“เทพเทือก” ลั่นหาจังหวะเข้าขอคืนพื้นที่จากกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ได้ทั้งหมด หลังประสบผลสำเร็จจากการสั่งตำรวจลุยรื้อเต็นท์จนได้ผิวการจราจรมา 2 เลน พร้อมชื่นชมตำรวจทำได้ตามคำสั่ง
วันนี้ (28 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 700 นายเข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ผิวการจราจรถนนราชดำเนิน หน้ากระทรวงศึกษาธิการ จากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมกันอยู่ว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (28 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการเปิดถนนคู่ขนานถนนราชดำเนิน หน้ากระทรวงศึกษาธิการ และพยายามจะเปิดต่อไป โดยได้เตรียมการมาหลายวันแล้วพยายามที่จะเปิดการจราจรบนนถนนราชดำเนินให้ลื่นไหลให้ได้ เพราะผู้ชุมนุมได้สร้างปัญหาให้ประชาชนที่ใช้ถนนราชดำเนินเดือดร้อนกันไปทั่วนานหลายวันแล้ว
ส่วนที่ผู้ชุมนุมเตรียมจะขนคนมายึดคืนถนนอีกนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่การชุมนุมที่ถูกต้องถ้าไปสร้างความเดือดร้อน กระทบต่อสิทธิเสรีภาพความเป็นอยู่ของประชาชนคนอื่น กฎหมายก็ไม่คุ้มครอง และไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติตามที่อ้างกัน ซึ่งมีคำวินิจฉัยของศาลเป็นแนวทางไว้อยู่แล้ว ส่วนพื้นที่ผิวการจราจรที่เหลือจะยึดคืนได้ทั้งหมดเมื่อไหร่คงประกาศล่วงหน้าไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดการต่อต้านกระทบกระทั่งกัน จึงต้องเลือกจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งซึ่งอาจจะกลายเป็นชนวนให้เกิดเหตุรุนแรงได้
“ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานด้วยความเหนื่อยยาก ลำบากเจรจาครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้ชุมนุมก็ไม่ค่อยยอม เมื่อคืนที่เข้าไปแก้ปัญหาได้ก็ต้องชื่นชมในระดับหนึ่ง ส่วนการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติบนถนนพิษณุโลกนั้นก็พยายามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเจรจา หวังว่าด้านถนนพิษณุโลกน่าจะเจรจาได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราไม่อะลุ้มอล่วยให้กลุ่มผู้ชุมนุม ตำรวจพยายามที่จะรักษากฎหมาย แต่หลีกเลี่ยงที่จะทำให้เป็นชนวนในการปะทะกัน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน อย่างไรก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงมากที่สุด แต่ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะกลัว ผบ.ตร.จะถูกย้าย คนละเรื่องกัน ผบ.ตร.ก็ทำงานของท่านดีที่สุดแล้ว”
