xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ยันน้ำมันปาล์มไม่ขาดตลาด สั่ง “เจ๊วา” คุมเข้มเพดานราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯ ยืนกรานกลางที่ประชุม ครม. น้ำมันปาล์มไม่ได้ขาดตลาด โพล่งแอบส่งทีมสำรวจร้านจำหน่ายทั้งใหญ่และเล็กพบว่ามีปัญหาด้านการกระจาย กำชับ “พรทิวา” ตรวจคุมเข้มเรื่องราคา และห้ามขึ้นกว่าที่กำหนด ด้าน รมว.อุตฯ โวน้ำตาลเต็มสต๊อกยันไม่ขาดตลาดแน่ สั่งความมั่นคงจับตาขนน้ำตาลออกนอกประเทศ

วันนี้ (1 มี.ค.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงพลังงาน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการน้ำมันปาล์มแห่งชาติ และในส่วนกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องการแก้ไขน้ำมันพืชขาดแคลน นายกรัฐมนตรีได้เล่าให้ที่ประชุมฟังว่าได้เดินทางไปสำรวจด้วยตัวท่านเองอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าในส่วนห้างใหญ่ๆ น้ำมันปาล์มถือว่ามีจำหน่ายอยู่ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังระบุว่าได้ส่งทีมล่วงหน้าเข้าไปแอบสำรวจก่อนเดินทางไปถึง เพื่อดูว่าการจำหน่าย การซื้อของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างไร ซึ่งท่านบอกว่าบางคนซื้อได้ขวดหนึ่ง บางคนซื้อได้ 2 ขวด แต่สรุปว่าไม่ขาดแคลน แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตคือว่าในส่วนของห้างขนาดเล็ก อย่างเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส ท่านบอกว่ายังไม่มีน้ำมันปาล์ม น้ำมันพืชจำหน่ายอยู่บนชั้น โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลร้านขนาดเล็กดังกล่าว ซึ่งชี้แจงว่าเป็นนโยบายภายในของบริษัทคือนำน้ำมันปาล์มไปวางในห้างขนาดใหญ่ ฉะนั้นจึงทำให้เกิดความขาดแคลนในห้างขนาดเล็ก นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปดูแล ไปเน้นการกระจายน้ำมันให้ทั่วถึง ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่ายังเป็นปัญหาจากการตรวจสอบ

นายวัชระกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการตั้งข้อสังเกตและการหารือโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งถึงปัญหาว่าขณะนี้ในส่วนของผู้ผลิตน้ำมันปาล์มน้ำมันพืช ยังไม่แน่ใจในเรื่องราคาจำหน่ายขนาดขวดเล็ก คือ ขวด 500 ซีซี เพราะเกรงว่าหากนำออกไปจำหน่ายแล้ว เพราะเมื่อรวมกัน 2 ขวด ก็จะเท่ากับ 1000 ซีซี หรือ 1 ลิตร จะเกินราคาที่รัฐตั้งไว้ คือ 47 บาท รมว.พาณิชย์จึงขอแนวทางจาก ครม.ว่าส่วนนี้นายกรัฐมนตรีจึงมอบนโยบายให้สามารถจำหน่ายได้ในขวดขนาด 500 ซีซี ในราคาเดิมที่เคยจำหน่ายก่อนที่จะมีปัญหา แต่ไม่ให้มีการฉกฉวยใช้ปัญหาการขาดแคลนในช่วงนี้มาบวกราคาเพิ่มขึ้น ดังนั้นเคยขายก่อนมีปัญหาเท่าไหร่ ก็ให้ขายในราคานั้น และมอบหมายกระทรวงพาณิชย์อย่างเข้มข้น

นายวัชระกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้มีการพูดถึงสถานการณ์ของน้ำตาล ซึ่ งรมว.อุตฯ ได้รายงานว่าขณะนี้ในส่วนของกระทรวงอุตฯเอง มีการเตรียมพร้อม และจัดเตรียมมาตรการต่างๆ รองรับถ้าหากขาดแคลนน้ำตาล และได้รายงานให้ครม.ทราบว่าปีนี้ปริมาณอ้อยมีจำนวนมาก ทั้งปริมาณและความหวาน ส่วนโควต้าน้ำตาลที่จะใช้ในประเทศจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 หรือ 28 ล้านกระสอบ รมว.อุตฯยืนยันว่ามีใช้เพียงพอแน่นอน และกระทรวงได้มีการตรวจเช็คสต๊อกน้ำตาลทุกวัน

นายวัชระกล่าวว่า รมว.อุตฯ ยังขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ให้ช่วยดูแลการลักลอบขนน้ำตาลจากภายในประเทศไปจำหน่ายในต่างประเทศ เพราะประเทศรอบๆประเทศไทยราคาน้ำตาลสูงกว่าประเทศไทยมาก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรม ประสานงานกันในการดูแลและควบคุมสภาวะปริมาณน้ำตาลและราคาอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ 1.บริษัทน้ำตาลราชบุรี จำกัดเปลี่ยนแปลงที่ตั้งโรงงานจากที่ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปที่ตั้ง ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และมีกำลังการผลิต 10,500 ต้นอ้อยต่อวัน นอกจากนี้นำกำลังการผลิต 9,500 ต้นอ้อยต่อวัน ไปตั้งใหม่ที่อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และขยายกำลังการผลิตเป็น 28,000 ต้นอ้อยต่อวัน 2.เห็นชอบให้บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลชลบุรี จำกัด เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ไปตั้งที่อ.หนองไผ่ จ.เพชรบุรี เปลี่ยนไป อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และมีกำลังการผลิต 36,000 ต้นอ้อยต่อวัน 3.เห็นชอบให้บริษัทรวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด นำกำลังการผลิต 8,000 ต้นอ้อยต่อวัน ไปตั้งใหม่ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย และขยายกำลังการผลิตเป็น 25000 ต้นอ้อยต่อวัน 4.เห็นชอบให้บริษัทอุตสาหกรรมโคราช จำกัด นำกำลังการผลิต4000 ต้นอ้อยต่อวัน ไปตั้งใหม่ที่อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ และขยายกำลังการผลิตเป็น 12,500 ต้นอ้อยต่อวัน 6.เห็นชอบให้บริษัทน้ำตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด นำกำลังการผลิตเป็น 2,000 ต้นอ้อยต่อวัน ไปตั้งใหม่ที่อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว และขยายกำลังการผลิตเป็น 12,500 ต้นอ้อยต่อวัน และ 7.เห็นชอบให้บริษัทไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรมจำกัด นำเครื่องจักรที่มีกำลังการผลิต 2,000 ต้นอ้อยต่อวัน ไปตั้งที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร และขยายกำลังการผลิตเป็น 12,5000 ต้นอ้อยต่อวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น