xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” วาน ปชช.แนะนำวิธีไล่ “มาร์ค” พ้นแผ่นดินไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประพันธ์” สิ้นหวังกับการเลือกตั้ง ชี้เลือกตั้งใหม่ก็ได้นักการเมืองเลวเข้ามาอีก เป็นวงจรน้ำเน่าอยู่แบบนี้ไม่จบสิ้น วานประชาชนช่วยคิดวิธีกำจัดนักเลือกตั้งโกงบ้านกินเมืองให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน เหมือนอย่างในหลายๆ ประเทศที่มีการขับไล่ผู้นำพ้นประเทศ โดยส่งความคิดเข้ามาได้และจะรวบรวมหลายๆ แนวทางเพื่อจะได้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วานนี้ (3 มี.ค.) นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที ว่า มีหลายคนถามว่าถ้าไม่เอานายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แล้วจะเอาใครเป็น ซึ่งบทความของนายสุรวิชช์ วีรวรรณ วันนี้ที่เขียนลง ASTV ผู้จัดการ ก็ได้บอกไว้ว่าเอา หม่ำ จ๊กมก เป็นนายก ฯ ยังดีกว่านายอภิสิทธิ์เสียอีก

นายประพันธ์กล่าวว่า สรุปคือใครก็ได้ในประเทศนี้สามารถเป็นนายกฯได้หมด ถ้าทำงานเป็นตัวตลกแบบนายอภิสิทธิ์ วันๆ ไปเปิดงาน ไปขึ้นโพเดียม วันดีคืนดีก็เอาถุงยางมาใส่หัว วันๆ ก็ไปแจกประกาศนียบัตร แค่นี้ใครก็ทำได้ถ้ามีปัญญาแค่นี้ พวกที่มาบอกว่าไม่มีใครแทนนายอภิสิทธิ์ได้ ขอให้ช่วยอธิบายหน่อยว่านายอภิสิทธิ์ทำอะไรให้บ้านเมืองบ้างมีผลงานอะไรบ้าง ตัวเองโง่งมงายแล้วยังอยากให้คนอื่นโง่งมงายตาม

ทุกวันนี้นายอภิสิทธิ์เอางบประมาณแผ่นดินไปหาเสียงให้ตัวเอง ไปไหนจะเห็นขึ้นป้ายหาเสียงให้ตัวเองทั่วประเทศ วิธีแบบนี้เคยด่านายทักษิณไว้แล้ว แต่ตัวเองทำยิ่งกว่าเขา แต่ไม่ต้องห่วงเพราะยิ่งขึ้นป้ายเยอะก็ยิ่งทำให้คนเกลียดและหมั่นไส้มากขึ้นเพราะความจริงไม่ได้มีผลงานอะไรเลย เราไม่ต้องกังวลเลยว่านายอภิสิทธิ์จะได้กลับมาหรือไม่

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ตั้งแต่รู้จักนางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้งมาเพิ่งรู้ว่าเพิ่งให้สัมภาษณ์ตรงไปตรงมา ท่านบอกว่าการเลือกตั้งคราวนี้จะมีการซื้อเสียงอย่างมโหฬาร เลือกตั้งไปก็จะสูญเปล่า สุดท้ายก็จะได้นักการเมืองที่ซื้อเสียงเข้ามาถอนทุนคืนเพื่อเอาเงินไปซื้อเสียงอีกเหมือนเดิม ประเทศจะวนเวียนอยู่ในวงจรแบบนี้ ใครจะทำอะไรก็ทำเพื่อล้มระบอบการเมืองน้ำเน่านี้สักที ไม่อย่างนั้นประเทศไปไม่รอด

“ขอถามพี่น้องทั่วประเทศว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ประเทศมีความหวังจากการเลือกตั้งหรือไม่ พรรคการเมืองแต่ละพรรคเมื่อเข้ามาแล้วก็หาทางโกงเพื่อถอนทุนคืน คำถามก็คือ เราจะเลือกตั้งเอาพวกนี้เข้ามาอีกทำไม การเมืองมันวนอยู่อย่างนี้ เราจะเลือกตั้งไปทำไมในเมื่อมันเป็นวิธีเพื่อให้นักการเมืองฟอกความผิดแล้วก็อ้างว่ามาจากประชาชน เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า เวลานี้มีคนเสนอทางออกเยอะว่าประเทศไทยจะเลือกตั้งทำไม เลือกไปก็ได้ชุดเดิมกลับมา เวลานี้ในหลายประเทศไม่ยอมรับการเลือกตั้งแบบนี้แล้ว จึงมีการขับไล่ผู้นำออกนอกประเทศ โดยแค่บอกว่าใครไม่ชอบนักการเมืองโกงก็มารวมตัวกัน ทำให้เกิดเหตุอย่างในตูนีเซีย อียิปต์ ลิเบีย และอีกหลายประเทศ และอาจลามมาที่กัมพูชาและไทย

เวลานี้จึงมีคนส่วนหนึ่งหารือร่วมกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อจัดการนักเลือกตั้งโกงบ้านกินเมืองให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน ถามว่าถ้ามีคนกล้า พี่น้องเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงเรียกระดมประชาชนออกมาทั่วแผ่นดิน แล้วจัดการรัฐบาลชั่วแบบประเทศอื่นทำพี่น้องเอาด้วยหรือไม่ ตอนนี้มีคนคิดแบบนี้เยอะ วันหนึ่งอาจจะมีการเป่านกหวีดให้ประชาชนออกมามืดฟ้ามัวดินก็เป็นไปได้

“ผมขอมาทิ้งโจทย์ ทิ้งปริศนาว่าต่อไปนี้ประชาชนต้องคิดอะไรให้มากกว่าแค่การชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้ทำหน้าที่ ไหนๆ ก็ออกมาร่วมชุมนุมแล้วเราคงต้องปรึกษาหารือกัน เพราะเมื่อเราเรียกร้องแล้วรัฐบาลไม่ยอมทำหน้าที่ ก็ต้องหาทางออกที่ได้ผลมากกว่านี้ ฟังโจทย์ไปแล้วใครมีความคิดดีๆ ส่งมาได้ ว่าจะจัดการรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อย่างไร เพราะถ้าเราไม่ผนึกกำลังกันบ้านเมืองก็คงตกในชะตากรรมยากลำบาก ข้าราชการ พ่อค้านักธุรกิจ ทหาร และทุกคนพูดตรงกันหมดว่านายอภิสิทธิ์ไปไม่รอดแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะกล้าหาญเป็นผู้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ถ้าใครมีความคิดล้มล้างระบอบการเมืองโสโครกผมยินดีสนับสนุน และเชื่อว่าทุกคนก็พร้อมสนับสนุนเช่นกัน อยากจะบอกว่าเรามีแนวคิดแล้ว แต่รอรวบรวมหลายๆ ความคิด เพื่อให้ครบถ้วนรอบด้าน และมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น” นายประพันธ์กล่าว

คำต่อคำ “ประพันธ์ คูณมี”ปราศรัย

“สวัสดีครับพี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ผมนึกว่ากลับบ้านไปหมดแล้ว ยังอยู่รึเปล่าขอเสียงหน่อย ผมก็นึกว่าฝนตกกลับบ้านไปหมดแล้ว นึกว่าถอดใจหมดแล้ว ยังอยู่ใช่ไหม ตอนนี้ผมทำให้เพลงนี้ฮิตไปทั่วเลย ใน youtube คนพยายามเข้าไปโหลดเพลงนี้ ถือว่าเพลงนี้เป็นเพลงของลูกชายจ่าเพียร ลูกชายจ่าเพียรกับเพื่อน คุณชุมพล เอกสมญา เป็นคนแต่งเพลงนี้ และมีผลงานเพลงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเพลงนี้กลับมาฮิตอีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นเพลงที่สะท้อนความเป็นตัวตลกของผู้นำประเทศของเราได้อย่างตรงกับบุคลิกลักษณะและสภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในวันนี้มากที่สุดครับ

จะว่าไปแล้วจ่าเพียรซึ่งเป็นพ่อของเจ้าของเพลงนี้ ท่านต้องเสียชีวิต โดนระเบิดจากผู้ก่อการไม่สงบในภาคใต้ จ่าเพียรขอย้ายมาอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง มาเป็นผู้กำกับอีกจังหวัดหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าสารเลวคนไหนเปลี่ยนโผโยกย้าย ทำให้จ่าเพียรไม่สามารถย้ายออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นในบั้นปลายของชีวิต ผมเชื่อว่าสารเลวคนนั้นวันนี้กรรมต้องตามสนองแน่ที่ทำให้จ่าเพียรต้องเสียชีวิต และคงเป็นที่รู้กันว่าตัวสารเลวคนนี้ชอบวิ่งเต้นหากินกับการโยกย้ายแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวิ่งเต้นรับเงินแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจนเป็นเรื่องราวฉาวโฉ่ในปัจจุบันนี้ ผมเชื่อแน่ว่าพี่น้องที่ติดตามเรื่องราวเหล่านี้คงจะรู้ดีว่า พี่น้องเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็ขมขื่นใจกับรัฐบาลนี้ไม่น้อยเลยใช่ไหมครับพี่น้องครับ ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ไม่ว่าครั้งใดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง และต้องวิ่งเต้นหาเงินไปติดสินบนฝ่ายการเมืองเพื่อจะได้มีโอกาสโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ตัวเองต้องการ และในรัฐบาลนี้ก็มีการเรียกเงินเจ้าหน้าที่ตำรวจในการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายเลวหนักกว่ารัฐบาลชุดก่อนๆ ซะอีกครับ

ฟังเพลงตัวตลกทีไรก็ทำให้ผมนึกถึงจ่าเพียรตลอดเวลา เพราะว่าคนที่ทำเพลงนี้คือลูกชายของเขากับเพื่อน เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตเอามาเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ลูกชายของเขา ซึ่งกำลังจะกลับมาสร้างอัลบั้มเพลงใหม่ๆ หวังว่าแต่งเพลงให้เจ้าตัวตลกตัวจริง นักเรียนอีต้ม อีกสักเพลงก็น่าจะดีนะครับ

พี่น้องครับ วันนี้ผมมีเรื่องจะพูดคุยกับท่าน และคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าฝนฟ้าจะตกพี่น้องก็ยังอยู่ แต่ผมเชื่อว่าพี่น้องทางบ้านคงยังรอฟังการปราศรัยของเวทีที่นี่อยู่ว่า วันนี้เราจะมีเรื่องอะไรมาคุย ผมคิดว่ามี 2 เรื่องใหญ่ๆ ที่อยากจะคุยกับพี่น้องก็คือ มีคนถามมากว่า ถ้าไม่เอานายอัปรีย์สิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี หรือนางอัปรีย์สิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรี มีคนชอบถามแบบนี้เสมอ เมื่อครั้งที่เราไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มีคนถามคำถามแบบนี้เช่นเดียวกันครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะตอบให้ฟังว่า ถ้าไม่เอานายอัปรีย์สิทธิ์ หรือนางอัปรีย์สิทธิ์แล้วจะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรีครับพี่น้องครับ และประเด็นที่สอง ที่ผมคิดว่ามีคนพูดและเป็นประเด็นที่กำลังฮอตขึ้นมาในเวลานี้ ก็คือว่า คำถามคือว่า ประเทศไทยสมควรจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไปในระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อีกหรือไม่ ที่ประเทศไทยต้องใช้เงิน เสียเงินไปกับการเลือกตั้งหลายหมื่นล้านเพื่อให้มีนายกฯ ที่ตอแหลและขี้โกงกลับมาปกครองบ้านเมือง แล้วถ้าไม่มีการเลือกตั้ง บ้านเมืองควรจะมีทางออกอย่างไร ผมว่า 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุดในขณะนี้ เพราะชอบถามเหลือเกิน ตกลงก็คือ พี่น้องประชาชนที่เป็นเพียงของเล่นของนักการเมือง เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกอะไรดีกว่านักการเมืองขี้โกงและตอแหลแล้วหรือประเทศนี้ นี่คือ 2 เรื่องที่อยากจะคุยกับพี่น้อง

แต่ก่อนจะคุยกับพี่น้อง ผมเพิ่งได้รับจดหมาย และเพิ่งเปิดอ่าน อ่านแล้วผมคิดว่าอ่านคนเดียวไม่ได้ต้องเอามาอ่านให้พี่น้องฟังด้วย เพราะจดหมายฉบับนี้เขียนมาตรงใจผมที่สุด และคงเสียดแทงหัวใจของผู้นำประเทศ เขียนมาอย่างนี้นะครับ แทนที่จะเขียนมาถึงผม จ่าหน้าซองถึงผม แต่เนื้อในจดหมายปรากฏว่าเขียนอย่างนี้ "เรียนนางอัปรีย์สิทธิ์ ป้าขอไล่นางอัปรีย์สิทธิ์ (ซึ่งก็ไม่รู้ใครนางอัปรีย์สิทธิ์) ด้วยคน ป้าไม่เคยคิดเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำชั่วขายชาติได้ขนาดนี้ และเนรคุณคนใต้ทุกคน และพันธมิตรฯ ทุกคน ป้าเสียใจมากที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ มาถึงรุ่นป้าและลูกๆ ทุกคน เพราะมีความหวังว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาลประเทศไทยคงจะดีขึ้น และประชาชนคงจะได้สบายขึ้น แต่แล้วก็ต้องผิดหวังอย่างแรง ขอให้นางอัปรีย์สิทธิ์ ออกไป ออกไป ออกไป ออกไป" นี่เขียนมาแรงมากนะครับ เอาแผ่นดินไทยกลับคืนมา และลงท้ายด้วย รักที่สุดคือในหลวง หวงที่สุดคือแผ่นดิน ป้าหาดใหญ่ นี่เขียนมาจากหาดใหญ่นะครับ ไม่ใช่ผมเขียนเอง แสดงว่า พี่น้องชาวใต้เริ่มมองเห็น และเริ่มสิ้นหวังกับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ทีนี้มีมาจากต่างประเทศ ผมคิดว่าน่าสนใจและอยากจะอ่านให้พี่น้องฟัง ท่านหนึ่งเขียนมาจากเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ซึ่งคงทนไม่ได้กับการที่เห็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บริหารชาติบ้านเมืองอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ พี่น้องจากเมืองลิเวอร์พูลเขียนมา และพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ลอนดอน ก็เขียนมาเช่นเดียวกันครับ คุณดา ที่ผมได้อ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ facebook ที่ท่านเขียนข้อความเข้ามา ท่านบอกดีใจมากที่ผมอ่านข้อความที่ท่านส่งมาถึง และได้อ่านผ่านเวทีนี้ ทำให้ท่านต้องติดตามและรับชมรับฟังการปราศรัยบนเวทีนี้ทุกวัน แล้วมี 2 ท่าน เผอิญเปิดไม่ได้ มีอีก 2 ท่าน เขียนมาจากเมืองลิเวอร์พูล บอกว่า เขาเป็นคนที่ชื่นชอบนายอภิสิทธิ์และชอบพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน ทั้งนั้นเลยครับที่เขียนมา แต่มาวันนี้เขาบอกว่า เขานึกไม่ถึงว่ามันจะเลวจนกูงง โกงจนกูมึน ทึ่มจนกูเอียน เถียงจนกูอาจ นี่มาจากเมืองลิเวอร์พูลนะครับ ส่วนคุณดามาจากลอนดอน ทั้ง 2 ท่านส่งข้อความมา บอกว่าเห็นด้วยกับการชุมนุมของพี่น้องประชาชน และวันนี้เห็นด้วยและเข้าใจแล้ว และดวงตาสว่างแล้ว ที่หลงเชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บัดนี้ชาตินี้จะไม่เลือกนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ไปตลอดชีวิต คือไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีผู้นำประเทศที่เป็นแบบนี้ และยอมก้มหัวให้กับรัฐบาลของนายฮุน เซน และขายชาติขายแผ่นดินโดยไม่นำพา โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน

พี่น้องครับ เมื่อวานนี้ผมได้คุยและได้อภิปราย พูดคุยกับพี่น้องประชาชนไปในเรื่องว่า พรรคฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมแปลกใจว่า ทำไมเขาถึงไม่ยื่นอภิปรายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในหัวข้อที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำให้ประเทศชาติเสียดินแดน เสียเอกราชและอธิปไตย พี่น้องแปลกใจไหมครับว่า ทำไมพรรคฝ่ายค้านจึงเสนอประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นที่ เป็นประเด็นที่ตัวเองเคยอภิปรายมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วกลับมายื่นอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องจำได้ไหมหลังเหตุการณ์ชุมนุมใหม่ๆ ก็มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และยื่นญัตติ หรือยื่นกระทู้ถามเรื่องการปราบปรามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มารอบหนึ่งแล้ว วันนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มายื่นอีกรอบหนึ่ง เพราะฉะนั้นประเด็นนี้อยากจะฝากพี่น้องเสื้อแดงว่า ช่วยไปอบรมแกนนำของท่านหน่อย ทำไมซื่อบื้ออย่างนี้ครับ ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ควรเอามาอภิปรายไม่ไว้วางใจอีก เพราะการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง คราวที่แล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม มันเห็นได้แล้วว่ามีเหตุความรุนแรง มีการจลาจล มีการเผาบ้านเผาเมือง มีคนเจ็บมีคนตาย มีกำลังติดอาวุธปะปนอยู่กับผู้ชุมนุม ถ้าคุณอภิปรายในประเด็นนี้อีก ซึ่งคุณอภิปรายมาแล้ว มันก็ทำให้นายอภิสิทธิ์สามารถตอกหน้าคุณกลับไปได้อีกเหมือนเดิม ก็ความรุนแรงทั้งหลายทั้งปวงมันเกิดจากพวกคุณด้วยไม่ใช่หรือ มันก็มีกองกำลังติดอาวุธของพวกคุณปะปนอยู่ และมีชายชุดดำ มีกลุ่มเสธ.แดง มีอาวุธ มีกระสุน ตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่สวนลุมพินี และยิงใส่พี่น้องชาวสีลม คุณจะอภิปรายทำไม อภิปรายเรื่องนี้มันก็เข้าเนื้อตัวเอง ก็ทำให้นายอภิสิทธิ์ย้อนกลับพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย เพราะบนเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงก็มีสมาชิกพรรค ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยไปร่วมด้วย แถมยังบุกเข้าไปยึดอาวุธ บุกเข้าไปในสภา ก่อเหตุความรุนแรง การอภิปรายในประเด็นนี้ไม่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงเลย ความจริงแล้ว กระบวนการสอบสวน กระบวนการเอาความผิด รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามประชาชน มันก็เดินหน้าไปแล้วในกระบวนการยุติธรรม ไปอภิปรายทำไม เพราะฉะนั้นประเด็นนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงน่าจะไปบอกแกนนำ ไม่ต้องอภิปรายแล้ว เอาเรื่องใหม่ได้ไหม เรื่องทุจริต เรื่องสินค้าราคาแพง พอจะอภิปรายได้ใช่ไหมครับพี่น้อง แล้วเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ทำให้ประเทศเสียแผ่นดิน ทำไมคุณไม่อภิปราย เพราะการอภิปรายเรื่องนี้มันเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาลนี้ มันไม่ใช่เป็นการอภิปรายนายฮุน เซน ใช่ไหมครับพี่น้อง คุณทำไมกลัวว่านายฮุน เซน จะไม่พอใจ หรือกลัวว่าพวกเสื้อแดงที่หลบอยู่ที่กัมพูชา หรือกลัวว่าทักษิณที่ทำมาค้าขายกับฮุน เซน จะทำมาหากินไม่สะดวก ความจริงแล้ว คุณน่าจะอภิปรายประเด็นนี้ โดยอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดชนิดที่ดิ้นไม่หลุด แต่ไม่ยอมอภิปราย เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก

นับตั้งแต่เรื่องก่อนจะออก MOU2543 รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไปออกพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตอุทยานบริเวณปราสาทพระวิหาร และอำเภอรอบปราสาทพระวิหาร เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ผู้ที่ลงนามประกาศราชกฤษฎีกา คือ นายชวน หลีกภัย แล้วมาวันนี้ พระราชกฤษฎีกาที่กำหนดเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ กลายเป็นว่าเขมรเข้ามายึดครอง ประชาชนกัมพูชาเข้ามายึดครองหมด แถมหลังจากนั้นปี 43 คุณยังไปทำ MOU2543 โดยไม่เพิกถอนพระราชกฤษฎีกา เห็นได้ชัดแล้วว่านี่เป็นความผิดของพรรคประชาธิปัตย์และนายกฯ ชวน รวมมาถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แบบเต็มๆ เลย ทำไมหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงเรื่องนี้ หลักฐานชัดเจน ต่อมาเมื่อนายนพดลไปขึ้น Joint Communique ไปรับรองแผนบริหารจัดการโดยรอบพื้นที่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นี่เป็นสัญญา ไปรับรองแถลงการณ์ดังกล่าวนั้นมีผลผูกพันประเทศ คุณไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภา และไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ทำไม่ได้ขัดกฎหมาย เมื่อมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ก็ตัดสินแล้วว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของประเทศไทย ถ้ารัฐบาลนี้ยังดึงดันจะให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลก และยังปล่อยให้กัมพูชายึดครองแผ่นดินนี้ แสดงว่ารัฐบาลนี้กระทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง เป็นความผิดเห็นๆ และมีหลักฐานพร้อมมูลสามารถจะเอาผิดกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้โดยทันที ทำไมไม่ทำผมก็แปลกใจ เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจึงอยากจะบอกว่า นี่มันเป็นมวยล้มต้มคนเสื้อแดง อย่างแน่นอนครับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จึงพึ่งไม่ได้ หวังไม่ได้ ถ้าอยากจะฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ ให้มาฟังบนเวทีนี้ ใช่ไหมครับพี่น้อง เราจะมีเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์อีกเยอะ หลายเรื่อง

นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง และเรื่องนี้ผมได้เขียนบทความลงใน ASTV ผู้จัดการ ไปแล้ววันนี้ พรุ่งนี้ติดตามอ่านแล้วกัน และหวังว่ากลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ควรไปทำการบ้านเสียใหม่ถ้าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็กลายเป็นว่า พรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดงบางคน แอบจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์แสดงละครตบตาประชาชน ไม่ใช่ต้องการจะอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อจะตรวจสอบการกระทำความผิด การใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบ การกระทำผิดกฎหมาย และทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน ทุจริต โกง คอร์รัปชั่น อันเป็นความผิดฉกาญฉกรรจ์ร้ายแรงของนักการเมือง เพราะฉะนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำหน้าที่นี้ บัดนี้การเมืองในระบอบรัฐสภามันจึงล้มเหลว และจบสิ้นแล้วครับพี่น้อง ต่อให้มีการเลือกตั้งอีก 500 ครั้ง ประเทศไทยไม่มีวันจะหลุดพ้นจากการเมืองน้ำเน่า และวงจรอุบาทว์นี้ได้เลยครับ

เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจึงมาชวนพี่น้องคุย 2 ประเด็นต่อมา ว่าถ้าไม่เอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ แล้วจะเอาใครเป็นนายกฯ ครับพี่น้อง เอาใครครับ ฟังไม่ชัดครับดังๆ หน่อยได้ไหม ถ้าจะเอาพันธ์คีมูน พันธ์คูณมี หรือพันธ์คีมูน ถ้าจะเอาอย่างนั้นเดี๋ยวมีวิธีครับพี่น้อง

พี่น้องครับวันนี้ผมสลดใจมากคือ บทความของคุณสุรวิชช์ วีรวรรณ ไม่รู้ใครอ่านหรือยัง คุณสุรวิชช์ วีรวรรณ เขียนบทความวันนี้ผมว่าดีมาก พี่น้องน่าจะไปหาอ่านใน ASTV ผู้จัดการออนไลน์ มีคนถามมากโดยเฉพาะแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะค่อนขอดว่า ถ้าไม่เอานายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แล้วจะเอาใคร คือเขาพูดประหนึ่งว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนเก่ง เป็นคนวิเศษวิโส เป็นเทวดา ทั้งๆ ที่ทำงานหมาไม่แหลก ทำงานไม่ได้เรื่อง วันนี้ผมเจอพ่อค้า ประชาชน นักธุรกิจหลายคน เขาดูถูกนายอภิสิทธิ์มาก เขาพูดว่า คิดมันยังคิดไม่เป็นเลย เรื่องทำงานไม่ต้องพูดถึง แค่จะคิดทำอะไรยังคิดไม่เป็นเลย คิดแต่ละเรื่องหมาไม่แหลกทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องทำอะไรไม่เป็น เวลานี้ เวลาจะล้อกันว่า ทำอะไรไม่เป็นทำอะไรหมาไม่แหลก ทำไมมึงทำเหมือนอภิสิทธิ์ เขาล้อกันอย่างนี้ ผมสะดุดบทความของสุรวิชช์ วีรวรรณ ตรงไหนครับ แม่ยกประชาธิปัตย์น่าจะไปอ่านบ้างนะถ้ายังงมงายคิดว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนเก่ง ความจริงแล้วนายอภิสิทธิ์ ดีว่าแขนขายังดีอยู่ ถ้าแขนขาไม่ดี ป่านนี้น่าจะไปเป็นขอทานมากกว่า

คุณสุรวิชช์ วีรวรรณ เอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเทียบกับ หม่ำ จ๊กมก เพราะอะไรครับ ก็ผมเปิดเพลงตัวตลกเลยมาเทียบกับหม่ำ จ๊กมก เขาบอกว่า ถ้าหาใครเป็นนายกฯ ไม่ได้ คุณสุรวิชช์ วีรวรรณ บอกว่า เอาหม่ำ จ๊กมก มาเป็นนายกฯ ยังจะดีกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะอะไรครับ นายอภิสิทธิ์อาจจะเป็นคนหน้าตาหล่อเหลา พูดเก่ง การศึกษาดี มีชาติตระกูล ความจริงแล้ว ความมีชาติตระกูล ตระกูลวงษ์คำเหลา ก็เป็นตระกูลใหญ่ของแผ่นดินอีสาน ไม่ใช่ตระกูลเล็กๆ มีประวัติศาสตร์ยาวนานว่า แผ่นดินอีสานเป็นอาณาจักรเก่าแก่ดั่งเดิมหลายหมื่นปีแล้ว และเป็นผู้สร้างกรุงเทพมหานคร แม้กระทั่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เสนีย์ ปราโมช ต้นตระกูลอพยพมาจากทางลาว สุวรรณภูมิ แผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง มาจากแผ่นดินอีสานครับพี่น้อง และกรุงเทพมหานคร คนที่สร้างกรุงเทพมหานครก็คือประชาชนจากดินแดนอีสานทั้งนั้นที่ถูกเกณฑ์ให้มาสร้างกรุงเทพมหานคร และกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะฉะนั้นตระกูลวงษ์คำเหลา น่าจะเก่าแก่กว่าตระกูลเวชชาชีวะ ถ้ามาดูการศึกษา พูดเก่ง เดี๋ยวนี้วงษ์คำเหลา หม่ำ จ๊กมก ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ นะครับพี่น้อง ไม่ธรรมดา การศึกษาเขาก็ดี ส่วนเรื่องพูดเก่ง อภิสิทธิ์หรอ มาโต้วาทีกับหม่ำ จ๊กมก สู้หม่ำ จ๊กมก ไม่ได้ครับ เห็นหรือยัง เทียบกันไม่ได้เลยทุกเรื่อง แล้วมาพูดเรื่องอะไร ประสบการณ์และการทำงาน นายอภิสิทธิ์อย่างเก่งเป็นโฆษกรัฐบาล เคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อยู่ไม่กี่เดือน เป็นโฆษกอยู่ไม่กี่เดือน แต่มาดูประสบการณ์การทำงานของ หม่ำ จ๊กมก เขาอยู่ในวงการบันเทิงมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีประสบการณ์สูง เคยสร้างภาพยนตร์ เป็นเจ้าของบริษัทสร้างภาพยนตร์ สร้างภาพยนตร์ทำเงินหลายร้อยล้านมาหลายเรื่องแล้ว นอกจากนั้น ในการเป็นเจ้าของบริษัทที่มีกิจกรรมด้านบันเทิง ด้านอีเวนท์ ประสบผลสำเร็จมากกว่านายอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ ยังไม่เคยทำมาหาแดกอะไรประสบความสำเร็จเลย

เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ พวกแม่ยกที่ถามว่า ไม่เอาอภิสิทธิ์แล้วจะเอาใครเป็นนายกฯ แค่หยิบหม่ำ จ๊กมก มาก็ยังเหนือกว่าอภิสิทธิ์ตั้งหลายร้อยเท่า สรุปคือ ใครก็ได้ในประเทศไทย เอามาเป็นนายกฯ ได้หมด ถ้าทำงานเป็นตัวตลกแบบนายอภิสิทธิ์แบบนี้ใครก็เป็นนายกฯ ได้ วันๆ ทำอะไร ไปเปิดป้าย วันๆ เกาะโพเดียมเปิดงาน วันๆ ก็เอาถุงยางมาใส่หัว ใครก็เป็นได้ใช่ไหมครับพี่น้องถ้าจะเป็นนายกฯ แบบนี้ วันๆ ไปแจกประกาศนียบัตร วันๆ ไปนั่งเรือใส่เสื้อชูชีพ ใครก็เป็นนายกฯ ได้ถ้ามีปัญญาแค่นี้ใช่ไหมครับพี่น้อง พอเขมรมาก็มุดอยู่ในรู เจ๊าะแจ๊ะอยู่กับศิริโชค โสภา ใครก็เป็นนายกฯ ได้ถ้ามีปัญญาแค่นี้ใช่ไหมครับพี่น้อง ถามทำไมว่า ถ้าไม่เอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วจะเอาใครเป็นนายกฯ

พี่น้องครับ อาจารย์ท่านหนึ่งมีความรู้สูงมาก จบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อจากอังกฤษ ไม่อยากจะเอ่ยชื่อ มหาวิทยาลัยท็อปเทนของอังกฤษ ใหญ่ ดังมาก ท่านโกรธมากที่มีคนชอบมาถามว่า จะเอาใครมาเป็นนายกฯ ถ้าไม่เอาอภิสิทธิ์ อาจารย์ท่านนั้นตอบว่า เอาสุนัขตัวไหนก็ได้ เพราะมันยังเห่าและมันยังรักษาบ้าน และมันยังดูแลเจ้าของ มันยังหวงแหนแผ่นดิน คุณถามทำไม ถ้ามีปัญญาทำงานแค่นี้เอาใคร คือท่านหมายความว่า เอาใครก็ได้ในแผ่นดินนี้มาเป็นนายกฯ ก็ได้ ทะลึ่งมาถามทำไม เพราะฉะนั้นที่จะตอบพี่น้องก็คือว่า พวกที่ชอบมาถามว่า ถ้าไม่เอาอภิสิทธิ์แล้วจะเอาใคร พวกนี้ไม่มีปัญญาจะมาเถียงมาโต้แย้งว่า พอเราถามว่า ที่คุณคิดว่านายอภิสิทธิ์ควรจะเป็นนายกฯ ต่อไป คุณช่วยอธิบายหน่อยซิว่า นายอภิสิทธิ์ทำงานอะไรบ้างที่มีผลงานเป็นที่น่าชื่นชม เป็นที่ประทับใจของคนทั้งประเทศ ตอบไม่ได้เลย ที่ชอบถามก็เพราะว่าตัวเองโง่งมงายแล้วยังอยากจะให้คนอื่นโง่งมงายตามตัวเองไปอีกครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นคำถามว่า คุณอยากรู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ลองให้อภิสิทธิ์ลาออกแล้วจะรู้เองว่าใครจะมาเป็นนายกฯ ส่วนคำถามต่อไปคือว่า

เอาคำถามแรก วันนี้พี่น้องครับ คนไทยที่มีความรู้ความสามารถเก่งกว่านายอภิสิทธิ์มีเยอะมาก ถ้านายอภิสิทธิ์ทำงานเพียงแค่นี้ ผมดูแล้วทำงานยังแพ้แม้กระทั่งนายบรรหาร ศิลปอาชา เลยครับ คือทำงานไม่ได้เรื่อง แต่ชอบอวดตัวว่า ถ้าไม่เอาผมแล้วจะเอาใคร ลองคุณไปซิแล้วคุณจะรู้ว่าคนเก่งกว่าคุณในแผ่นดินนี้มีเยอะ ทีนี้ปัญหาคือว่า เอ๊ะแล้วทำไมนายอภิสิทธิ์ยังอยากจะเลือกตั้ง ยังอยากจะกลับมาเป็นนายกฯ วันนี้ทุ่มเทเงิน ทุ่มเทงบประมาณของพรรคไปในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ติดป้ายระดมหาเสียงเลือกตั้งไปทั่วประเทศ ขึ้นป้ายบิวท์บอร์ด โฆษณาประชาสัมพันธ์ พี่น้องเขาเรียกว่า หน้าด้าน เอางบประมาณของรัฐบาล งบประมาณแผ่นดินไปโฆษณาหาเสียงให้กับตัวเอง โดยใช้งบของกระทรวงวัฒนธรรมบ้าง กระทรวงศึกษาฯ บ้าง กระทรวงวิทยาศาสตร์บ้าง กระทรวงยุติธรรมบ้าง กระทรวงมหาดไทยบ้าง เอางบโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกกระทรวง แล้วขึ้นป้ายโฆษณาหาเสียงตัวเองทั่วประเทศ วิธีแบบนี้เคยด่าพรรคไทยรักไทย เคยด่าน พ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้ว แต่ตัวเองทำ เอี้ย เอี้ย เอี้ยยิ่งกว่าเขาครับ เราเดินทางไปทั่วประเทศมีแต่รูปพรรครัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถามว่า ควักเงินของพรรครึเปล่า ควักเงินตัวเองหรือเปล่า เปล่าครับเอาเงินงบประมาณภาษีมาขึ้นป้ายหาเสียงให้กับตัวเอง แต่พี่น้องครับไม่ต้องตกใจ ยิ่งขึ้นป้ายเยอะยิ่งทำให้คนเกลียดและหมั่นไส้มากยิ่งขึ้นครับพี่น้อง คนเรานะครับ ถ้าทำงานสุนัขไม่รับประทาน ทำงานไม่มีผลงานแต่พยายามจะโชว์ออฟ ประชาสัมพันธ์ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ยิ่งประชาสัมพันธ์ ยิ่งโฆษณาเท่าไหร่ คนยิ่งเกลียดและยิ่งหมั่นไส้ครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องกังวลเลยว่า นายอภิสิทธิ์จะมีโอกาสได้กลับมาหรือไม่ แต่วันนี้สิ่งที่เขาจะทำคืออะไรครับ คือการเอางบประมาณของรัฐบาลโถมเข้าไปในการแจกและหาเสียงให้กับตัวเองในโครงการต่างๆ ประชานิยม ประชาวิวัฒน์ และประชาวิบัติครับพี่น้อง วันนี้ทำทุกอย่างเพื่อหาทางหาคะแนนนิยมให้กับตัวเอง ซื้อเสียงโดยเอาเงินภาษีและงบประมาณของแผ่นดินไปหาเสียงกับชาวบ้าน เพื่อจะให้ตัวเองกลับมาสู่การเลือกตั้ง

พี่น้องครับ ตั้งแต่ผมรู้จักกับคุณสดศรีมา ผมเพิ่งทราบว่าแกให้สัมภาษณ์ตรงไปตรงมาที่สุดเมื่อไวๆ นี่เองครับ จริงๆ แล้วท่านเรียน วปร.พระปกเกล้ารุ่นเดียวกับผม รุ่น 11 ผมเพิ่งเห็นสัมภาษณ์ดูจะมีเนื้อหาสาระรับฟังได้เมื่อไม่กี่วันมานี่เอง คุณสดศรี ซึ่งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ให้สัมภาษณ์ ท่านบอกว่า การเลือกตั้งคราวนี้จะมีการซื้อเสียงมโหฬาร คนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน แล้วจะต้องใช้งบประมาณในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นหมื่นๆ ล้าน แล้วที่ กกต.จัดการเลือกตั้งแต่ละครั้งใช้เงินไป 3 พันล้าน 5 พันล้าน เพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศ ก็เป็นการเลือกตั้งที่สูญเปล่า เสียเงินภาษีของประชาชนเปล่าๆ สุดท้ายจะได้นักการเมืองที่ซื้อเสียงเข้ามา โกงการเลือกตั้งเข้ามา แล้วมาได้อำนาจรัฐ มาโกง มาทุจริตหาเงินไปซื้อเสียงเพื่อชนะการเลือกตั้งอีกเหมือนเดิม ประเทศไม่มีวันจะไปไหนได้ วนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์และการเมืองน้ำเน่า คุณสดศรีเลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นใครจะทำอะไรก็ทำ ล้างระบอบการเมืองของประเทศให้หมดไปเสียที เลิกการเมืองน้ำเน่าอุบาทว์ซะที ไม่อย่างนั้นประเทศไปไม่รอด ผมเพิ่งฟังแกให้สัมภาษณ์ เพิ่งพูดจารู้สึกมีเหตุมีผล ฟังรู้เรื่องก็คราวนี้เองครับพี่น้อง ปรบมือให้แกหน่อย คุณสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการ กกต.

เพราะฉะนั้นจึงมาถึงประเด็นที่ 2 ที่ผมอยากจะคุยกับพี่น้องในวันนี้ ประเด็นแรกจบไปแล้วว่า ไม่เอาอภิสิทธิ์จะเอาใคร เอาใครก็ได้ในประเทศนี้ ใครก็เป็นนายกฯได้เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย วันๆ แต่งตัวหล่อๆ ผูกเนกไท หม่ำ จ๊กมก แต่งตัวหล่อก็ได้ผูกเนกไทก็ได้ ไปเปิดงาน ตัดริบบิ้น แจกประกาศนียบัตร และแจกของ และเปิดการประชุม ไม่เห็นต้องทำงานอะไรเลย เอาเงินไปแจกคนแก่ เปิดอบรมสัมมนาว่าด้วยการจัดการศึกษาฟรี เรื่องที่เป็นหลักเป็นเกณฑ์ เรื่องสำคัญไม่เคยคิดไม่เคยทำ และทำไม่เป็น ใครก็เป็นนายกฯ ได้ ทีนี้ปัญหาคือว่า วันนี้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์พยายามจะโหมโฆษณาว่า เราน่าจะมีการยุบสภา เตรียมการเลือกตั้งหลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จ แก้รัฐธรรมนูญเสร็จแล้วจะมีการเลือกตั้ง ถามจริงๆ ถามพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ ผมขอถามว่า พี่น้องครับถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ พี่น้องรู้สึกว่าประเทศมีอนาคตและมีความหวังจากการเลือกตั้งหรือไม่ครับพี่น้อง มีไม่มี ผมคิดว่าพี่น้องทางบ้านคงจะมีคำตอบเช่นเดียวกัน ถามว่าถ้าเลือกตั้งใหม่ เสียเงินจัดการเลือกตั้ง ใช้งบประมาณกับ กกต. 5 พันล้านเพื่อจัดการเลือกตั้ง ดีไม่ดีอาจถึงหมื่นล้าน

และพรรคการเมืองแต่ละพรรค ส.ส.มี 500 คน แบบบัญชีรายชื่อ ถ้าเอาตามรัฐธรรมนูญใหม่ 125 คน แบบเขต 375 รวมแล้ว 500 พี่น้องครับถ้าแต่ละพรรค คิดต่ำๆ 500 คนจ่ายให้ ส.ส.คนละ 40 ล้าน ก็ 2 พันล้านแต่ละพรรค ค่าใช้จ่าย 2 พันล้าน ถ้า 5 พรรคก็หมื่นล้าน หมื่นล้านเฉพาะค่าใช้จ่าย แล้วยังมีค่าโฆษณา ค่าป้าย ค่าบิวท์บอร์ด ค่าแผ่นพับ แค่สปอต ค่ารถแห่ ค่าน้ำมัน ค่าอาสาสมัคร รวมแล้วศูนย์วิจัยกสิกรไทยเขาวิจัยเอาไว้ การเลือกตั้งครั้งหนึ่งเงินจะสะพัดไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านถึงแสนล้าน นี่ในการเลือกตั้งครั้งหนึ่ง คำถามคือ ประเทศเราจัดเลือกตั้งแต่ละครั้ง รัฐบาลออกไม่ต่ำกว่า 5,000-10,000 ล้าน แต่ละพรรคที่ใช้เงินหาเสียง ซื้อเสียง ไม่ต่ำกว่า 50,000-100,000 ล้าน แล้วพี่น้องลองคิดดู เมื่อเลือกตั้งกลับมาแล้ว พรรคการเมือง นักการเมืองพวกนี้จะทำอะไร ก็มาผสมพันธุ์กันเป็นรัฐมนตรี และหาทางโกงถอนทุนคืน แต่ละปีงบประมาณแผ่นดิน ปีนี้มีงบประมาณแผ่นดิน 2.25 ล้านล้านบาท เอาเฉพาะงบ เงินเดือนตัดออกไป งบประจำตัดออกไป ประมาณ 1.25 ล้านล้านบาท เหลืองบลงทุนอยู่ประมาณ 1 ล้านล้าน งบลงทุนหมายถึงงบก่อสร้าง งบจัดซื้อจัดจ้าง งบที่ใช้ในการประมูลงาน ตัดถนน พัฒนา ซึ่งเป็นงบค่าใช้จ่ายในการลงทุนของรัฐบาล 1 ล้านล้าน ถ้าทุจริต 30% ก็คือ 3 แสนล้านบาท แล้วการทุจริตขณะนี้ ตัวเลขที่เขาคำนวณ ไม่ว่า ป.ป.ช. ไม่ว่ากรรมาธิการการทุจริตสภา ไม่ว่าสถาบันวิจัยทีดีอาร์ไอ หรือ สกว. หรือสถานบันวิจัยของจุฬา การทุจริตของประเทศ ไม่เคยต่ำกว่า 30% และวันนี้มากกว่า 30% บางทีถึง 100% แต่ละโครงการ 200% ก็มี การทุจริตแบบนี้จะต้องผลาญงบประมาณไม่ต่ำกว่าปีละ 3-5 แสนล้านบาท นี่คือปัญหาของประเทศ คำถามคือ เราจะเลือกพวกนี้มาทำไม เลือกตั้งแล้วแผ่นดินเสียเงิน 3-4 แสนล้าน ได้นักการเมืองมาโกง การเมืองวนอยู่อย่างนี้ คำถามคือ เราจะเลือกตั้งไปทำไม เลือกตั้งเพื่อให้นักการเมืองเหล่านี้ฟอกความผิดตัวเอง แล้วกลับมาโดยมาอ้างกับประชาชนว่า ตัวเองมาจากการเลือกตั้งแล้วมาเป็นผู้ปกครองประเทศ เพราะฉะนั้นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ก็คือวิธีการฟอกความผิดของตัวเอง แล้วสร้างภาพให้กับตัวเอง แล้วอ้างกับประชาชนว่า ตัวเองมาจากตัวแทนประชาชน ทั้งๆ ที่ความจริงตัวเองมาจากการโกง การซื้อเสียง และการปล้นอำนาจของประชาชน

เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งจึงไม่ใช่ทางออก จึงไม่ใช่คำตอบ แต่ประเทศนี้มีนักการเมืองพวกนี้ที่อยากจะมีการเลือกตั้ง เพราะระบอบเลือกตั้งทำให้พวกเขา ทำให้กุ๊ย ทำให้อันธพาล ทำให้คนชั่วคนโกง สามารถกลับมามีอำนาจมีตำแหน่งรัฐมนตรีได้โดยชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ครับพี่น้อง ก็ยืมมือพี่น้องประชาชนไปลงคะแนน เสร็จแล้วก็อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถามว่า เมื่อคุณมาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้ว คุณทำอะไรให้กับประชาชน ประชาชนพูดคุณฟังไหม ผลประโยชน์ของประชาชนคุณเคยสนใจไหม ผลประโยชน์ของแผ่นดินคุณเคยสนใจไหม มันไม่เคยสนใจ มีแต่จะมาแบ่งกันกินแบ่งกันปล้นผลประโยชน์ของชาติ ของประชาชนครับพี่น้อง นี่คือสภาพของนักการเมืองในบ้านเราขณะนี้

เวลานี้มีคนเสนอทางออกเยอะว่า เอ๊ะประเทศไทยจะเลือกตั้งไปทำไม แล้วก็มีคนส่วนมากเห็นว่า เลือกตั้งไปก็ได้นักการเมืองชุดเดิมกลับมาเป็นรัฐบาลแล้วจะเลือกตั้งทำไมครับพี่น้อง ขณะนี้มีคนถามแบบนี้เยอะ ทีนี้ยังไม่มีคนมีความกล้าหาญพอที่จะเสนอทางออก เวลานี้ในหลายประเทศเขาไม่ยอมรับระบบการเลือกตั้งแบบนี้แล้ว รู้ไหมพี่น้องเขาทำอย่างไร เขาก็มีคณะกรรมการภาคประชาชนขึ้นมาแล้วรวมพลังกันปฏิวัติล้มล้างระบอบการเลือกตั้งอันโสโครก และไล่ผู้นำประเทศออกจากอำนาจ ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เขาบอกว่าถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการให้นักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกงครองเมือง ก็มารวมกลุ่มกันแล้วจัดการกับนักการเมืองพวกนี้ จึงเกิดการปฏิวัติในประเทศตูนิเซีย อียิปต์ ลิเบีย และลามไปในประเทศยุโรป ตะวันออกกลางหลายประเทศ ขณะนี้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลง และมันอาจจะลามมาถึงกัมพูชา ฮุน เซนด้วยครับพี่น้อง วันนี้อาจจะลามมาถึงประเทศไทยด้วย เพราะคนไทยรู้สึกว่า มีนักการเมืองพวกนี้ปกครองบ้านเมือง ทำไมเราจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของนักการเมืองอย่างนายอภิสิทธิ์ อย่างนายเนวิน อย่างนายสุเทพ อย่างนายบรรหาร อย่างนายสุวัจน์ ดูหน้าแล้วไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ ดูหน้าแล้วไม่เห็นมีคุณธรรมมีศีลธรรมมีจริยธรรมเลย ข้าราชการทำไมต้องโง่อยู่ใต้อำนาจของพวกนี้ ทหารทำไมจะต้องฟังคำสั่งนักการเมืองเหล่านี้ และพี่น้องประชาชนผู้มีความรู้ มีการศึกษา นักธุรกิจผู้มีอันจะกิน มีฐานะ ทำไมจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจนักการเมืองพวกนี้ ทำไมต้องต้องพินอบพิเทาหาเงินติดสินบน กราบไหว้พวกนี้เพื่อจะได้โครงการหรือผลประโยชน์ ถ้าประเทศนี้ไม่มีนักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกงพวกนี้ครองเมือง ประเทศน่าจะดีขึ้น แผ่นดินน่าจะสูงขึ้นใช่ไหมครับพี่น้อง เวลานี้จึงมีคนส่วนใหญ่กำลังคิดใช้สติปัญญา หารือปรึกษาร่วมกันว่า ทำอย่างไรจะจัดการนักการเมือง นักการเลือกตั้งที่มาจากการเลือกตั้งแล้วโกงบ้านกินเมืองให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทยเสียทีครับพี่น้อง

ถามจริงๆ ครับพี่น้อง ถ้ามีคนกล้าหาญกวาดล้างนักการเมืองพวกนี้ออกไปจากแผ่นดินพี่น้องเห็นด้วยไหมครับ สมมุติว่าประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลง มีการรวมกลุ่มประชาชน มีการรวมกลุ่มของคนที่รักบ้านรักเมือง รักชาติรักแผ่นดิน ระดมพี่น้องประชาชนขึ้นมาทั่วแผ่นดินมาผนึกกำลังแล้วจัดการกับรัฐบาลชั่วเหมือนอย่างประเทศอื่นกำลังทำกัน พี่น้องจะเอาด้วยไหม เอาด้วยหรือเปล่า นี่ผมกำลังยกตัวอย่างให้เห็นว่า ขณะนี้มีคนคิดแบบพวกเราเยอะขึ้นทุกวันครับ

พี่น้องรู้ไหม ถ้าเกิดวันหนึ่งมีการเป่านกหวีดแล้วนัดรวมพล แล้วบอกว่า ใครที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ออกมาแสดงให้มืดฟ้ามัวดิน พี่น้องคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ ผมว่าถึงวันนั้นนักการเมืองพวกนี้คงจะหาทางหนีไปกัมพูชาไม่ทัน

ทีนี้ขณะนี้มีคนคิดเรื่องแบบนี้อยู่เยอะ เพราะเรามาพูดข้อเท็จจริง พูดเหตุผล ให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลนี้ชั่ว โกง ขายชาติขายแผ่นดินอย่างไร มันก็หน้าด้านลอยหน้าลอยตา พูดจาไม่รู้เรื่อง แถมยังหาทางจะเล่นงานใส่ร้ายประชาชนอีกต่างหาก เมื่อเป็นอย่างนี้พี่น้องครับ เราจะไปพึ่งใคร พึ่งใครได้ในแผ่นดินนี้เพราะมีแต่คนโกงทั้งนั้นที่อยู่ในอำนาจ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า ผมทิ้งโจทย์ ทิ้งปริศนาไว้ให้ท่านว่า ต่อไปนี้ประชาชนจะต้องคิดอะไรมากกว่าการชุมนุม การประท้วง การเรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่แล้ว เพราะเราเรียกร้องจนคอจะแตก มันก็หน้าด้านหน้าหนาอยู่อย่างเดียวใช่ไหมครับพี่น้อง

ผมก็หวังว่าคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน หรือคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร พรุ่งนี้บ่าย 3 เขาจะประชุมหารือกัน และมีหลายกลุ่มกำลังประชุมปรึกษาหารือกันอยู่ว่า ถ้าเราปล่อยให้นักการเมืองชั่ว นักการเมืองโกงครองบ้านครองเมืองต่อไป ประเทศไปไม่รอดแน่ แล้วถ้าปล่อยให้เอาเงินภาษีของประชาชนไปเลือกตั้ง เพื่อหาความชอบธรรมให้กับตัวเองเพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เรายิ่งจะเหนื่อยหนักเข้าไปอีกครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ไหนๆ พ่อแม่พี่น้องออกมาร่วมชุมนุมกันแล้ว เราคงต้องหาทางจะปรึกษาหารือกันว่า ภารกิจในการปกป้องแผ่นดินเป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญ และเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเราอยู่แล้ว แต่เมื่อเราเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์มาทำหน้าที่ปกป้องดินแดน ปกป้องอธิปไตย มันไม่ยอมทำหน้าที่ ผมคิดว่าเราต้องหาทางเลือก ทางออกที่ได้ผลมากกว่านี้ใช่ไหมครับพี่น้อง

วันนี้พี่น้องฟังโจทย์ไปแล้ว พี่น้องใครมีความคิดดีๆ ส่งมานะครับว่า เราจะมีวิธีการร่วมไม้ร่วมมือจัดการกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างไร เพราะหากเราไม่รวมพลังกัน ไม่ผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่นมั่นคง และกว้างใหญ่ไพศาล อย่างเข้มแข็งแล้ว บ้านเมืองคงจะตกอยู่ในชะตากรรมที่ยากลำบากอย่างที่เราเห็น พี่น้องครับไม่ได้มีเพียงเราคิดนะครับ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน นักวิชาการ วันนี้ทุกคนพูดตรงกันหมดว่า นายอภิสิทธิ์ไปไม่รอดแล้วครับพี่น้อง แต่ปัญหาก็คือจะมีใครกล้าหาญออกมาเป็นผู้นำและพาประชาชนเปลี่ยนแปลงประชาชนและเปลี่ยนแปลงประเทศชาติบ้านเมือง เพราะระบอบการเมืองการเลือกตั้งแบบนี้ไม่มีวันจะพาชาติบ้านเมืองไปรอดครับพี่น้อง ผมคิดว่าถ้าใครมีความคิดที่จะล้มล้างระบอบการเมืองอันโสโครก ผมยินดีสนับสนุน ขอให้ใครที่คิดทำเพื่อชาติบ้านเมืองประสบความสำเร็จ และผมเชื่อแน่ว่า พี่น้องประชาชนที่นี่พร้อมจะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือ รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้านทั่วโลกทั่วประเทศด้วยใช่ไหมครับพี่น้อง พอผมพูดอย่างนี้มีคนเห็นด้วย และบอกว่ายินดีสนับสนุน พันธมิตรฯ ฉะเชิงเทรา เลยบริจาคสนับสนุนให้ ASTV 10,000 บาท

เอาละพี่น้องครับ ผมมาเป็นเพื่อนพี่น้องในยามที่ฟ้าฝนเป็นใจ คือทำให้พี่น้องไม่ร้อน ตั้งใจจะพูด 3 ชั่วโมง แต่กลัวว่าคนอื่นที่รออยู่จะไม่ได้พูด เลยขอพูดเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆ พรุ่งนี้จะมาคุยกับพี่น้องใหม่ วันนี้คุยกันแบบสบายๆ ภายใต้ฟ้าฝนและบรรยากาศ แต่ว่าโจทย์ที่ผมฝากพี่น้องไม่ใช่โจทย์เล็กๆ นะครับ เป็นเรื่องใหญ่ ผมเชื่อว่าเวลานี้นายอภิสิทธิ์กำลังหวั่นวิตกกับเรื่องนี้มาก ที่ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิบัติ 3 ข้อมันไม่ทำหรอก ตอนนี้ประชาชนเลยคิดว่าทำอย่างไรจะไล่ตะเพิดอภิสิทธิ์ออกไปให้พ้นจากแผ่นดินไทยครับ มันกลัวตรงนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเขาไม่ทำหน้าที่ 3 ข้อที่เราเรียกร้อง มันก็น่าจะหมดเวลาสำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้ว และเราคงจะต้องหามาตรการที่เข้มข้น เด็ดขาด เพื่อจัดการกับนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาล นักการเมืองที่โกง ทุจริตในชาติบ้านเมืองให้หมดสิ้นไป ผมยังไม่อยากจะบอกพ่อแม่พี่น้องว่า เรามีวิธีการโดยรายละเอียดอย่างไร รอให้พ่อแม่พี่น้องมากันเยอะๆ แล้วระหว่างนี้ใครมีความคิดอะไรดีๆ ช่วยส่งมาด้วยแล้วกันนะครับ เพื่อทำให้แนวคิดของเรามีความสมบูรณ์ ครบถ้วน รอบด้าน และเกิดประสิทธิผลประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นวันนี้พูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน และท่านผู้ฟังทางบ้านว่า พี่น้องครับ วันนี้ท่านอย่าหลงใหลได้ปลื้มกับเกมของนักการเมือง ไม่มีประโยชน์และไม่มีความหมาย นายอภิสิทธิ์กำลังจะชวนให้พี่น้องยืมมือพี่น้องไปชูให้ หรือไปหย่อนบัตรให้ความชอบธรรมกับเขา เพื่อให้เขากลับมาเป็นนายกฯ แล้วฟอกความผิดของเขา เราก็ไม่ควรไปร่วมมือและหลงกลในเรื่องนี้ ผมเชื่อแน่ว่าถ้ามีการเลือกตั้ง คราวนี้จะมีคนไม่ไปเลือกตั้งและงดออกเสียง อาจจะครึ่งค่อนประเทศครับพี่น้อง ถ้าเป็นไปได้ ประชาชนไม่ต้องการการเลือกตั้งเพื่อเอาคนโกงกลับมาปกครองบ้านเมืองอีกครั้ง เราจะทำอย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ ขอฝากเป็นการบ้านกับพี่น้องแล้วกัน วันนี้ผมมาพูดคุยกับพี่น้องยังไม่ลงลึกถึงเรื่องอื่นๆ มาเพียงทิ้งปริศนาและโจทย์ไว้ให้พวกเราช่วยขบคิด พรุ่งนี้เราจะมาคุยกันในแนวทางรายละเอียดเรื่องนี้กับพี่น้อง วันนี้กราบสวัสดี แล้วพบกันพรุ่งนี้ สวัสดีครับ"
กำลังโหลดความคิดเห็น