูดจาเสียสวยหรู และในประเทศไทยนี้ก็มีนักการเมืองอยู่ 2 คนเท่านั้นที่เคยเขียนหนังสือก่อนที่จะมาสู่การเลือกตั้ง แล้วได้เป็นนายกฯ คนแรกคือ พ.ต.ท.ทักษิณ จำได้ไหมครับ ทักษิณเขียนหนังสือชื่อ "ตาดูดาว เท้าติดดิน" แล้วมันก็ตาดูดาวจริงๆ เท้ามันเหยียบประชาชนติดดินเลยครับ ก็ได้เป็นนายกฯ แต่สุดท้ายก็ไม่มีแผ่นดินอยู่และถูกประชาชนขับไล่

มีนักการเมืองอีกคนหนึ่ง มาเลย เป็นคนหนุ่ม จบจากออกซ์ฟอร์ด มีการศึกษาดี อวดอ้างว่าชาติตระกูลดี ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าชาติตระกูลเขาสร้างคุณูปการอะไรให้กับประเทศไทยบ้าน ผมไม่ทราบนะ ไอ้ที่บอกชาติตระกูลดีน่ะ ความจริงแล้วก็ตระกูลข้าราชการธรรมดา ผมน่ะอ่านศึกษาประวัติคุณ มีหนังสือเล่มหนึ่งเขียนโดยนายวิทยา เวชชาชีวะ แต่ผมไม่อยากจะพูดถึงชาติตระกูล คุณก็คือตระกูลข้าราชการคนหนึ่งเท่านั้นเอง ก็ไม่ได้แตกต่างจากครู หมอ แพทย์ ที่มีลูกมาเรียนหนังสือแล้วได้รับราชการ

ชาติตระกูลดีหรือไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่คุณมีชาติตระกูล มีฐานะทางสังคมหรอก มันอยู่ที่ทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้านเมืองต่างหาก ปรากฏว่าก็มาขายฝันให้กับประชาชนด้วยหนังสือ "ร้อยฝันวันฟ้าใหม่" แล้วก็ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนายกฯ ตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องผิดปกติของเด็ก สุดท้ายคุณก็ได้เป็นนายกฯ ตามหนังสือที่คุณเขียนมา แต่ปรากฏว่าคุณได้สำเร็จความใคร่ตามความฝันของคุณ แต่ประชาชนตายหมดเลย หนังสือเล่มนั้นก็เลยเป็นร้อยฝันวันฟ้าเก่าต้มประชาชนจนเปื่อย

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมมาพูดในวันนี้เป็นแต่เพียงเอาความจริงที่เป็นตัวตนของคุณมาบอกกับประชาชนเท่านั้น ผมไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีอะไรคุณเลย เป็นแต่เพียงที่ผ่านมาคนเขามองข้าม มองเลยไป แล้วก็ให้โอกาสคุณ หวังว่าคุณจะซื่อสัตย์จริงใจต่อความไว้วางใจของประชาชน แต่สุดท้ายพี่น้องครับ นายอภิสิทธิ์ก็เป็นคนทำลายโอกาสที่ประชาชนมอบให้ด้วยตัวของเขาเอง ไม่มีใครไปทำลายเขาเลย ใช่ไหมครับ

1. เขาทำลายโอกาสที่ได้จากประชาชน พูดจาสวยหรู จะทำการเมืองที่สร้างสรรค์ จะแก้ปัญหาการเมืองที่ล้มเหลว จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกอย่างที่คุณพูดและคุณเขียนไว้ในหนังสือ คุณไม่ได้ทำแม้แต่เรื่องเดียว

วันนี้ที่ประชาชนเขาหันหลังให้คุณ ที่เขาด่าและประณามสาปแช่งคุณ ที่เขาจงเกลียดจงชังคุณ เพราะคุณโกหกตอแหล และทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนต่างหาก ไม่ใช่เรื่องที่ผมมาใส่ร้ายป้ายสีอะไรคุณเลย คุณทำลายโอกาสที่ได้จากประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่คุณทำลายอันที่ 2 ก็คือ คุณทำลายความหวังของประชาชนทั้งประเทศที่ฝากความหวังไว้กับคุณหมดสิ้นแล้ว เพราะประชาชนดูการทำงานของคุณทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องการแก้ไขปัญหาดินแดนอธิปไตย ไม่ต้องพูดถึงเลย คุณได้ทำให้แผ่นดินไทยเสียดินแดนไปแล้วโดยความไร้วุฒิภาวะ ความอ่อนแอ และความโง่เขลา ความไร้ความสามารถของคุณโดยแท้เลยครับ ไม่มีใครไปทำร้ายคุณ คุณทำลายประเทศ ทำลายประชาชนด้วยตัวคุณเอง

คุณทำลายความหวัง ปัญหาการเมืองที่ล้มเหลว การโกง การทุจริต ไม่ต้องพูดถึง คุณปล่อยให้มีการโกง การทุจริต ท่วมบ้านท่วมเมือง คุณทำลายความหวังของประชาชน

คุณทำงานไม่เป็น บริหารไม่เป็น แก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ไม่ได้ แม้แต่เรื่องเดียว ถามมาซิว่า บอกมาซิว่าคุณทำอะไรสำเร็จสักเรื่องที่ทำให้ประชาชนชื่นชม มีไหมครับ ไม่มีเลย

ขนาดเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์ม แก้ง่ายนิดเดียว อย่างที่ผมบอก วันนี้ถ้าเปิดการนำเข้าแบบเสรี ให้พ่อค้าประชาชนนำน้ำมันปาล์มเข้ามาได้โดยเสรี ประชาชนก็ไม่ต้องมาเข้าคิว ถ้าจะคุ้มครองผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกน้ำมันปาล์ม ก็ให้นำเข้าโดยเสรีเพียง 6 เดือน ปัญหาน้ำมันปาล์มทะลักเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนก็ไม่ต้องไปวิตกกังวลที่จะไปกักตุน และราคาก็จะแข่งขันกันไปตามกลไกของตลาด คุณยังไม่ทำเลย จนกระทั่งทุกวันนี้

เรื่องวีระ ราตรี ไม่ต้องพูดถึง วันนี้คุณลืมไปเลย ไม่ทำอะไรเลย คุณทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง คิดก็ไม่เป็น ทำอะไรก็ไม่เป็น บริหารราชการบ้านเมืองก็ล้มเหลวทุกประเด็น

คุณปล่อยให้คณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มที่มีนายสุเทพเป็นประธาน ทำไมนายสุเทพจะต้องมีอำนาจในการอนุญาตให้คนนำเข้าเท่านั้น ไม่นำเข้าเท่านี้ กำหนด 3 หมื่นตันต่อเดือน หรือว่ากำหนดปริมาณเท่านั้นเท่านี้ การกำหนดปริมาณเท่านั้นเท่านี่นั่นล่ะมันทำให้นักการเมืองมีอำนาจที่จะทำมาหารับประทาน

แล้วสองก็คือ พอนำเข้ามาแล้วจะแจกโควต้าให้โรงงานไหนบ้าง กินปลายน้ำก็คือกระทรวงพาณิชย์ คนกินต้นน้ำก็คือประธานคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ คุณปล่อยอย่างนี้ คุณทำงานอย่างนี้ เอาเด็กที่ไหนมาบริหารประเทศก็ได้ เก่งกว่าคุณอีก

เพราะฉะนั้นเรื่องทั้งหลายนี่ก็คือเขาทำลายโอกาส ทำลายความหวังของประชาชน ทำลายทรัพย์สินของชาติ ทำลายยังไงครับ พี่น้องรู้ไหมตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นนายกฯ ประเทศไทยต้องลงทุนไปเป็นล้านๆ บาท เพื่อให้นายอภิสิทธิ์นั่งอยู่ในตำแหน่ง ที่ผมบอกล้านๆๆ บาทก็คือ ตั้งแต่การประชุมอาเซียนที่พังระเนระนาด เสียหายไปกี่แสนล้านแล้ว ตั้งแต่การชุมนุมพฤษภาฯ เสียหายไปกี่แสนล้านแล้ว ตั้งแต่เศรษฐกิจ การเมืองของประเทศล้มเหลวเพราะผลจากการแก้ปัญหาการเมืองของคุณไม่ได้ มันเสียหายไปกี่แสนล้านแล้ว และประเทศนี้ต้องมีคนตายไปอีกกี่แสนล้าน ปัญหาภาคใต้ คนตายไปอีกเท่าไร ระหว่างคุณปกครอง 2 ปี ประเทศย่อยยับไปเท่าไร ประเทศต้องลงทุนไปเพื่อให้นายอภิสิทธิ์นั่งอยู่ในตำแหน่ง หลายแสนล้านแล้วครับ

ที่สำคัญ สุดท้ายก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนทำลายชาติบ้านเมืองของเราโดยแท้ ไม่มีครั้งใดสมัยใดที่ประเทศไทยจะเสื่อมเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี เท่ากับการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ ไม่มีครั้งใด สมัยใด ที่คนไทยจะต้องเอาปี๊บคลุมหัวแล้วอายคนเขมร

แผ่นดินก็เสีย ถูกไอ้ฮุน เซน ด่าเหมือนหมูเหมือนหมา ดูถูกคนไทยอีก แล้วไม่พอ มันยังมาซื้อทหารไทย ซื้อนักวิชาการไทย ไปเป็นขี้ข้านายฮุน เซน นายฮุน เซน ดูถูก กร่างในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ในขณะที่นายอภิสิทธิ์เอาหัวมุดซุกกันอยู่ 2 คนกับนายศิริโชค ไม่ทำอะไรเลย ผมถึงบอกว่านายอภิสิทธิ์ เวลาคุณตายไปผมไม่รู้ว่าคุณจะเขียนหนังสือไว้ในงานศพคุณว่าคุณเคยเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศนี้ แล้วคุณเคยทำอะไรให้กับประเทศนี้บ้าง และผมก็อยากจะรู้ว่า ใครจะไปเขียนคำไว้อาลัยให้นายอภิสิทธิ์ ว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่ทำอะไรไว้กับชาติบ้านเมืองบ้าง ผมอยากจะดูน้ำหน้าคนที่จะไปเขียน รวมทั้งคนที่จะพิมพ์หนังสืองานศพให้คุณ ว่าคุณจะเอาอะไรมาอวดอ้างประชาชน

พี่น้องครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ที่พี่สนธิ ลิ้มทองกุล พูดก็ดี อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ พูดบนเวทีวิชาการนี้ก็ดี หรือแม้กระทั่งท่านที่เขียนจดหมายนี้มาก็ดี และบทความทั้งหลายในบ้านเมืองเวลานี้ ทุกคนเขามองว่าประเทศไทยมาถึงจุดการเมืองที่ตกต่ำ ล้มเหลวที่สุด มองไปในประเทศนี้ หามนุษย์ที่เป็นนักการเมืองอยู่ในขณะนี้ ที่มีความเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกฯ พี่น้องดูซิครับมีใครที่เป็นนักการเมืองอยู่ในขณะนี้ แล้วเหมาะสมจะมาเป็นนายกฯ พี่น้องมองเห็นมั้ยครับ (ไม่เห็น) ถ้าไม่เห็นโห่หน่อย

ผมบอกตรงๆ ครับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ คุณอย่าหน้าด้านต่อไปเลย คุณน่ะเป็นคนสุดท้ายที่ประชาชนเขายังคิดว่าพอจะเป็นความหวังได้ ใช่ไหมครับพี่น้อง หมดจากนายอภิสิทธิ์นี่ จบไปเลย นักการเมืองที่อยู่ในสภา เขาบอกว่าไล่มันไปลงนรกหมดเลย เป็นนายกฯ ไม่ได้สักคน

เป็นไม่ได้ ไล่ไปสิครับ จะเอาใคร มันไม่เหลือแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้จึงอยากจะพูดในประเด็นนี้ ที่ผมอิดหนาระอาใจและสะอิดสะเอียนที่สุดก็คือว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อุตส่าห์ไปอบรมเยาวชนของพรรคประชาธิปัตย์ในโครงการที่บอกว่าเป็นอนาคตใหม่ของประเทศไทย พี่น้องครับ พี่น้องฟังแล้วจะรู้สึกยังไงครับ ว่าจากคำปราศรัยของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่คุณสุเทพไปพูดในงานเปิดการสัมมนาของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าด้วยเรื่องพรรคประชาธิปัตย์เป็นอนาคตใหม่ของประเทศไทย

มันเป็นเรื่องที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังไม่รู้ตัว เมื่อเขาไม่รู้ตัวอย่างนี้ ผมก็คิดว่าเราก็คงต้องมาพูดกันอีกครั้งล่ะครับว่า ไอ้ที่คุณพูดน่ะคุณฝันไปหรือเปล่า คุณละเมอไปหรือเปล่า คือผมเห็นแล้วผมก็เศร้าใจว่านักการเมืองเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้ตัวเองจริงๆ ขอประเด็นนี้ก่อนนะครับ บทสัมภาษณ์ของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ มันต้องเอาสิ่งที่เขาพูด แล้วมันจะได้กับบรรยากาศวันนี้ที่คุณสนธิพูด และกับที่ อ.ปราโมทย์ พูด

ในงานสัมมนาในการบรรยายตอนหนึ่งของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปบรรยายให้ผู้เข้าอบรม ที่เขาบอกว่ามีคนรุ่นใหม่ประมาณ 200 กว่าคน มาอบรมในโครงการอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างอบรมนายสุเทพได้พูดไว้อย่างไร เอาแค่ประเด็นแรกก่อนครับ แค่ชื่อเรื่อง หัวข้อการสัมมนาที่บอกว่า อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ พี่น้องครับ ถามจริงๆ เถอะ อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์มันยังมีอยู่เหรอครับ

ผมขอถามคุณหน่อยครับ คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ ถามไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้นยังมีอุดมการณ์อยู่เหรอครับ ในขณะที่คุณบริหารประเทศชาติบ้านเมืองฉิบหายขนาดนี้ เสียแผ่นดินขนาดนี้ โกง ทุจริตทั่วบ้านทั่วเมือง สินค้าราคาแพง นักการเมืองของคุณร่ำรวย รับเงินเดือนที่โกงกินทุจริตมาแจกจ่ายกันในพรรคทุกเดือนขนาดนี้ คุณยังมาแอบอ้างความมีอุดมการณ์ทางการเมืองอีกหรือครับ

มันเป็นอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ หรืออุดมกินกันแน่ครับ คุณไม่ละอายใจเลยเหรอที่จะมาพูดเรื่องอุดมการณ์ พี่น้องฟังต่อครับ ไอ้เนื้อหาที่ฟังต่อไปนี้สิครับแสบมาก เขาบอกว่าอุดมการณ์ของเขาคือประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ตกลงมันอุดมการณ์ประชาธิปไตยเพื่อประชาชน หรือเพื่อนายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพ และพรรคขี้โกง 5 พรรคร่วมรัฐบาล

ประชาชนที่ไหน ประชาชนในนิยามในความหมายของคุณหมายถึงใครครับนายสุเทพ การมีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เคารพเสรีภาพและความเท่าเทียมกันของประชาชน ไม่เอาระบอบเผด็จการ

การมีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น วันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกคุกคาม ถูกละเมิด ถูกจ้วงจาบหยาบช้า แกนนำเสื้อแดงบางคนโจมตีด่าสถาบันอย่างรุนแรง คุณยังปล่อยให้ลอยนวล แถมยังไปประกันตัวมันออกมาด้วย ถามว่าคุณทำอะไรบ้างที่แสดงออกถึงการเคารพปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่คุณขึ้นมาเป็นรัฐบาล คุณไม่ได้ทำอะไรเลย ยังทะลึ่งมาแอบอ้างอีก

ส่วนที่บอกเคารพต่อเสรีภาพและความเท่าเทียมกันของประชาชน คุณเคารพเสรีภาพของพวกผมหรือเปล่า คุณไม่เคยเคารพเลย คุณกระเหี้ยนกระหือรือจะไล่เรา สลายเราทุกวัน แล้วคุณยังปล่อยให้ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาพวกเรา ตั้งแต่ข้อหาเล็กข้อหาน้อย ไปจนกระทั่งข้อหากบฏก่อการร้าย ทั้งๆ ที่ประชาชนพันธมิตรฯ เหล่านี้เจ็บตายต่อสู้มาเพื่อทำให้พวกคุณได้ขี่หัว เหยียบซากศพประชาชนขึ้นไปเป็นรัฐบาล ไหน คุณเคารพเสรีภาพประชาชนตรงไหน คุณหน้าด้านไปหรือเปล่า

นอกจากนี้ เขาบอกว่า เขาจะยึดระบอบเศรษฐกิจเสรี ตลอดยึดการอยู่ร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านแบบฉันท์มิตร เศรษฐกิจเสรีแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา แบบพวกคุณใช่มั้ย นักการเมืองโกงได้โกงเอา แล้วก็หารับประทานกับพ่อค้า เอารัดเอาเปรียบกับประชาชนทุกวัน จนประชาชนเข้าคิวซื้อของแพง สินค้าราคาแพง เงินเฟ้อ เสรีมากสิ พวกคุณกอบโกยได้ตามอำเภอใจ

ผมถึงบอกว่าทุกคำพูดของเขา ผมโต้แย้งและเอาคำพูดของเขาไปตบปากเขาได้ทุกคำพูดเลย

ส่วนที่คุณบอกว่าอยู่ร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านแบบฉันท์มิตร ไม่ปลุกระดมความคิด อำนาจของไอ้ฮุน เซน แล้วบอกอยู่กันแบบฉันท์มิตรใช่มั้ย ปล่อยให้เขมรเอาฐานปืนใหญ่มาตั้งที่เขาพระวิหาร แล้วยิงใส่โรงเรียน ใส่บ้านคนไทย อยู่กันแบบฉันท์มิตรเหรอนายสุเทพ

วันหลังเราก็เอาปืนใหญ่ไปยิงถล่มบ้านนายสุเทพบ้าง ขออยู่แบบฉันท์มิตรโว้ย สุเทพ ฉันท์มิตรแบบไหน ฉันท์มิตรแบบประเทศไทยไม่มีเกียรติภูมิ ไม่มีศักดิ์ศรีเลย ให้เขมรมันด่าเหมือนหมูเหมือนหมา ฉันท์มิตรแบบนี้ประชาชนไทย คนไทย ไม่ต้องการ คุณเข้าใจมั้ยนายสุเทพเทือก

แล้วบอกว่าไม่ปลุกระดมความคิดชาตินิยมไปทะเลาะกับประเทศอื่น แล้วไอ้บักฮุน เซน บักเฮงซวย มันปลุกลัทธิชาตินิยมมายึดเอาแผ่นดินเรา คุณก็ก้มหัว มุดหัวอยู่ในรูใช่มั้ยนายสุเทพ รองนายกฯ ฝ่ายความง่อนแง่น เห็นหรือยังครับ คือทุกคำพูดเป็นคำพูดที่เลอะเทอะ ใช้ไม่ได้ และก็บอก แต่เราต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยให้แม่ทัพ 2 เอากุนเชียงไปส่งให้แม่ทัพเขมรทุกเดือนใช่มั้ย

รองนายกฯ ฝ่ายความง่อนแง่น กองทัพไทยเข้มแข็งมากใช่มั้ย เพราะนักการเมืองเอาเงินไปติดสินบนทหาร ดึงทหารมาเล่นการเมือง กองทัพมันเข้มแข็งมากใช่มั้ย กองทัพทุกวันนี้มันเข้มแข็งที่ไหน ทหารระดับผู้ใหญ่ รับสินบนจากนักการเมือง ผมจะบอกให้ รับเงินจากนักการเมือง โดยมีหัวโจกใหญ่รุ่นพี่มันเป็นตัวนำทางครับ

ทำให้ทหารระดับนายพัน นายพล ระดับล่างลงไป ผู้คุมกำลังเขามีความรู้สึกสะอิดสะเอียนกับทหารและกองทัพทุกวันนี้อย่างมากที่สุด โดยเฉพาะไล่มาตั้งแต่รัฐมนตรีกลาโหม ไปจนถึงระดับ ผบ.เหล่าทัพบางคน ใช้ไม่ได้ครับ และเป็นคนที่ทำให้กองทัพอ่อนแอ เสื่อมเสียเกียรติภูมิของกองทัพไทยหมด

ก็นี่ไง ประชาชนเขาถึงต้องเรียกร้องให้ทหารระดับล่างลงไป ระดับผู้การกรม ระดับผู้บังคับกองพล หรือแม่ทัพนายกองที่ยังรักชาติบ้านเมืองและรักเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่ ออกมายืนกับประชาชนโค่นล้มนักการเมืองชั่วสิ โธ่ เป็นผมนะ ไม่ปล่อยให้นักการเมืองเลวๆ อย่างนี้มาจิกหัวสั่งหรอกครับ คุณไปเอานักการเมืองเลว นักการเมืองโกงมาสั่งได้อย่างไร เพราะฉะนั้นวันนี้ที่เขาบอกทำให้กองทัพเข้มแข็งคือติดสินบนแม่ทัพนายกองบางคน เพื่อซื้อมาเป็นฐานให้นักการเมืองเท่านั้น คุณไม่ได้ทำอะไรให้กองทัพเข้มแข็งจริงหรอก

เพราะฉะนั้นนายทหารที่มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี และปกป้องสถาบัน ทำหน้าที่ของเขา คุณก็เอาข้อหาไปยัดเยียดให้เขา ให้ DSI ปล่อยข้อมูลออกมาว่าทหารไปฆ่าพวกเสื้อแดงแล้วก็จะหาคดีให้ทหาร

ผมถึงบอกว่า ที่คุณบอกว่าผู้นำหลายยุคพยายามให้กองทัพมาอยู่ใต้อำนาจของตนเอง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็พยายามทำเช่นนี้ แต่พรรคประชาธิปัตย์และกองทัพมีความเคารพให้เกียรติกัน อยู่กันด้วยความเคารพ ถุยครับ พี่น้องครับ

คุณยิ่งตัวดีกว่าเขาอีก แน่นอน ทักษิณก็พยายามเอากองทัพมาอยู่ใต้อำนาจของตัวเอง มาเป็นพวกตัวเอง เขาเล่นรุ่น รุ่น 10 ของเขาเอาขึ้นมาสู่อำนาจ แบ่งปันผลประโยชน์กัน แต่เผอิญมันทานกระแสประชาชนและทหารที่เขารักบ้านรักเมืองไม่ได้ เขาเลยจัดการโค่นล้มทักษิณไป คุณก็ทำเหมือนกันกับทักษิณ คุณก็เอาอีกรุ่นหนึ่งที่ยอมกายถวายตัวเป็นเบี้ยล่าง เป็นเครื่องมือให้นักการเมืองและพรรคการเมือง มันก็มีหัวโจกหุ่นเหมือนหมู ทหารประเภทเหมือนหมู มาซุกหัวอยู่ใต้ตีนพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมหัวจมท้ายหารับประทานร่วมกันกับคุณไง แล้วคุณยังมีหน้ามาบอกว่ากองทัพกับพรรคประชาธิปัตย์เคารพให้เกียรติกัน ก็ใช่สิ ผลประโยชน์แบ่งกัน วัดครึ่ง-กรรมการครึ่ง คุณถึงให้เกียรติกันดีไง

พี่น้องครับ ที่พูดต่อมานี่จะเห็นธาตุแท้ของนักการเมืองและนายสุเทพได้เป็นอย่างดีเลย เขาสัญญาว่า เขาบอกนะ เขาสัญญาว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 300 เสียง จะไม่เอาใครมาร่วมรัฐบาลเลย พี่น้องครับ พูดมาแล้วของขึ้นมั้ย ผมบอกชาตินี้นะ ตายไปอีก 10 ชาติ พรรคนี้ก็ไม่มีวันได้ 300 เสียง ขี้คุย 300 เสียงน่ะปล้นเอาได้ ฆ่าเอาได้ แล้วก็ซื้อเอา แล้วก็โกงเอา ได้แน่ 300 เสียง ถ้าได้ 172 เสียง ก็ต้องยืมมือเนวิน สุวัจน์ บรรหาร มา มันก็แหงอยู่แล้ว มึงหนีกันไม่ออกอยู่แล้ว 5 พรรคนี้ เพราะมันเป็นพวกอสูรกายด้วยกัน มันก็ต้องเสพสังวาสกันไปจนตาย ใช่ไหมครับ

ที่พูดนี่มันเผยธาตุแท้ พี่น้องจำได้มั้ย สมัยบรรหารพูด เขาบอกว่าเป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง แต่สุเทพมาใหม่ไม่พูด เพราะกลัวจะซ้ำบรรหาร สุเทพบอกว่าถ้ายึดกรอบสี่เหลี่ยม คงเป็นฝ่ายค้านตลอดชาติ คือถ้ายึดกรอบสี่เหลี่ยม พรรคนี้ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชาติ คำว่ากรอบสี่เหลี่ยมนั่นก็หมายความว่า ถ้ายึดแต่อุดมการณ์และทำตัวเป็นนักการเมืองที่ดี ไม่ไปเสพสังวาสกับพวกนี้ ไม่ไปกอดเนวิน ไปกอดบรรหาร หมายถึงไม่ยอมออกจากกรอบนี้ ก็คงไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็คงเป็นฝ่ายค้านไปจนตาย ความหมายก็คือเป็นฝ่ายค้านแบบอดอยากปากแห้งไปจนตายเหมือนกับบรรหารพูดนั่นล่ะ

แล้วนอกจากนี้ เขาพูดต่อไปอีกว่า ถ้ายึดอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมก็เป็นฝ่ายค้านไปตลอดชาติ แต่เป็นฝ่ายค้านมันไม่ได้รังเกียจ เพราะพวกเราก็เป็นพวกผีเจาะปากให้พูดอยู่แล้ว ทำเป็นพูด เป็นฝ่ายค้านเราก็พูดเก่งอยู่แล้ว ไม่กลัว แต่การเป็นฝ่ายค้านมันน่าเสียดาย มันไม่สามารถนำนโยบายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ มันน่าเสียดายที่ไม่สามารถนำนโยบายมาให้เกิดประโยชน์ นโยบายที่ว่านั้นก็คือ ทุกโครงการ 30 เปอร์เซ็นต์ 100 เปอร์เซ็นต์ ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ มันไม่สามารถเอานโยบายใต้โต๊ะ บนโต๊ะ มาหารับประทานได้ บอกตรงๆ สิคุณสุเทพ คุณมีนโยบายอะไรที่ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ก็เห็นแต่เอาเงินงบประมาณไปแจก โธ่ ตาสีตาสาก็เป็นนายกฯ ได้ ผมก็เอาเงินไปแจกเป็นเหมือนกัน ถ้าคิดโง่ๆ ง่ายๆ อย่างนี้ไม่ต้องสร้างสรรค์อะไรเลย นโยบายที่คุณบอก ไม่ได้เอานโยบายมาทำ

เพราะฉะนั้นสรุปแล้วก็คือ กระสันอยากจะเป็นรัฐบาลอย่างเดียว นี่คือนโยบายการเมืองของนายสุเทพ อยากได้ถึง 300 เสียง ถ้าไม่หนีออกจากกรอบสี่เหลี่ยมนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้งไปตลอดชาติ ไม่ได้เอานโยบายมาใช้ นโยบายก็คือ 30 เปอร์เซ็นต์ 20 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ได้ใช้ ไม่มีอำนาจ ใครจะไปจ่ายคุณล่ะ

ประมูล 3จี ก็ไม่ได้ส่วนแบ่งสิ นี่ข่าวเขาก็มาแล้ว ประมูล 3จี พรรคประชาธิปัตย์รับประทานไปหลายพันล้าน อาจจะถึงหมื่นล้าน เดี๋ยววันหลังเอาเรื่องทุจริตมาแฉอีกรอบยังได้ ยังเหลืออีกเยอะ เหลืออีกหลายเรื่อง เป็นสิบๆ เรื่องที่ยังไม่ได้แฉ และวันต่อไปผมจะขุดโคตรประวัติของนักการเมืองทุกคนมาแฉให้พี่น้องฟังเลยครับ เอามาพูดกันจะๆ เลยว่า นายบรรหาร ตั้งแต่เกิดมาเตี่ยอพยพมาอยู่สุพรรณบุรี ขายกาแฟ แล้วทำไมวันนี้มีเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านครับ เล่นการเมือง นายสุวัจน์ เมื่อก่อนพ่อคุณ แม่คุณ ทำมาหารับประทานอะไร วันนี้ทำไมรวยเป็นหมื่นๆ ล้านแล้วมีเครื่องบินส่วนตัวด้วย

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นายอนุทิน ชาญวีรกูล บริษัทเจ๊งจะล้มละลาย ก็เป็นอาเจ๊กอาแป๊ะ ค้าขายธรรมดา วันนี้รวยเป็นแสนๆ ล้าน เนวินเมื่อก่อนทำมาหากินอะไร ต้องเอาประวัติพวกนี้มาขุดโคตรให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าประเทศมันฉิบหายเพราะพวกเหล่านี้ล่ะครับ

จะได้เห็นว่าชาติตระกูลพวกนี้แต่ก่อนทำมาหากินอะไร มาเล่นการเมืองแล้วทำไมรวย พี่น้องดูนะ ไล่ชื่อได้เลย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อก่อนทำอะไร ทักษิณทำอะไร ชาติชาย ชุณหะวัณ ทำอะไร บรรหารทำอะไร เสนาะทำอะไร สุวัจน์ทำอะไร มนตรี พงษ์พานิช ชวลิต ยงใจยุทธ เฉลิม อยู่บำรุง สุเทพ เทือกสุบรรณ ชวรัตน์ ชาญวีรกุล สุริยะ เนวิน พินิจ พรทิวา ไตรรงค์ สุวรรณคีรี สนั่น ขจรประศาสน์ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรณ์ อนุทิน นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ไล่หมดพวกตระกูลนักการเมืองพวกนี้ อยากจะรู้ว่ามึงโคตรๆๆๆ รวยมาจากไหน

ก็มีประเทศนี้ประเทศเดียว ประเทศไทย ที่นักการเมืองเล่นการเมืองแล้วรวยทุกคน

อีกพวกหนึ่งสู้แล้วรวย แต่ไอ้พวกนี้เล่นการเมืองแล้วรวยๆๆ ทุกคน ถามว่าเอาเงินมาจากไหน ถ้าคุณเล่นการเมืองโดยเสียสละให้กับประเทศชาติบ้านเมือง พี่น้องรู้มั้ยครับ รวมตัวเลขความร่ำรวยของนักการเมืองในประเทศไทยแล้ว มันประมาณล้านๆๆบาทนะครับ มันไม่ใช่น้อย เรียกว่างบประมาณแผ่นดิน 2.2 ล้านบาท ยังไม่พอความร่ำรวยของนักการเมืองในประเทศไทยเลยครับ

ทรัพย์สมบัติของประเทศ ความร่ำรวยของสังคมของประเทศ ที่ประชาชนทุกคนมีส่วนสร้างร่วมกันมา มันไปกองกระจุก รวยกระจุกอยู่กับนักการเมืองและกลุ่มทุนเพียงหยิบมือเดียว คนในประเทศนี้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด ที่รวยแบบโคตรๆๆๆ รวย บนความทุกข์ยากของประชาชนในประเทศ และมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักการเมืองทั้งนั้น

เพราะฉะนั้น คุณสุเทพ แกถึงอยากจะออกจากกรอบสี่เหลี่ยมและมาเป็นรัฐบาลไง ไม่เช่นนั้นก็จะได้ไม่มีเศรษฐีใหม่ที่ชื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ เกิดขึ้นอีกคนในวงการเมืองหรอกครับ วันนี้ก็เทียบชั้นอนุทิน เทียบชั้นวิชัย รักศรีอักษร เทียบชั้นนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เทียบชั้นอนุทิน ชาญวีรกูล เทียบชั้นสุวัจน์ ตอนนี้ต้องเรียกท่านว่า เสี่ยสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วครับ ผมถึงบอกว่าวันนี้การเมืองมันล้มเหลว

สุดท้าย ที่เขาพูดมันเห็นธาตุแท้เลย วรรคต่อมาสุเทพบอกว่าที่ผ่านมาเป็นความขมขื่นของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพยายามประคองสถานการณ์ ใช้แนวทางปรองดองเสนอทางออก เรื่องของเรื่องคือทักษิณผิดหวัง ไม่สามารถรักษาอำนาจ ก็ออกมาสนับสนุนสมัคร สมชาย สืบทอดอำนาจมา กว่าจะพ้นจากสมชาย คือกว่าเขาจะได้มาเป็นนายกฯ นี่เรียกว่าเหนื่อยแทบตาย พอมาเป็นแล้วก็มาถูกแกล้ง เข้าประชุมสภาก็ไม่ได้ โดนเล่นงานจนแทบไม่รอด ประชุมสภาก็ถูกพวกเสื้อแดงเอา เอ็ม-16 อาก้า บุกเข้ามา ในการอภิปรายครั้งนี้ เขาบอกว่าเขาจะงัดข้อมูลเด็ดมาตอบโต้ฝ่ายค้าน

สรุปแล้วก็คือ มันก็คงวนเวียนอยู่ในเรื่องการที่จะต่อปากต่อคำ เถียงกันไปเถียงกันมา โยนความผิดกันไปกันมา ว่า ไอ้นี่ก็จะบอกเอ็งชั่ว ไอ้โน่นก็จะบอกเอ็งเลว มึงชั่วกูเลว ก็คงด่ากันไปมา เรียกว่าเหี้ยห่าเต็มสภาเหมือนเดิม

การเมืองก็วนเวียนอยู่กับเรื่องสกปรก ไอ้โน่นก็บอกจะงัดข้อมูลเด็ด ว่าพวกมึงไปซ่องสุมกำลังกันเผาบ้านเผาเมืองกันยังไง อีกพวกหนึ่งก็จะบอกว่ามึงก็ชั่วยังไง มึงก็ซ่องสุมกำลังยังไง แต่ที่ผมอยากจะบอกพี่น้อง วันนี้สถานการณ์ที่บอกว่าเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ที่เขาจะสู้กันในสภา มันเพียงเกมตบตาประชาชนครับ

แท้จริงแล้ว วันนี้เป็นความจริงว่าพรรคประชาธิปัตย์แอบจับมือกับพรรคเพื่อไทยแล้วครับ ล้านเปอร์เซ็นต์ แอบจับมือกับพรรคเพื่อไทย จึงได้มีกระบวนการที่จะไปประกันตัว ไปเป็นพยานเพื่อประกันตัวแกนนำเสื้อแดงออกมาไงครับ ที่ประกันแกนนำออกมา แต่ว่าไอ้คนที่ไม่ใช่แกนนำยังไม่ได้ถูกประกันตัวยังมีอยู่เยอะ พวกชาวบ้านที่ตกเป็นเครื่องมือของแกนนำเสื้อแดง แกนนำเสื้อแดงก็ไปหลอกพวกมวลชนเสื้อแดงมาเป็นเครื่องมือ เพื่อมาเป็นฐานค้ำอำนาจของตัวเอง เอาเป็นฐานมวลชนไปหากินต่อรองกับทักษิณ เพื่อสร้างความดีความชอบให้ตัวเอง เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้ลง ส.ส.และเข้ามามีบทบาททางการเมือง แล้วก็สู้แล้วรวย ส่วนพี่น้องประชาชนก็ถูกทอดทิ้งหลังจากสู้แล้ว บางคนถูกจับติดคุกติดตะรางก็ไม่ได้รับการเหลียวแล บางคนก็เดือดร้อน ครอบครัวพี่น้องที่เสียสละชีวิตไปก็มี ผมสงสารที่สุดคือพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมกับพวกแกนนำ แล้วกลายเป็นเครื่องมือให้พวกแกนนำเอาไปปู้ยี่ปู้ยำหากินต่อรองกับนักการเมืองด้วยกัน

ปัญหาความเดือดร้อน ปัญหาข้าวยากหมากแพง ปัญหาการทำมาหากินฝืดเคือง ปัญหาที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม แกนนำพวกเสื้อแดงไม่เคยพูดให้ประชาชนฟังเลยว่าต้นตอปัญหามาจากนักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกง ทุกพรรคที่อยู่ในสภาขณะนี้

วันนี้พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงจึงต้องมาฟังความจริงบนเวทีนี้ว่าบ้านเมืองมันเดินหน้าไม่ได้เพราะอะไร ประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรม สินค้าราคาแพงเพราะอะไร พืชผลเกษตรกรของพี่น้องประชาชนขายไม่ได้ราคาเพราะอะไร ต้องมาฟังที่นี่ แล้วเดี๋ยวสักพัก วันต่อไปผมจะพูดให้ฟังว่าทำไมเวลานี้ข้าวสารมันถึงราคาแพง แต่ข้าวเปลือกราคาตก นั่นก็เป็นการเอาเปรียบประชาชนเกษตรกรอีกเช่นเคย

พี่น้องที่เคารพรักครับ การที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามที่จะจัดอบรมสัมมนาและรณรงค์แคมเปญให้มีการเตรียมการเพื่อไปสู่การเลือกตั้ง ผมอยากจะถามคำถามกับพี่น้องประชาชนหน่อยว่า พี่น้องครับ เลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมรณรงค์เลือกตั้งนั้นเพื่ออะไร เพื่อต้องการจะให้นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบหนึ่ง พี่น้องต้องการนายอภิสิทธิกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบมั้ยครับ ถ้าไม่ต้องการก็โห่หน่อย โห่ดังๆ หน่อย

คำถามก็คือ ประเทศไทยทำไมจะต้องลงทุนเลือกตั้ง เพื่อเอาไอ้คนที่ทำงานไม่เป็น ล้มเหลว ไม่มีภาวะผู้นำ เขาเห็นขี้ เห็นไส้ เห็นธาตุแท้นายอภิสิทธิ์หมดแล้ว ยังจะมายัดเยียดให้ประชาชนอีกหรือ แล้วเลือกตั้งแล้ว ถ้าไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ มันก็ต้อง จะเอาใครล่ะในสภา หรือจะเอาตาชัย ชิดชอบ มาเป็นนายกฯ หรือจะเอา พล.ต.สนั่น ที่พ้นจากเพิกถอนสิทธิ์ไปแล้ว จะเอาใครล่ะ ดูซิในสภามีใครมาเป็นนายกฯ ได้ จะเอามิ่งขวัญ จะเอาเฉลิม จะเอาชวลิต จะเอาใครล่ะ

ดูแล้วพวกนี้ เอาไปไถนาให้ประชาชนกินยังไม่ได้เลย ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย แต่ละคน ไม่มีสภาพความเป็นผู้นำ ถ้าเอาพวกนี้มาเป็นนายกฯ นะ ประชาชนก็ต้องเอาปี๊บคลุมหัว เพราะฉะนั้นวันนี้เวทีนี้ถึงต้องมีการพูดมีการคุยกันในเรื่องที่เป็นสาระสำคัญมาก ก็คือว่า แล้วเราจะเลือกตั้งไปหาพระแสงด้ามยาวอะไรครับ

เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งมันใช้เงินมหาศาล ที่รัฐบาล กกต.จะต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปจัดการเลือกตั้งเป็นหมื่นๆ ล้าน แล้วนักการเมืองเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินซื้อเสียเป็นหลายหมื่นล้าน อาจจะถึงแสนล้าน แล้วเสร็จแล้วมาตั้งผสมพันธุ์กันเป็นรัฐบาล มันก็มาผลัดกันโกง แล้วก็โกงเหมือนอย่างที่บริหารอยู่ในขณะนี้ มันจะมีอะไรดีขึ้น ประเทศไทย มีแต่ถอยหลังลงคลอง

ประชาธิปไตยแบบนี้ล่ะที่พวกนักการเมืองพวกนี้มันชอบมาก ชอบจริงๆ พี่น้องรู้มั้ยคนพวกนี้ผมเห็นไส้เห็นพุงมาตั้งแต่ 14 ตุลาฯ แล้ว เพราะหลัง 14 ตุลาฯ พอได้รัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง นายบรรหารก็เข้าสู่การเลือกตั้งครั้งแรก นายเสนาะก็เข้าสู่การเลือกตั้งครั้งแรก วัฒนา อัศวเหม ก็เข้าสู่การเลือกตั้งครั้งแรก หลัง 14 ตุลาฯ พวกนี้เป็นนักการเมืองเกิดใหม่ที่ยังหลงเหลืออยู่ เห็นไส้เห็นพุงมาหมดว่าเมื่อก่อนมาเล่นการเมืองยังไม่รวยเป็นหมื่นๆ ล้าน วันนี้เขารวยเป็นระดับหมื่นล้านกันทุกคน แล้วนักการเมืองไทย บอกได้เลยคนพวกนี้ไม่เคยทำเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตนเองและของพรรคอย่างเดียว

ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยมันถึงเกิดการขับไล่นักการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า ขับไล่นายกรัฐมนตรีที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปกครองประเทศ น้อยคนที่จะไม่ถูกไล่ พล.อ.ชวลิต ก็โดนไล่ นายบรรหารก็โดนไล่ สุดท้ายก็ยึดอำนาจกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็โดนไล่ สมัคร สมชาย ก็โดนไล่ นายอภิสิทธิ์วันนี้ก็กำลังโดนประชาชนไล่ มีนักการเมือง มีนายกฯคนไหนไม่โดนประชาชนไล่บ้าง ปัญหาก็คือเราจะไล่พวกนี้ไปจนตายเหรอครับ ทำไมพวกเราไม่เป็นเสียเอง เตะมันลงจากอำนาจหมดเลย ไม่ดีกว่าเหรอ

เพราะเลือกตั้งมา มันก็มาโกง เราก็ต้องมาไล่มันอีก ก็ไล่มันซะตอนนี้เลยจะได้ประหยัดเงินภาษีงบประมาณของประเทศ ไม่ดีกว่าเหรอครับ

เหตุการณ์ที่เกิดการปฏิวัติในตูนิเซีย ในอียิปต์ ในเยเมน ซูดาน ลิเบีย และประเทศในอาหรับ ตะวันออกกลางขณะนี้ เกิดขึ้นเพราะเขาทนพฤติกรรมของนักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกง แบบบ้านเราไม่ได้

มันจึงเกิดการปฏิวัติที่เขาเรียกว่าปฏิวัติทิวลิป ปฏิวัติดอกมะลิ ปฏิวัติคาร์เนชั่น มีตัวอย่างมากมาย ถ้าปฏิวัติคาร์เนชั่นก็ต้องที่โปรตุเกส ปี 1974 ปฏิวัติดอกกุหลาบก็ที่จอร์เจีย ปี 2003 ปฏิวัติทิวลิปก็คือที่เตอกิสถาน 2005 และสุดท้ายก็คือปฏิวัติที่ตูนิเซีย ปฏิวัติดอกมะลิ ในปีนี้ และก็เกิดลามไปที่อียิปต์ ลิเบีย และประเทศต่างๆ บัดนี้ผมเชื่อแน่ว่าการปฏิวัติโดยประชาชนร่วมมือกับทหารผู้รักชาติอาจจะเกิดขึ้น และควรจะต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย

ผมนี่คิดมานานแล้วครับ ผมคิดและผมตั้งใจว่าผมจะเลิกไล่รัฐบาลแล้ว กูจะโค่นล้มมึงแล้วเปลี่ยนแปลงประเทศดีกว่าครับ เพราะเบื่อแล้ว มันต้องหาทางร่วมมือกัน พี่น้องประชาชน เราต้องลุกขึ้นมาขชจัดนักการเมืองชั่วพวกนี้ออกจากแผ่นดิน เพราะต้นตอปัญหาของชาติทั้งหลายทั้งมวล มาจากนักการเมืองชั่วจำนวน 500 คนนี้ล่ะครับ

ไม่ได้มาจากไหนเลย เลือกตั้งมามันก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโกงมากินมาปล้นชาติขายแผ่นดิน แล้วเราจะไปหย่อนบัตรให้มันมีความชอบธรรมมาปกครองบ้านเมือง โกง ทุจริต ปล้นชาติ ขายแผ่นดินต่อไปทำไม ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อเรามาเรียกร้องให้คุณทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย หยุดการโกงการทุจริต แก้ไขปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน มันไม่เคยสนใจเลย เมื่อเขาไม่สนใจเรา เราก็จะไปสนใจเขาทำไม คุณกับผมอยู่กันคนละโลก และอย่าได้พบหน้ากันอีกเลย เจอกันเมื่อไรฟาดกันทันทีครับ

ผมคิดว่าคนพวกนี้เป็นสวะสังคม เป็นคนที่ดูดเลือดกินเนื้อ ปล้นประเทศ เอาเปรียบสังคม เอาเปรียบประชาชน ครอบครัวนักการเมืองพวกนี้คือตัวปัญหาของชาติ ผมจึงอยากจะถามว่า แล้วพวกเราที่มีความรู้มีการศึกษามีฐานะ บางคนเป็นด็อกเตอร์ จบจากต่างประเทศ เป็นนักวิชาการ เป็นครูบาอาจารย์ ทำไมต้องไปกราบไหว้ ยกมือไหว้นักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกง แล้วก็ไปรับใช้เขา อยากไปทำงานให้เขา พอเขาแต่งตั้งให้เป็นกรรมการโน่น กรรมการนี่ ดีใจ โอ้โห ผมถือว่าไอ้พวกนี้ชาตินี้อย่าได้มาตั้งกูเป็นอะไรเลย เพราะเป็นเสนียดจัญไรกับชีวิตผมมาก

แล้วนักวิชาการ ผู้มีความรู้ทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้มีฐานะมีอันจะกิน ผู้รักบ้านรักเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้รักชาติ ตกลงท่านจะเป็นทาสพวกบรรหาร พวกสุวัจน์ พวกเนวินไปจนตายใช่มั้ย ให้มันปกครองบ้านเมือง ปล้นบ้านกินเมืองต่อไปใช่มั้ย มันเป็นใครมาจากไหน ชาติตระกูลมันมาจากไหน เคยเสียสละชีวิตปกป้องแผ่นดิน หลั่งเลือดพลีชีพเพื่อรักษาอธิปไตยของบ้านเมืองมั้ย โคตรเหง้ามันยังไม่เคยออกรบเพื่อปกป้องแผ่นดินเหมือนพวกเราเลย

แล้วทำไมเราจะต้องมาเสียสละและยอมให้มันขี่คอปกครองพวกเราอยู่ต่อไป นายอภิสิทธิ์ คุณฟังเอาไว้ นายประพันธ์ไม่เคยกลัวนักการเมือง และไม่เคยกลัวคุณเลย วันนี้ประชาชนเขาเตรียมปลุกระดมกันขึ้นมาเพื่อโค่นล้ม ขับไล่นักการเมืองชั่วแล้ว เรียกร้องให้คุณแสดงความรับผิดชอบไม่พอแล้ว เรียกว่าต้องขุดโคตรล้างบางกันไปเลยใช่มั้ยครับ ถ้าไม่ล้างบางนักการเมืองชั่ว ประเทศชาติไม่มีวันเจริญครับ แต่วิธีการจะทำอย่างไรนั้น วันนี้หลักการเห็นแล้ว ว่าเราต้องไปบอกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ คนที่รักบ้านรักเมืองทั้งหลาย คุณต้องออกมาช่วยกันแล้ว คุณจะยอมก้มหัวเป็นขี้ข้านักการเมืองแบบนี้อยู่ต่อไป เราไม่เอากับคุณแล้ว และเราจะยืนหยัดชุมนุมอยู่นี่ จะชุมนุม 100 ปี เราก็จะชุมนุมจนกว่านักการเมืองพวกนี้จะสาบสูญไปจากแผ่นดินไทย

แล้วเราจะหาวิธีสู้กับมันจนถึงที่สุด เรียกว่าถ้าโค่นรัฐบาลชั่วไม่ได้ ขับไล่รัฐบาลโกง ล้างบางนักการเมืองชั่วไม่ได้ ผมเชื่อแน่พวกเราตายก็นอนตาไม่หลับ

ผมคิดว่าวันนี้พวกเราทั้งหลายจะต้องเปลี่ยนจุดยืน และก็มีความคิดแบบนี้ร่วมกันแล้ว ไม่งั้นเราก็ต้องมาไล่มันอีก ประเทศไทยมันต้องเปลี่ยนแปลงเสียที ระบบราชการมันต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต คนดี มีความสามารถต้องได้รับความก้าวหน้าตามความรู้ความสามารถ เป็นระบบคุณธรรม นักการเมืองต้องมีความเสียสละ ซื่อสัตย์กับประเทศชาติ นักธุรกิจก็ต้องทำหน้าที่ค้าขาย เอากำไรแต่พองามตามกฎหมาย ไม่ใช่โกงกินทุจริต ขูดรีดปล้นสะดมประเทศชาติไม่รู้จักจบจักสิ้น ทหารก็ควรจะต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง บ้านเมืองเราถ้าไม่เปลี่ยนแปลง เราสิ้นชาติแน่ครับ

พี่น้องครับ ผมก็ใช้เวลาไปชั่วโมงหนึ่งพอดี ความจริงแล้วก็มีหลายเรื่องที่จะพูดคุยกับพี่น้องนะครับ แต่ว่าแนวทางที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุดขณะนี้ก็คือ นายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ กำลังดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ตัวเองกลับมามีอำนาจอีก เราต้องหยุดการกลับคืนสู่อำนาจของเขาให้จงได้ครับ เราต้องต่อสู้ขัดขวางทุกวิถีทาง ว่าพรรคนี้ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้ มีนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เป็นแบบนี้ เราจะไม่มีวันยอมให้คุณกลับมามีอำนาจอย่างแน่นอน

และ 2 ตราบใดที่ยังมีพรรคการเมืองเป็นระบบบริษัทอย่างที่คุณสนธิพูด วันนี้พรรคการเมืองมันก็คือระบบบริษัท มันคือการลงทุน ลงทุนจากการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ ส.ส.มาไปร่วมรัฐบาล ได้อำนาจ เป็นรัฐมนตรี ก็โกง ไม่มีการลงทุนทำธุรกิจอะไรจะรวยไวเท่ากับลงทุนทางการเมืองครับ

มันลงทุนไปพันล้าน มันเอาคืนเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน มันลงทุน 500 ล้าน มันเอาคืน 5,000 ล้าน 50,000 ล้าน ไม่มีธุรกิจอะไรจะรวยแบบนักการเมืองอีกแล้ว

เราจะปล่อยให้อาชีพนักการเมืองทำมาหากินโดยสะดวก คล่องคอ โดยปล้นเงินภาษีของประชาชนต่อไปไม่ได้แล้ว

.ส่วนพรรคเพื่อไทยที่มีแกนนำของคนเสื้อแดงเตรียมตั้งแถวจะลง ส.ส.มันก็จะมาอีหรอบเดียวกัน มันก็เลยจับมือกันขณะนี้ และหวังจะมาขัดขวางการต่อสู้ของประชาชน หาทางมาเล่นงานพวกเรา พรรคประชาธิปัตย์กำลังหลอกใช้และจับมือกับคนเสื้อแดง โดยเฉพาะแกนนำที่ประกันตัวออกมา หวังจะเอาเป็นเครื่องมือทางการเมืองไว้ขัดขวางการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ

ความชั่วของนักการเมืองคืออย่างนี้ และนี่คือวิชามารและความชั่วของพรรคประชาธิปัตย์ครับ

แผนการทั้งหมดนี้เราจะต้องหาทางตอบโต้และก็หาทางที่จะนำพาประชาชนต่อสู้ อาจจะต้องเกิดขึ้น กระแสลมจากตะวันออกพัดมาที่ประเทศไทยแล้ว เมื่อก่อนประเทศเหล่านั้นดูตัวอย่าง 14 ตุลาฯ วันนี้เราต้องดูตัวอย่างประชาชนพวกนั้นลุกฮือขึ้นมาจัดการกับนักการเมืองชั่ว ถ้าไม่งั้นชีวิตนี้เราคงมีความสุขไม่ได้ ลูกหลานเราก็ไม่มีวันที่จะมีความสุขอยู่ได้

พี่น้องครับ นี่คือเรื่องสำคัญของบ้านเมืองที่อยากจะพูดคุยกับพี่น้อง และการปกป้องแผ่นดินของเราจะสำเร็จได้ มันต้องมีรัฐบาลที่ดี เพราะรัฐบาลนี้ไม่ทำหน้าที่แล้ว วันนี้เราต้องมาช่วยกันคิดว่าเราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถปกป้องแผ่นดินและรักษาอำนาจของประชาชนที่จะไม่ให้นักการเมืองมาปล้นไปอีกครั้งหนึ่งแล้วกลับมาโกงบ้านกินเมือง นี่คือภารกิจสำคัญของพวกเรา นับแต่นี้ต่อไปบนเวทีก็คงจะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ และเราจะแฉโพย เปิดโปงให้เห็นว่านักการเมืองเหล่านั้นมันชั่ว มันโกง มันทุจริตอย่างไร และเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร

สำหรับวันนี้ ผมได้พูดคุยกับพี่น้องมา 1 ชั่วโมงแล้ว ก็ขอกราบลา แล้วพรุ่งนี้มาคุย มาพบกันใหม่ในประเด็นสำคัญเหล่านี้ต่อไป สำหรับวันนี้ขอกราบสวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น