พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมอย่างคึกคักเหมือนเช่นทุกวัน เพื่อแสดงจุดยืนรักชาติอธิปไตย มวลชนทยอยเข้ารับฟังข้อเท็จจริง การบริหารงานของรัฐบาลทั้งภายในและภายนอกประเทศ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ประมวลภาพการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในวันศุกร์สุดสัปดาห์คึกคักเป็นพิเศษ มวลชนทยอยเพื่อรับฟังข้อเท็จจริง การบริหารงานของรัฐบาลทั้งภายในและภายนอกประเทศ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยในช่วงเสวนาปกป้องแผ่นดิน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวทิ้งท้ายไว้ดังนี้
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ทหารไทยเขาอึดอัด ในขณะที่เขมรค่อยๆสร้างถนนรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย พอไทยปะท้วงเขมร 10 ครั้งเขมรก็หยุด 1 ครั้ง แล้วก็สร้างต่ออย่างนี่้ไปเรื่อยๆ จนไทยปะท้วงถึง 121 ครั้ง ในที่สุดเขมรสามารถสร้างถนนจนเสร็จขนอาวุธขึ้นมายิงราษฎรไทยได้ ที่สำคัญ เวลาเราจะสร้างถนนบ้าง เขมรยิงใส่คนไทยทันที โดยอ้างแผนที่ 1:200000 ไทยก็หยุดทันที กระทรวงการต่างประเทศบอกอย่าไปทะเลาะกับเขาเดี๋ยวละเมิดเอ็มโอยู 43 นี่คือ ความอึดอัดที่สุดของทหารที่เขารักชาติ ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องทำสงครามเสมอไป มาตรการกดดันทาง การเมือง เศรษฐกิจ ก็ใช้ได้ถ้าไทยทำเป็น
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ ถาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า การมีเอ็มโอยู 43 ทำให้เราใช้ข้อสงวนสิทธิ์ไม่ได้ใช่หรือไม่ หาก นายอภิสิทธิ์ บอกใช้ได้ไม่เกี่ยวเอ็มโอยู 43 ให้ นายอภิสิทธิ์ ทำเลยครับไปทวงคืนเขาวิหารเลย ทำเหมือนตอนที่ท่านเป็นฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมัคร สุนทรเวช แล้วทหารจะได้ปฏิบัติหน้าที่ไล่เขมรออกจากประเทศไทย
พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ กรรมการพิทักษ์ทวงคืนเขาพระวิหาร กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล นักวิชาการไร้สันชาติ การขับเคลื่อนประชุมเจบีซี มติที่ประชุมอาเซียน และแรงกดดันประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ประเมินได้ว่า ไทยสูญเสียแผ่นดินรอบเขาวิหารไปเป็นมรดกโลก มีความเป็นไปได้ 90 เปอร์เซนต์แล้ว