“เรืองไกร” ถามรัฐทำกฎหมายวินัยการคลังเสร็จหรือยัง แนะเร่งพิจารณา ด้าน ส.ว.สงขลาฝากรัฐดูภัยแล้งซ้ำซากแบบจริงจัง
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนมีข้อหารือถึงรัฐบาลกรณีได้ทำหนังสือในนามกรรมาธิการของวุฒิสภา เมื่อวันที่ 25 ม.ค.54 สอบถามเรื่องการใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมัน โดยรัฐบาลได้จัดทำกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังตามรัฐธรรมนูญหมวด 8 มาตรา 167 วรรคสามเสร็จแล้วหรือยัง และกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งให้เอาเงินกองทุนน้ำมันไปสนับสนุนน้ำมันดีเซล เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสองหรือไม่
นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้ทำหนังสือตอบเมื่อวันที่ 9 ก.พ. โดยบอกว่าได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปพิจารณา จนขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ ตนได้ทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วยแต่ไม่มีคำตอบ วุฒิสภามีวาระการพิจารณาการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายได้ให้แผ่นดิน โดยต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 167 วรรคสาม และยังบังคับไว้ในมาตรา 170 วรรคสอง ที่เขียนไว้ชัดว่าต้องเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังฯ หากรัฐบาลยังไม่ตอบแล้วอ้างว่าใช้ตามวิธีการงบประมาณเป็นข้ออ้างที่อ้างไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นความผิดที่นำเงินไปใช้โดยไม่มีกฎหมายจึงขอให้เร่งพิจารณาเรื่องนี้เพื่อไม่ให้หน่วยงานเสียหาย
ด้าน นายประเสริฐ ชิตพงษ์ ส.ว.สงขลา กล่าวว่า ฝากถึงรัฐบาลหลังประเทศไทยผ่านภาวะวิกฤต มาถึงวันนี้กำลังมีข่าวว่ากำลังเผชิญปัญหาภัยแล้งโดยเริ่มมาให้เห็นแล้วที่ภาคเหนือบางส่วน และภาคกลางตอนบน อีกไม่นานจะถึงภาคกลางตอนล่าง จึงฝากถึงรัฐบาลให้ดูแลปัญหาภัยแล้งซึ่งเป็นภัยแล้งซ้ำซาก คณะกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภาเคยศึกษาเรื่องภัยธรรมชาติทั้งภัยแล้ง และอุทกภัย พบว่าประเทศไทยแม้จะเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่พื้นที่เกษตรกรรมมีระบบป้องกันภัยจากธรรมชาติแค่ร้อยละ 20 อีกร้อยละ 80 ยังต้องมีชะตากรรมกับการเจอภัยแล้งและภัยต่างๆ ซ้ำซาก รัฐบาลเพิ่งขอเงินกลางปีไปชดใช้เงินคงคลังที่ใช้ในการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย มาขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมตัวรับมือกับปัญหาในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะเป็นภาวะหนักอย่างไร ฝากให้รัฐบาลเตรียมตัวอย่างจริงจังเพราะหากเกิดภัยแล้งจะเกิดผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรในวงกว้าง รัฐบาลอาจนำร่างงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาพื้นที่การเกษตรและชุมนุมอันเนื่องจากภัยธรรมชาติ วุฒิสภา ไปศึกษาได้
