“จำลอง” ยันยังไม่เป่านกหวีด แม้ตำรวจเข้ายึดพื้นที่บางส่วน เห็นใจผู้ชุมนุมที่ต้องเหน็ดเหนื่อยและเสียเงินมาร่วม ย้อนถามเจ้าหน้าที่ทำไมไม่ไปเปิดเส้นทางจราจรหน้าบ้าน “อภิสิทธิ์” บ้าง หรือคิดที่จะกลั่นแกล้งพันธมิตรฯ ให้ถึงที่สุด รับเห็นใจ “วีระ-ราตรี” ที่ต้องรับทุกข์ในคุกแขมร์ โดยที่รัฐบาลไม่ทำหน้าที่ช่วยเหลือ ย้ำยุบสภาก็อยู่ต่อ เพราะข้อเรียกร้องคือปกป้องดินแดน
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ผ่านมา 36 วัน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจที่เจ้าหน้าที่เข้ายึดคืนพื้นที่เท่านั้น แต่ตนและคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ก็ได้กล่าวย้ำให้ทุกคนสบายใจ และผลัดเปลี่ยนกันเข้าร่วมการชุมนุมอย่างปกติ เพราะเห็นใจที่ผู้ชุมนุมหลายคนเหน็ดเหนื่อยเสียเงินเสียทองมาช่วยการชุมนุม อย่างไรก็ตามคิดว่าการทำของเราไปเช่นนี้ มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง และได้สื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับฟัง ส่วนจะเชื่อถืออย่างไรก็เป็นดุลพินิจของประชาชน
ส่วนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะมีการขอคืนพื้นที่บริเวณนนพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมของกองทัพธรรม และเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ พล.ต.จำลองกล่าวว่า เป็นไปได้ยาก เนื่องจากพื้นที่จำกัด และมีสิ่งของที่กีดขวางทางจราจรค่อนข้างมาก โดยตนเคยไปช่วยจัดการจราจรก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งยังมีผู้เข้าร่วมชุมนุมน้อย ก็สามารถเปิดการจราจรได้บ้าง แต่เมื่อมีคนมากขึ้นก็เป็นไปได้ยาก เพราะเส้นทางแคบ และมีโรงครัว เวที รวมไปถึงกิจกรรมหลายๆ อย่างที่มีมวลชนเข้าร่วมตลอดวัน จึงต้องอยู่อย่างอดทน และดูว่าเจ้าหน้าที่จะมาทำให้เกิดความยุ่งยากได้แค่ไหน แต่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ส่วนกรณีที่จะมีการจัดงานกาชาดช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่อาจจะต้องมีการเปิดพื้นที่การชุมนุมนั้น ตนเห็นว่ายังอีกนาน ถึงเวลานั้นอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งคาดเดากันก่อน
พล.ต.จำลองกล่าวว่า ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่าเหตุใดจึงต้องมากังวลกับพื้นที่ตรงนี้ พื้นที่อื่นเช่น หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี เหตุใดจึงไม่เปิดการจราจร คงต้องถามกลับว่าต้องการกลั่นแกล้งให้ถึงที่สุดเช่นนั้นหรือ ซึ่งการเปิดพื้นที่จราจรต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการที่เพิ่งเปิด ก็เกือบมีประชาชนถูกรถชน จึงต้องขอตำรวจว่าไม่สามารถกั้นรั้วเหล็กให้ประชาชนไม่สามารถข้ามไปใช้บริการห้องน้ำ
พล.ต.จำลองยังได้กล่าวถึงกระแสที่ระบุว่านายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ได้ลงนามขออภัยโทษต่อกษัตริย์กัมพูชาแล้วว่า ตนทราบตามข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผย โดยทูตไทยที่กัมพูชาบอกว่านายวีระและ น.ส.ราตรีได้ขออภัยโทษแล้ว แต่เราคงไปก้าวก่ายไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการตัดสินใจของครอบครัวทั้ง 2 คน ซึ่งทางเราก็มีการประชุมเป็นกลุ่มย่อยที่จะเข้าไปช้วยเหลือในการกดดันทางการกัมพูชาให้มีการปล่อยนายวีระ และ น.ส.ราตรี แต่ในฐานะภาคประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้มาก ไม่เหมือนรัฐบาลที่สามารถทำได้ เพราะมีเครื่องมือ และบทบาท แต่กลับไม่ทำตามที่เราได้เสนอ
“เราเห็นใจว่าเหตุใดทั้งคู่จึงโชคร้ายต้องติดคุกอยู่ที่กัมพูชาตั้งนาน สิ่งที่เราเสนอแนะให้รัฐบาลทำ แต่ก็ไม่ทำ จึงน่าเห็นใจโดยเฉพาะตามข่าวที่บอกว่านายวีระมีโรคประจำตัว เมื่ออยู่ในคุกที่ต่ำกว่ามาตรฐาน คงไม่ได้รับความความสะดวกในการหายาหรือหมอมารักษา” พล.ต.จำลองกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการยุบสภา แนวทางการชุมนุมของพันธมิตรฯจะเป็นอย่างไร พล.ต.จำลองกล่าวว่า หากมีการยุบสภาเกิดขึ้น เราก็ยังชุมนุมอยู่ที่นี่ เนื่องจากจะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งสามารถทำหน้าที่รักษาชาติบ้านเมืองได้ตามปกติ เพราะเวลาที่ผ่านไป ทำให้เสียเปรียบกัมพูชามากยิ่งขึ้น
“การที่จะยุบสภาหรือไม่นั้น แต่หากทำตามข้อเรียกร้องที่พันธมิตรฯ เสนอ ก็จะสามารถนำดินแดนที่เสียไปแล้วกลับมาได้ รวมทั้งป้องกันการถูกรุกรานในอนาคตได้อย่างยั่งยืน พันธมิตรฯไม่ได้มาชุมนุมให้มีการยุบสภา เพราะเจตนาของเราใหญ่กว่าที่ต้องการปกป้องดินแดน” พล.ต.จำลองกล่าว