“เทือก” โวจากนี้ไปน้ำมันปาล์มจะมีขายไม่ขาดตลาด

“เทพเทือก” อ้างเหตุน้ำมันปาล์มยังไม่พอจำหน่ายเกิดจากปัญหาการรับ-ส่งสินค้าของห้างร้านที่ยังตกลงเรื่องผลกำไรไม่ได้ ยันจากนี้ไปจะมีวางจำหน่ายเพียงพอต่อความต้องการ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ปาล์มน้ำมันที่ยังคงไม่ปกติอยู่ว่า ที่ผ่านมามีบางอย่างที่ขัดของอยู่บ้างในเรื่องของการรับ-ส่งของบางห้างบางร้าน เพราะตอนที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ คิดกำไรให้กับห้างต่างๆ นั้นก็คิดว่าให้กำไรขวดละ 3 บาทก็น่าจะเพียงพอ แต่เมื่อไปปฏิบัติก็มีข้อโต้แย้งกันบ้างเพราะเมื่อทางโรงงานส่งไปให้เขาถึงโกดังแหล่งรวมสินค้าใหญ่ ทางห้างเขาต้องรับภาระค่าขนส่งที่ต้องพาไปส่งยังสาขาต่างๆ ด้วย ทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้น เขาคิดว่าที่คณะกรรมการฯกำหนดให้ 3 บาทจึงไม่พอ ก็มีการต่อรอง และมีปัญหากัน

“ผมเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวานตอนเย็น ก็ได้พยายามอธิบายบรรดาห้างร้านต่างๆ ที่ยังข้องใจอยู่ได้เข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ แต่เป็นช่วงที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาให้ประชาชน ดังนั้นวันนี้ผมจึงเชื่อว่าทุกห้าง ทุกร้านจะวางขายน้ำมันได้ทั่วไปแล้ว”

ส่วนในเรื่องของกำลังผลิตนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้ตรวจสอบจนถึงเมื่อวานเย็นว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็จะมีน้ำมันปี๊บออกมาขายวันละประมาณ 5.9 แสนลิตร และยังมีน้ำมันถุงอีกเกือบ 6 แสนลิตรเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีน้ำมันขวดจำหน่ายอีกประมาณ 1.2 ล้านกว่าขวด ซึ่งดูแล้ววันละประมาณ 2.4 ล้านลิตร เพียงพอสำหรับการบริโภค ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนที่กำหนดจะยืมน้ำมันจากกระทรวงพลังงานนั้น ในที่สุดคณะกรรมการฯ เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องยืมแล้ว เพราะเมื่อกระทรวงพลังงานลดกำลังผลิตไบโอดีเซล จากบี 3 มาเป็น บี 2 ก็จะทำให้มีน้ำมันเหลืออยู่ในระบบเพียงพอที่จะซื้อเข้ามาสำหรับทำเป็นน้ำมันบริโภคซึ่งจะได้ทั้งหมด 1.5 หมื่นตัน ดังนั้นจึงถือว่าเพียงพอ

ส่วนที่กระทรวงมหาดไทยให้ประชาชนไปซื้อน้ำมันจาก อบต. ซึ่งถือเป็นการหาเสียงไปด้วย นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ตนไม่สนใจหรอกว่าใครจะไปทำอย่างไร ขอให้ประชาชนได้ซื้อน้ำมันในราคาที่ไม่แพง และมีเพียงพอก็แล้วกัน ส่วนที่ยังมีบางแห่งที่ยังไม่มีน้ำมันวางขายนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า เราก็สุ่มตรวจและให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนแจ้งมาบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาในเรื่องช่องทางการจำหน่ายอยู่ตรงไหน ทางกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานให้ทราบหรือไม่ หรือกระทรวงพาณิชย์เป็นตัวสร้างปัญหาเอง นายสุเทพกล่าวว่า เดี๋ยวกระทรวงพาณิชย์ก็โชคร้ายเท่านั้นเอง ความจริงไม่มีใครสร้างปัญหา ทุกคนก็ช่วยกันแก้ปัญหา แต่ก็ยอมรับว่าขั้นตอนที่ผ่านมาก็อาจจะมีตะกุกตะกักบ้าง เพราะเป็นมาตรการที่เราเข้าไปแทรกแซง ไปกำกับ ไปกำหนด ไม่ได้เป็นเรื่องการตลาดตามปกติ แต่ก็เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น

นายสุเทพกล่าวว่า ในวันที่ 8 มี.ค.จะประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มฯ เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าสถานการณ์การผลิตในประเทศมีน้ำมันปาล์มออกมาเท่าไหร่ และราคาเป็นอย่างไร และเราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็ว่าไปตามลำดับ แต่ตั้งแต่วันนี้ถึงประมาณกลางเดือน น้ำมันที่ซื้อมาจากต่างประเทศ รวมถึงน้ำมันที่ได้มาจากการหยุดผลิตไบโอดีเซล มีเพียงพอสำหรับผู้บริโภคแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงน้ำฝาสีฟ้า ที่ออกมาไม่ครบตามสต็อกที่กำหนดไว้ นายสุเทพกล่าวว่า อยู่ที่ดีเอสไอจะไปตรวจสอบ และดำเนินคดีได้เลยหากพบว่ามีความผิด โดยไม่ต้องรายงานมาที่คณะกรรมการปาล์มฯ แต่คณะกรรมการปาล์มฯ อาจขอข้อมูลบางส่วนจากดีเอสไอที่ไม่เกี่ยวกับรูปคดีเพื่อมาพิจารณาในภาพรวมว่าเกิดอะไรขึ้นและจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาน้ำมันปาล์ม รัฐบาลจะสามารถคลี่คลายได้ก่อนที่จะมีการซักฟอกจากฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปโยงกันเลย การแก้ปัญหาประชาชนก็เป็นเรื่องหนึ่ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่าหากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มได้ อาจทำให้น้ำหนักในการอภิปรายในสภาลดลงก็ได้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เรื่องการแก้ปัญหาให้ประชาชนจะไปรอให้เสร็จจากการอภิปราย หรือจะไปโยงกับการอภิปรายไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าในที่ประชุม ครม.วันนี้จะมีการหารือถึงราคาสินค้าอื่นด้วยหรือไม่ เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันอย่างอื่นโดยเฉพาะน้ำมันถั่วเหลืองก็ขอปรับราคาขึ้น อีกขวดละ 19 บาท นายสุเทพกล่าวว่า คงต้องฟังทางฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบจะดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่า แต่ครม.ทั้งหมดต้องร่วมกันรับผิดชอบอยู่แล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ถูกต้องแต่คนที่มีความรู้ และรับผิดชอบด้านนี้ก็ต้องรายงาน แต่ตนคงตอบแทนไม่ได้ แต่การที่นายกฯลงพื้นที่ไปดูปัญหาด้วยตัวเอง เพราะมีความเป็นห่วงและกังวลต่อปัญหาของประชาชน เมื่อสั่งการแล้วก็ไปติดตามดูว่าผลออกมาเหมือนที่รายงานให้ทราบหรือไม่