“สุเทพ” รับภาพชาวบ้านแย่งซื้อน้ำมันปาล์มไม่ดีต่อรัฐ สั่งทุกโรงพักจับตารวบพ่อค้าขายเกิน 47 บาท จี้โรงงานผลิตเต็มที่ โวคุยบิ๊กบอสห้างให้เลิกจำกัดจำนวนซื้อแล้ว ลั่นไม่ให้ขาดตลาด คนขายปาล์มได้ราคาดี โยนพาณิชย์ดูสินค้าแพง ให้ รมว.อุตฯ ดูน้ำตาล อ้างเพื่อนบ้านราคาสูงหมด เผยนายกฯ สั่งระวังวิกฤตอาหารโลก
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติให้สัมภาษณ์ถึงน้ำมันปาล์มที่ยังขาดตลาดในขณะนี้ว่า เมื่อวานได้เห็นภาพที่ห้างโลตัส จังหวัดพิษณุโลก ที่ประชาชนแย่งกันไปซื้อน้ำมันว่า ถือเป็นภาพที่ไม่ดีต่อรัฐบาล และได้มีการสั่งการไปแล้ว ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น พอรัฐบาลไม่จำกัดจำนวนซื้อ ก็มีการซื้อไปตุนกัน อาจจะซื้อไปขายต่อหรือไม่แบ่งกัน
“เท่าที่เห็นพบว่า ยังมีคนฉวยโอกาสในสถานการณ์นี้ ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ผมได้สั่งการไปที่ ผบ.ตร.แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพัก ทุกท้องที่ทั่วประเทศไทยไปดูว่าถ้ามีใครเอาน้ำมันไปขายต่อในราคาที่แพงกว่าลิตร 47 บาท ให้จับกุมดำเนินคดีได้ทันที และประชาชนสามารถร้องเรียนได้โดยตรงมาที่ผมหรือที่ รมว.กระทรวงพาณิชย์ หรือร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีเลยเพราะผมได้ตกลงกับ ผบ.ตร.แล้ว ให้ ตำรวจทุกโรงพัก ทุกพื้นที่ดูแลเรื่องน้ำมันด้วย” รองนายกฯ กล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า ขอย้ำว่าน้ำมันที่ผลิตจากโรงงาน ทุกโรงงานหลังวันที่ 22 ก.พ.ที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้มีการประชุมกันและมีมติ ถ้าเป็นน้ำมันปี๊ปก็จะมีแถบคาดสีชมพู ต้องขายลิตรละ 47 บาท ถ้าขายเกินกว่านั้นตำรวจจับได้เลย ส่วนน้ำมันถุงจะพิมพ์ตัวอักษรว่า T และ F และให้ดูวันที่ที่พิมพ์ ถ้าหลังวันที่ 12 ก.พ.มาแล้ว ใครขายเกินลิตรละ 47 บาท ถือว่าผิดกฎหมายถูกดำเนินคดีแน่นอน ส่วนน้ำมันขวดก็ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งคิดว่าหากมีการดำเนินการเช่นนี้คนที่ซื้อไปแล้วคิดจะไปหากำไร หรือขายต่อแพงๆ ก็ต้องคิดหนักเพราะอาจถูกดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากตำรวจมาช่วยดูตรงนี้แล้ว ทางกระทรวงพาณิชย์จะช่วยอะไรได้บ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องถามกระทรวงพาณิชย์ เพราะเป็นงานของเขา เราไปช่วยเขา ส่วนโรงงานที่ผลิตทั้งหลายตนได้ติดต่อตลอดเวลาว่าต้องผลิตให้เต็มที่ และเขายืนยันว่าทุกวันจะมีการผลิตน้ำมันปี๊บ น้ำมันถุง อย่างละ 5 แสนกว่าลิตร และน้ำมันขวดวันละประมาณ 1.2 ล้านลิตร เพราะฉะนั้นจะมีวางจำหน่ายได้ทั่ว บางห้างที่ยังมีปัญหาอยู่ตนก็โทรศัพท์คุยกับประธานบริษัทเหล่านั้นเอง ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจะดำเนินการให้เพียงพอ และจะนำป้ายที่เขียนออก
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีการแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มดิบแบบยั่งยืนเพื่อไม่ให้ขาดแคลนอีก เราจำเป็นต้องเพิ่มสต๊อกน้ำมันปาล์มอีกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน ก็กำหนดให้มีการตรวจสต๊อกทุก 15 วันหลังจากนี้ และตนจะประชุมให้ถี่ขึ้น ทั้งนี้ ในเรื่องน้ำมันปาล์มรับประกันได้ว่าจะไม่ให้ขาดแน่นอนและจะพยายามสร้างสมดุลให้ได้ เพราะนอกจากดูไม่ให้น้ำมันปาล์มขาดตลาดแล้วก็ต้องดูแลคนขายปาล์มให้ได้ราคาดีด้วย ต้องให้สมดุลกัน
เมื่อถามว่า ขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันมีราคาสูงขึ้นมา มันเป็นกลไกหรือกระทรวงพาณิชย์ทำงานไม่เต็มที่ นายสุเทพกล่าวว่า สื่อร้องตนมาเป็นชุดเลย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์จะต้องไปดูแล ตนได้รับมอบหมายให้มาดูเฉพาะบางเรื่องที่เป็นเรื่องวิกฤตเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาราคาสินค้าแพงทุกอย่างขณะนี้จะมีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องคะแนนเสียงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะยังไม่ได้ยุบสภา ยังไม่มีการจัดให้มีเลือกตั้งใหม่ ค่อยไปว่ากัน แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองเป็นเรื่องที่รัฐบาลกังวลใจ ซึ่งนายกฯ เองก็เป็นห่วงและติดตามเป็นพิเศษ ทั้งน้ำมัน น้ำตาลหรือไข่ไก่ ซึ่งก็พยายามดูว่าการขึ้นราคาของสินค้านั้น หากเป็นไปด้วยเหตุผลว่ามีต้นทุนแพงขึ้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่หากเป็นการฉวยโอกาสก็ต้องดำเนินการกัน โดยเฉพาะเรื่องน้ำตาล เมื่อวานทาง รมว.อุตสาหกรรมได้ชี้แจงต่อนายกฯ แล้วว่ามีปัญหาในเรื่องของต้นทุน และ รมว.อุตสาหกรรมรับที่จะไปแก้ไข ซึ่งสิ่งที่ต้องกังวลขณะนี้คือน้ำตาลในรอบๆ ประเทศบ้านเรามีราคาสูงขึ้นหมดแล้ว ดังนั้นก็ต้องดูด้วย เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจมีคนนำน้ำตาลในประเทศไปขายต่างประเทศได้ ก็จะยุ่งอีก
เมื่อถามว่า ข้าราชการทำงานแบบตั้งรับมากเกินไปหรือไม่ โดยเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชน ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ที่เตรียมตั้งรับไว้ก่อน ได้แต่ยกหูโทรศัพท์ ไม่ยอมลงไปสัมผัสจริงๆ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถพูดได้ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้แต่ยกหูโทรศัพท์ ไม่ไปสัมผัสด้วยตัวเอง แต่ตนก็เห็น รมว.พาณิชย์ พยายามออกไปเดินดูอยู่ แต่รัฐบาลก็คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น ส่วนเรื่องสินค้าเกษตรนั้น บางทีจะไปโทษกระทรวงเกษตรฯ เลยก็ไม่ได้ เพราะเมื่อรู้ว่าขาดปุ๊บ จะไปกดปุ่มให้ออกมาทันทีก็ยาก มันต้องใช้เวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุม ครม.ได้มีการหารือเตรียมความพร้อมกับการรับมือที่มีการเตือนว่าจะเกิดวิกฤตอาหารโลกขึ้นหรือไม่ ในฐานะประเทศผู้ผลิต นายสุเทพกล่าวว่า นายกฯ ได้พูดให้ผู้รับผิดชอบได้ระมัดระวังในเรื่องนี้อยู่แล้ว และเตรียมการอยู่แล้ว เราก็จะต้องดำเนินการตามแนวทางนั้น