xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ประชุมผู้ว่าฯเช็กความพร้อมประกันสังคมแรงงานนอกระบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มาร์ค” ปูพรมหาเสียงแรงงานนอกระบบ แจงแรงจูงใจ เงินสมทบ เงินชดเชย บำเหน็จบำนาญชรา จี้ถามผู้ว่าฯความคืบหน้าโครงการ ขณะที่แรงงานนอกระบบร้องนายกฯ ขยายอายุหาเสียงแรงงานนอกระบบ ด้าน รมต.แรงงาน วางเป้า 1 พฤษภา แรงงานนอกระบบเข้าถึงสิทธิ ขณะที่ ปชช.แนะจ่ายเงินประกันสังคมผ่านร้านสะดวกซื้อ ขยายอายุเป็น 65 ปี

วันนี้ (25 ก.พ) เมื่อเวลา 08.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นางอัญชลี เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ติดตามราชการของนายกรัฐมนตรีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ประเด็น การขยายประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ ไปยังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่จังหวัดสงขลา และไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วยจังหวัดสุราษฎรธานี สงขลา เชียงใหม่ แพร่ ขอนแก่น ชลบุรี และ นครปฐม

โดยนายกฯ กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมา เราพยายามขยายระบบประกันสังคมเพื่อคอบคุมพี่น้องประชาชนจำนวนมาก แต่เราสามารถบริหารจัดการได้แค่พี่น้องที่อยู่ในสถานประกอบการ แต่มีพี่น้องประชาชนกว่า 20 ล้านคน เป็นคนที่ทำงาน เปิดให้เข้าสู่หลักประกันสังคมได้ แต่ไม่มีแรงจูงใจ มีการแก้ปัญหามาโดยตลอด แต่การจ่ายเงินทั้งปี และปรับลดลงมาเป็น 280 บาทต่อเดือน แต่ก็ไม่จูงใจ มีปัญหาประชาชนจำนวนมากส่งเงินสมทบจำนวนนี้ไม่ได้ ไม่มีความชัดเจน่า ฝ่ายอื่นๆ ส่งสมทบอย่างไร การที่บอกว่ารัฐไม่สมทบยิ่งมองไม่เห็น ด้วยเหตุผลนี้เราได้ดำเนินการระดมสมองทุกหน่วยงาน ทำอย่างไรให้ระบบประกันสังคมเข้าถึงพี่น้องประชาชนที่ทำงานอิสระได้ เราได้ข้อสรุปทางเลือก 2 ทาง ทางแรกหากประชาชนสมทบเงิน 70 บาทต่อเดือน รัฐก็จะสมทบให้ 30 บาท รวมเป็นเบี้ยประกัน 100 บาทต่อเดือน ควบคุมสิทธิประโยชน์ 3 ด้าน เรื่องการชดเชยรายได้เมื่อเจ็บป่วย ได้สิทธิทุพพลภาพ และกรณีการเสียชีวิต ส่วนหากมีความประสงค์อยากได้บำเหน็จชราภาพ ขอให้จ่ายสมทบเดือนละ 100 บาท รัฐบาลอุดหนุน 50 บาท ก็จะได้เพิ่มเรื่องของบำเหน็จชราภาพ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังได้ข้อยุติตรงนี้ ตนได้ประกาศในช่วงปีใหม่ ทางรัฐบาล กระทรวงแรงงาน สำนักงงานประกันสังคม ได้เร่งรัดปรับกฎหมายระเบียบเพื่อสอดรรับนโยบายตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไปตราพระราชกฤษฎีกามาตรา 401 รวมไปถึงเรากำลังแก้กฎหมายประกันสังคม ที่อยู่ในขั้นของกรรมาธิการ มีการดำเนินการตรงนี้ให้เดินหน้าไปได้ และอาจมีประชาชนอาจต้องการหลักประกันเพิ่มเติมที่เราเรียกว่า เราก็ได้ไปแก้กฎหมายกองทุนเงินออม หรือบำเหน็จบำนาญประชาชน กอช. เป็นทางเลือกมากขึ้น ท่านรมว.แรงงานให้ความสำคัญ พยายามเร่งรัดกำหนดเป้าหมายให้สำเร็จ ในวันที่ 1 พ.ค.ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์ตรงนี้ได้ กว่าถึงตรงนั้นต้องมีการเตรียมการค่อยข้างมาก ให้ทาง ก.พ.ร.ไปพิจารณาเพิ่มกำลังให้กับประกันสังคม การให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ หัวใจอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะคาดหวังกระทรวงแรงงานอย่างเดียวไม่ได้ ขอความร่วมมือผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ วางรากฐานอำนวยความสะดวกในการโอนเงิน จ่ายเงินในโครงการนี้ และขอความร่วมมือเครือข่ายกระทรวงอื่นๆ อสม.ได้เริ่มต้นประชาสัมพันธ์

ขณะที่ รมว.แรงงาน กล่าวถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ว่า สิทธิประโยชน์ต่างๆ อยากให้คิดตรงกัน เป็นการเริ่มต้นสิทธิประโยชน์ สวัสดิการประชาชน ที่ไม่มีโอกาสเหมือนกลุ่มอื่นๆ อาจต้องมีการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ สวัสดิการเพิ่มมากขึ้นเบื้องต้นในกรณีที่จะต้องมีการจ่ายเงิน 100 บาท โดยให้ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท รัฐสมทบ 30 บาท จะได้กรณีเจ็บป่วย ที่มีการเข้ารักษาพยาบาลเป็นคนไข้ในโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 2 วัน โดยมีหลักเกณฑ์ได้รับวันละ 200บาท หนึ่งปีไม่เกิน 20 วัน ปี ผู้ประกันตนรับเงินตรงนี้ปีหนึ่งไม่เกิน 4,000 บาท ในกรณีทุพพลภาพ ก็จะได้รับตอบแทนทุกเดือนเป็นระยะเวลา 15 ปี เป็นเงิน 500 บาท และ 1,000 บาท ตามระยะเวลาที่ส่งเงินให้กับประกันสังคม ซึ่งต้องจ่ายเงินสมทบ 6 เดือนขึ้นไป กรณีเสียชีวิต มีเงื่อนไขต้องส่งเงินสมทบ 6 เดือนใน 12 เดือน ถ้าเข้าเกณฑ์ตรงนี้ จะได้รับเงินสมทบโดยไม่มีเงื่อนไข การเข้าระบบตรงนี้จะไม่สูญเสียสิทธิทางอื่น แม้กระทั้งกองทุนเงินออมแห่งชาติก็มีสิทธิเข้าสู่ระบบนั้นเช่นเดียวกัน

รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า ส่วนของการเข้าสู่ระบบในอัตรา 150 บาท โดยที่ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐสมทบ 50 บาท จะได้รับสิทธิเพิ่มในกรณีเงินชราภาพ รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพอายุ 60 ปีบริบูร และได้รับสิทธิจากรัฐครบถ้วน ไม่ถูกตัดสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด นี้คือมาตรการเสริม การดำเนินงานทั้งหมดจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน และองค์กรอื่นๆ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น บูรณาการทำงานร่วมกัน ทุกหน่วยงานต้องเป็นเจ้าของนโยบายตรงนี้เพื่อไปสู่เป้าหมาย สิ่งสำคัญสุดที่ทำให้โครงการนี้เดินไปหน้าได้ เราต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ว่า เงินที่ส่งไปได้อะไรกลับคืนมาบ้าง คุ้มค่ากับเงินที่ส่งไปหรือไม่ นื้คือความสำเร็จของนโยบายตรงนี้ นี้จะเป็นการเริมต้นสวัสดิการให้กับพี่น้องประชาชนเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ กระทรวงแรงงานประชุมเชิงปฏิบัติการ การมอบหมายเชิงปฏิบัติการไปสู่พื้นที่ โดยขอความร่วมมือ ธ.ก.ส. อสม.สาธารณสุข ประชุมดำเนินการเบื้อต้น ณ วันนี้ มีผู้ส่งใบสมัครแล้ว 10,000 คน จากการทำงานประมาณ 3-5 วันที่ผ่านมา

จากนั้นในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการ โดยส่วนใหญ่พูดถึงการประสานงานยังหน่วยงานในจังหวัด การสำรวจจำนวนแรงงานนอกระบบในจังหวัด และจำนวนของผู้ที่แสดงเจตจำนงในการเข้าโครงการ ปัญหา อุปสรรค และการประชาสัมพันธ์ ผ่านทางท้องถิ่น วิทยุชุมชน ระบุเป็นโครงการที่นำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น จัดแรงงานกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบ ง่ายต่อการ จะเกิดความเป็นธรรมใช้ภาษีให้กับผู้มีรายได้น้อย และจากการเอารัดเอาเปรียบ และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าสู่การบริการภาครัฐ

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับการประสานงานโครงการ หลายกระทรวงดูเครือข่ายที่มีอยู่ อย่างธนาคาร ธกส.ออมสิน รับทราบแล้ว สำหรับคนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง พ่อค้า แม่ค้า ในกรุงเทพฯเริ่มนำร่องจดทะเบียน เขตผ่อนผัน การเข้าถึงสินเชื่อ ปรับสภาพแวดล้อม แจ้งล่วงหน้าเมืองใหญ่ๆเป็นจุดเป้าหมายต่อไปในการขยาย การทำงานเรื่องนี้ส่งเสริมการออมไปในตัว ส่วนใหญ่สนใจสิทธิชราภาพ เรากำลังก้าวไปสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก ถ้าพี่น้องประชาชนสนใจทางเลือกที่ 2 เสริมความมั่นคงให้กับตัวเอง และคนในชาติด้วย ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนในการให้ความร่วมมือผลักดันนโยบายตรงนี้ การทำงานร่วมกัน การอำนวยความสะดวกมีหลายช่องทาง เวลานี้เรามักพูดประชาชนในเมือง แต่ประชาชนภาคเกษตรเข่าร่วม

ขณะที่ตัวแทนแรงงานอกระบบทั้ง 7 จังหวัด เรียกร้องรัฐบาลอยากให้มีการขยายการประกันตน จาก 60 ปี เป็น 65 ปี และผู้ที่เคยทำงานเป็นลูกจ้างมาก่อน 10 ปี ที่อยากทราบว่า มีเงินชราภาพเบิกได้ 55 ปี ทำตรงนี้แล้ว สามารถเบิกจ่ายเงินชราภาพ 60 ปี หากร่วมต้องเบิกจ่ายครั้งเดียว 60 ปีหรือไม่ ประกันสังคมที่ทำกับนายจ้าง รัฐบาลมีโครงการกู้ ชาวบ้านธรรมดารัฐจะให้กู้หรือไม่ นอกจากนี้ประชาชนยังได้สอบถามถึงกฎกติกาอายุอยากให้แรกเกิดไปถึง 100 ปี อยากให้เป็นแบบเดียว คือ 150 บาท และขอจ่ายเป็นรายปี เพราะไม่มีเงินเดือน ชลบุรี กล่าวว่า เงื่อนไขในการรับสิทธิ เงินชดเชย 200 บาท ต้องจ่าย 3 ใน 4 นั้น เงื่อนไขเวลาช้าไป อยากให้ลดเงื่อนเวลาลงมา และอยากให้จัดจุดการจ่าย โอนเงินให้ง่ายขึ้นอย่างร้านสะดวกซื้อ

นายกฯ กล่าว ข้อเสนอการใช้เครือข่ายร้านสะดวกซื้อ จะไปดู ส่วนเรื่องอายมีอุปสรรคข้อกฎหมาย อายุเกิน 60 ปีขอกลับไปหารืออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องของสิทธิชราภาพเบิกได้ 55 ปี สามารถรวมเบิก 60 ปีได้ ส่วนที่ขอเป็นรายปีได้ จ่ายล่วงหน้าไม่มีปัญหา ประชาชนที่อยู่ในหลักประกันสังคมแล้ว จะขอไปอยู่หลักประกันสังคมทั่วหน้า บัตรทอง เปิดโอกาสให้เลือกเลยหรือไม่ ต้องขอเวลา พี่น้องที่อยู่ในหลักประกันสังคมอยู่แล้วไม่ควรด้อยกว่า ขอรับไปดูเรื่องการรักษาพยาบาล เรื่องของการลดเงื่อนเวลาการจ่ายชดเชยก็จะไปดู ถ้าไปทำแล้วสามารถปรับได้ ก็จะมีการมาทบทวนกัน

นายกฯ กล่าวต่อท้ายว่า เรื่องการกู้เงิน อยู่ในประชาวิวัฒน์ส่วนหนึ่ง กระทรวงการคลังได้เริ่มแล้ว ต้องขอขอบคุณคำแนะนำ เราเพิ่มเริ่มต้นโครงการ อะไรที่จะปรับปรุงได้ จะดำเนินการต่อไป ขอชื่นชมความตื่นตัว ประชาชนคิดถึงอนาคตในการมีเงินออม มีหลักประกัน ทุกข้อเสนอแนะ ปัญหาที่สะท้อนมา เราจะพยายามที่จะทำความกระจ่าง เพราะทราบมาว่า มีบางที่เข้าใจ เมื่อมีการออมเพื่อการชราภาพแล้ว หากเกิดเสียชีวิต เงินจะหายไปไหนหรือไม่ ขอเรียนตรงนี้สิทธิตกเป็นของทายาท รวมไปถึงประชาชนที่มีสวัสดิการชุมชนอยู่แล้ว สิทธิตรงนั้นก็ว่าตามกระบวนการของกองทุนนั้นๆ ไม่ไปตัดสิทธิ หากประชาชนอยากมาสมทบตรงนี้ด้วยก็สามารถทำได้ นโยบายนี้เป็นความตั้งใจของเราจริงๆ ว่า ประชาชน 60 กว่าล้านคน เราจะมีคนที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า มีหลักประกันที่ดีไม่ถึง 1 ใน 3 วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะขยายไป ตนทราบดีปัญหาเฉพาะหน้าความเดือดร้อนในขณะนี้ เรื่องข้าวของแพง เงินรายได้ไม่พอเป็นปัญหาใหญ่ แต่เราต้องนึกถึงอนาคต หลักประกันที่ดี ส่วนปัญหาเฉพาะหน้ารัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปัญหาค่าใช้จ่ายของประชาชนในขณะนี้ ดูสินค้าที่ช่วยได้ อย่าง น้ำมันดีเซล การเพิ่มรายได้ต้องทำอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ได้มองข้ามเรื่องของอนาคต เรื่องของการออม และการสร้างหลักประกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น