การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคึกคัก ผู้เชี่ยวชาญอย่าง “สองเทพ” แห่งสันปันน้ำ ยังสรรหาประเด็นใหม่ๆ เกี่ยวกับเขาวิหาร มาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง ยันไทยเสียพื้นที่รอบเขาวิหารแน่แล้ว หวังนักวิชาการ ทหาร และนักการเมือง ที่ยังมีหัวใจรักแผ่นดินระดมสติปัญญาและพลังทวงแผ่นดินคืน
บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคึกคัก โดยช่วงแรกผู้เชี่ยวชาญอย่าง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม ยังสรรหาประเด็นใหม่ๆ เกี่ยวกับเขาวิหาร มาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง ต่อด้วยบรรดาแกนนำ ขึ้นมาเจาะลึกกับปมปัญหาเขาวิหารอีกที
ทั้งนี้ นายปานเทพ กล่าวทิ้งท้าย ว่า จากเดิมที่เราสู้ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ เพื่อให้รัฐบาลทวงคืนแผ่นดิน บัดนี้สถานการบานปลาย โดยมีประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ห้ามไม่ให้ไทยปะทะในพื้นที่เขมรยึดครองอยู่ วันนี้ถึงเวลาพิสูจน์ว่าตั้งแต่ใช้เอ็มโอยู 43 (1) เขมรรุกรานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน (2) เขมรสร้างถนน สิ่งปลูกสร้าง รุกล้ำเข้ามาในเขตไทย แล้วใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพยิงใส่ราษฎรไทย เป็นมูลฐานทำให้เรื่องนี้ถึงนานาชาติ (3) ในเวทีอาเซียนเราไม่ต่อสู้ว่า เอ็มโอยู 43 ไม่ได้หมายถึง แผนที่ 1:200000 ทำให้อาเซียนเข้ามาแทรกแซง และ (4) กัมพูชากำลังยื่นศาลโลกอีกครั้ง เพื่อบังคับให้ไทยยึดเอ็มโอยู 43 หมายถึงแผนที่1:200000 อย่างเดียว ในที่สุดเอ็มโอยู43 ทำให้ในทางปฏิบัติ ราชอาณาจักรไทยเสียดินแดนแล้ว
ความล้มเหลวรวมหมู่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดในสมัยนี้ และจากนี้รัฐบาลจะหลอกประชาชนต่อไป ว่า ยังจัดทำเขตแดนไม่สำเร็จ ตนตัดสินใจแล้วจะบันทึกรายชื่อทุกคนนับจากนี้ ใครก็ตามที่ลงมติรับรองบันทึกผลการประชุม รายชื่อของท่านจะต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ ว่า ทำให้ไทยเสียดินแดน อย่างไรก็ดี เราทำหน้าที่ตรงนี้อย่างถึงที่สุด อย่างน้อยแหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน เราไม่เสียชาติเกิด ในฐานะที่ได้เกิดเป็นคนไทย ได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด ถึงแม้เราเสียดินแดนไปแล้วแต่เราไม่เคยหมดหวัง ตนเชื่อว่า นักวิชาการ ทหาร นักการเมืองที่ยังมีหัวใจรักแผ่นดิน ต้องระดมสติปัญญาและพลังทวงแผ่นดินคืน
ส่วน นายเทพมนตรี กล่าวว่า อาจารย์ภาวาส บุนนาค เป็นข้าราชการในสำนักราชเลขา เมื่อท่านมีชีวิตอยู่ตนเคยไปทำงานอยู่กับท่าน อย่าบอกเพื่อนๆ ในสำนักราชเลขาทุกท่้าน ว่า เราไม่อยากต้องให้มาเสียดินแดนในสมัยรัชการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อาจารย์ภาวาส เคยบอกตนเสมอ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระคุณที่สุดในโลกนี้ จนก็อยากบอกท่านอาสา สารสิน หากพอมีแนวทางคุยกับทหารได้ ให้บอกว่า อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะประเทศนี้เสื่้อมทรามเหลือเกินแล้ว พรุ่งนี้ตนคงต้องลาออกในคณะกรรมธิการชุดนี้ เพราะไม่อยากเป็นที่ปรึกษาแล้ว เข้าไปพูดอะไรมันก็ไม่เคยฟัง ไม่ว่าประธานเจริญ คันธวงศ์ ดร.รัชดา ธนาดิเรก ล้วนแล้วแต่อยากให้ไปตกลงในเจบีซี มาถึงวันนี้ประเทศของเราไม่น่าเชื่อในรัชการนี้จะเสียแผ่นดินได้