“ทูตพิเศษยูเนสโก” ย้ำถอนพระวิหารจากมรดกโลกไม่ได้ ยูเนสโกจะรีบเข้าประเมินความเสียหายและซ่อมแซม หลังจากผู้สังเกตุการณ์จากอาเซียนเข้าพื้นที่แล้ว แต่ยูเนสโกจะยุ่งแค่เรื่องปราสาทไม่เกี่ยวเรื่องเขตแดน ด้าน “ฮุนเซน” ฟ้องไทยยิงปืนครกและปืนใหญ่ใส่ 400 ลูก ขอมรดกโลกเดินหน้าพิจารณาแผนบริหารจัดการในการประชุมที่บาห์เรน และขอให้ดึงไทยหารือความเสียหายของปราสาทพระวิหารที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโกในปารีส “สก อาน” ตอกย้ำอีกแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เป็นที่ยอมรับของนานาชาติส่วนแผนที่ของไทยไม่มีใครรู้จัก
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เผยแพร่ข่าวจากสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายโคอิชิโร มัตสึอุระ ทูตพิเศษของยูเนสโก กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะถอนปราสาทพระวิหารจากบัญชีมรดกโลก นายโคอิชิโรตั้งข้อสังเกตระหว่างการพบหารือกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
นายเอียง สุพัลเลธ โฆษกนายกรัฐมนตรีกัมพูชา อ้างคำกล่าวของนายโคอิชิโรว่า “ประเทศไทยมีความตั้งใจที่จะขอให้ยูเนสโกถอนการขึ้นทะเบียนปราสาท แต่ผมได้แจ้งต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกษิต ภิรมย์ ว่าการถอนปราสาทพระวิหารจากบัญชีมรดกโลกนั้นเป็นไปไม่ได้ในทุกทาง เพราะปราสาทพระวิหารมีคุณค่าเป็นสากลโดดเด่น”
“แหล่งมรดกโลกปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของยูเนสโก ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญยูเนสโกจะมาประเมินและซ่อมแซมปราสาทพระวิหารในอนาคต” นายโคอิชิโรบอกกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ขณะเดียวกัน ฮุนเซนได้แจ้งต่อนายโคอิชิโรว่า ทหารไทยได้ยิงกระสุนปืนครกและปืนใหญ่กว่า 400 ลูก เข้าใส่ปราสาทซึ่งทำความเสียหายอย่างรุนแรงต่อแหล่งมรดกโลก นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ขอไม่ให้คณะกรรมการมรดกโลกชะลอแผนบริหารจัดการในการประชุมประจำปีที่บาห์เรนในเดือนมิถุนายน
“แผนบริหารจัดการปราสาทโดยยูเนสโกของแหล่งมรดกโลกไม่ควรถูกละเลยเพราะการคุกคามของประเทศไทย” ฮุนเซนกล่าว และเพิ่มเติมว่า “ถ้าเราไม่รีบซ่อมแซมปราสาทพระวิหารจะตกอยู่ในอันตราย ยิ่งกว่านั้น มันจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีที่ว่าประเทศใหญ่สามารถคุกคามยูเนสโกไม่ให้สามารถบริหารจัดการและอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก”
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ อ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ระบุว่านายโคอิชิโรสนับสนุนจุดยืนของฝ่ายไทยที่จะชะลอแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารของกัมพูชา โดยในประเด็นนี้นายโคอิชิโรบอกกับผู้สื่อข่าวหลังเข้าพบว่า “ยูเนสโกไม่เข้าข้างประเทศใด ยูเนสโกเป็นกลาง”
สำนักข่าวข่าวด่วนกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 รายงานว่าระหว่างพบหารือกับนายโคอิชิโร มัตสึอุระ ทูตพิเศษยูเนสโก นายฮุนเซน ได้ขอยูเนสโกให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจังเพื่อปกป้องปราสาทพระวิหาร ซึ่งถูกทำลายอย่างรุนแรงจากทหารไทย นายฮุนเซนได้ขอให้มีการหารือระหว่างกัมพูชาและประเทศไทยกรณีความเสียหายของ ปราสาท และการหารือนั้นควรจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโกที่ปารีสพร้อมการเข้าร่วมของยูเนสโก
นายฮุนเซนได้บอกกับนายโคอิชิโร มัตสึอุระ ว่าข้อพิพาทพระวิหารไม่ได้มีต้นเหตุมาจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกตามที่ประเทศไทยกล่าวอ้าง แต่มีสาเหตุจากการรุกรานของ ไทยมากกว่า ขณะที่ นายสก อาน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเนื้อหาการพบพูดคุยและระบุว่านายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ยกประเด็นการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ของประเทศไทยด้วย
นายโคอิชิโร มัตสึอุระ บอกกับนายสก อาน ว่ายูเนสโกจะส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเสียหายของปราสาทพระวิหารโดยเร็วที่สุด หลังอาเซียนส่งผู้สังเกตการณ์เข้าประจำ พื้นที่พรมแดนไทย-กัมพูชา
นายโคอิชิโร มัตสึอุระ เดินทางถึงกัมพูชาช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยจะใช้เวลาเยือนกัมพูชาเป็นเวลา 3 วัน โดยได้เข้าพบนายสก อาน และนายฮุนเซน ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่สำนักนายกรัฐมนตรี และมีแผนเข้าพบกับนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศ ตลอดจนจะเข้าพบกษัตริย์สีหมุนี นอกจากนี้ เขามีแผนจะพบกับตัวแทนยูเนสโกประจำกัมพูชารวมถึงเจ้าหน้าที่ทูต การเดินทางเยือนของนายโคอิชิโร มัตสึอุระ มีเป้าหมายเพื่อหาหนทางในการปกป้องปราสาทพระวิหารซึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากประเทศไทย ซึ่งนายสก อาน ระบุว่าความเสียหายเหล่านี้เป็นอาชญากรรมทางวัฒนธรรมและศาสนา
ตามคำกล่าวของนายสก อาน รัฐบาลกัมพูชาได้จัดประชุมพิเศษเพื่อพิจารณาข้อเรียกร้องของประธานอาเซียน ให้นำเสนอรายงานความเสียหายของปราสาทพระวิหารก่อนการ เดินทางมากัมพูชาของผู้สังเกตการณ์อาเซียน นายสก อาน หวังว่าอาเซียนจะส่งผู้สังเกตการณ์มายังกัมพูชาโดยเร็วที่สุด ซึ่งยูเนสโกจะได้จัดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญมายังปราสาท
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า นายโคอิชิโร มัตสึอุระ ทูตพิเศษของยูเนสโก กล่าวในวันจันทร์ว่าปราสาทพระวิหารของกัมพูชาจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน หลังเกิดความเสียหายจากการปะทะทางทหารระหว่างกัมพูชาและประเทศไทยในข้อพิพาทพรมแดนแดนเมื่อวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์
ระหว่างการเข้าพบนายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานคณะกรรมาธิการยูเนสโกของกัมพูชา ในวันจันทร์ นายโคอิชิโรกล่าวว่า เมื่อผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียมาถึงที่พิพาทพรมแดน ยูเนสโกจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาประเมินความเสียหายโดยเร็วที่สุด “การซ่อมแซมปราสาทอย่างเร่งด่วนจะต้องดำเนินการหลังการประเมินความเสียหาย และยูเนสโกจะส่งผู้เชี่ยวชาญการซ่อมแซมมาซ่อมแซมปราสาท” นายโคอิชิโรกล่าว และเพิ่มเติมว่า “ยูเนสโกจะไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาพรมแดน แต่จะเกี่ยวข้องเฉพาะตัวปราสาท”
ขณะเดียวกัน นายสก อาน ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอแผนที่ซึ่งเป็นที่ยอมรับของนานาชาติเกี่ยวกับพรมแดนกัมพูชากับประเทศไทยให้แก่นายโคอิชิโร และได้แสดงแผนที่ซึ่งประเทศไทยบังคับใช้ฝ่ายเดียว ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
นอกจากนี้ นายสก อาน ได้แจ้งต่อนายโคอิชิโรถึงความเสียหายร้ายแรงของปราสาทพระวิหารที่เกิดจากกระสุนปืนครกและกระสุนปืนใหญ่ 414 ลูก ที่ตกในปราสาท “ดังนั้น กัมพูชาจำเป็นต้องเผยแพร่ข้อมูลนี้สู่ประชาคมนานาชาติ”