“พล.ต.จำลอง” ย้ำยังไม่ถึงเวลาเป่านกหวีด วอนมวลชนพันธมิตรฯ ไม่ต้องร่วมสมทบ ขอให้ผลัดเปลี่ยนมาทำหน้าที่อย่างปกติ ชี้ตำรวจจงใจรื้อห้องสุขาถือเป็นกลั่นแกล้งผู้ชุมนุม แย้มมีแผนยกระดับ มั่นใจแนวทางการต่อสู้จะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน เชื่อ ตร.จะไม่ขอพื้นที่ถนนพิษณุโลก
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ขอร้องให้ประชาชนที่ติดตามข่าวสารอยู่ที่บ้านว่า แม้ตำรวจจะเข้ายึดพื้นที่ก็ยังไม่ต้องมาสมทบกันเป็นพิเศษ ขอให้ผลัดเปลี่ยนกันมาตามปกติ เพราะยังไม่ถึงเวลาเป่านกหวีด ขอให้มวลชนออมแรงไว้ก่อน รวมทั้งยังแนะนำให้ผู้ปราศรัยบนเวทีหลีกเลี่ยงกล่าวเรียกมวลชนมาด้วย เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดอารมณ์เคียดแค้นชิงชังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ
ส่วนกรณีห้องน้ำที่อยู่บริเวณรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ตำรวจยึดคืนไปนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า ตามที่เจ้าหน้าที่เสนอให้มีการใช้รถสุขาของกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น ตนยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากรถสุขาของ กทม.ใช้ได้ไม่นานก็ส่งกลิ่นรบกวน ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอีก ดังนั้น ตนเห็นว่าห้องสุขาที่สร้างขึ้นมาสามารถใช้ได้สะดวกกว่า หากตำรวจจะเข้ามารื้อถอนห้องสุขาจึงไม่สามารถยอมได้ ถือเป็นการกลั่นแกล้งกันมาเกินไป ส่วนการเจรจาฝ่ายตำรวจนั้น หากต้องการสิ่งใดตำรวจคงต้องเป็นฝ่ายมาพูดคุยกับตน เพราะตนคงไม่มีอะไรไปร้องขอ
เมื่อถามต่อว่ารัฐบาลมีแนวโน้มที่จะขอพื้นที่ถนนพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และกองทัพธรรม เป็นเป้าหมายต่อไป พล.ต.จำลองกล่าวว่า ตนเคยไปช่วยจัดการจราจรในบริเวณดังกล่าวก่อนหน้าที่พันธมิตรฯ จะมาชุมนุม จึงคิดว่าการจัดการจราจรค่อนข้างยาก เนื่องจากมีมวลชนและสิ่งของค่อนข้างมาก รวมทั้งมีโรงครัวที่มีประชาชนเดินเข้าออกคึกคักตลอดทั้งวัน คงยอมให้เปิดการจราจรไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่าตำรวจจะใช้กำลังเข้าขอคืนพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการประเมินผลสำเร็จจากการชุมนุม 35 วันที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่า ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นระยะๆ แม้ 3 ข้อเรียกร้องจะยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาลก็ตาม แต่หากเราไม่ออกมาทำหน้าที่ บ้านเมืองจะเสียหายหนักกว่านี้ ในส่วนกรณีการยกระดับการชุมนุมนั้น มีแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม ยังคงมั่นใจว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะได้รับชัยชนะ แต่อาจจะต้องใช้เวลา เพราะไม่เราสามารถแพ้ได้ หากพันธมิตรฯ แพ้ ประชาชนไทยก็แพ้ไปด้วย
