“สนธิ” เชื่อเวียดนาม-ลาวไม่กล้ายุ่งสงครามเขมร ขอให้รัฐบาลไทยเข้มแข็งไม่อ่อนข้อให้ “ฮุนเซน” ซ้ำทหาร-ประชาชนกัมพูชาที่ไม่พอใจผู้นำจะช่วยกันโค่นล้ม ระบุคนไทยเสียดินแดนในอดีตเพราะเทคโนโลยีสู้ฝรั่งไม่ได้ แต่เราเสียดินแดนให้เขมรเพราะนายทหารไม่มีใจ-เห็นแก่อามิส จวก “ไทยโพสต์” มั่วข่าวพันธมิตรฯ ไล่ทนาย “วีระ”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
เวลา 21.30 น. วันที่ 19 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานฯ ระหว่างการชุมนุม “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” โดยในช่วงเริ่มต้นได้ให้ผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลง “เราสู้” ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้นนายสนธิกล่าวว่า สาเหตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงย้ำในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ก็เพราะพระองค์ทรงทราบว่าสังคมไทยกำลังจะพ่ายแพ้ต่อพระเจ้าเงินตรา การที่พระองค์ทรงสั่งสอนให้พวกเรายึดหลักพอเพียงก็เพื่อไม่ให้เงินทองมาเป็นเจ้านายเรา แต่ด้วยเหตุที่พวกเราไม่ฟัง เงินตรามันจึงแทรกซึมเข้าไปทุกอณูของสังคมไทย ทั้งวงการทหาร วงการยุติธรรม จนบ้านเมืองมีวิกฤต ทั้งที่ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ยึดหลักพอเพียงแล้วอยู่ได้ ขณะที่ประเทศใหญ่ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา อีกไม่เกิน 2-3 ปีต้องล่มสลาย จนล่าสุดต้องยอมให้จีนเข้าไปซื้อบริษัทน้ำมันได้เป็นครั้งแรก ขณะที่ประเทศจีนเองก็มีปัญหา ต้องพยายามสร้างความสมดุลระหว่างคนรวยกับคนไม่มีเงิน จำเป็นต้องเปิดประเทศ เปิดการปกครองให้กว้างกว่าเดิม
นายสนธิกล่าวต่อว่า มีคนถามตนว่าหากเกิดสงครามชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาซึ่งมีข้อตกลงร่วมในการป้องกันประเทศกับเวียดนามและลาว ทางลาว-เวียดนามจะมารบกับไทยหรือไม่ คำตอบมีว่าลาวไม่มายุ่งแน่นอน ส่วนเวียดนามนั้นถ้าจะส่งกำลังทหารมารบกับไทยที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีระยะทางเกือบ 1 พันกิโลเมตร ต้องใช้เวลานาน คงมาไม่ได้ และเชื่อว่าเวียดนามจะไม่กล้ามายุ่ง ขอให้รัฐบาลเราเข้มแข็ง กล้าเผชิญหน้ากับนายฮุนเซน ขณะที่ในเขมรเองก็มีนายทหารที่ไม่พอใจนายฮุนเซนที่แต่งตั้งลูกชายตัวเองให้ขึ้นมาครองอำนาจ รวมถึงคนเขมรที่ไม่พอใจนายฮุนเซนจะลุกขึ้นมาโค่นล้มนายฮุนเซนในที่สุด ส่วนชายแดนทางตะวันตก เป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลพม่าสู้รบกับชนกลุ่มน้อย ไม่ใช่ปัญหากับเรา ชายแดนไทย-ลาว ก็ไม่มีปัญหา ทางใต้ ไทยกับมาเลเซียก็ไม่มีปัญหา จึงเหลือแต่นายฮุนเซนกับเราเท่านั้น
นายสนธิเปิดเผยอีกว่า ทหารที่เป็นเพื่อนรุ่นน้องหลายคนที่มียศ พ.อ. และ พล.ต.ได้มาเยี่ยมที่สำนักงาน และบอกว่า พวกเขาช้ำใจและเจ็บใจที่สุดในชีวิต ตั้งแต่เกิดมาทหารไทยยังไม่เคยสูญเสียศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ เนื้อหาในเพลงเราสู้นั้น บอกว่า “บรรพบุรุษของเราแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป” ก็เพราะว่าพระมหาษัตริย์ของเราในอดีตตลอดจนทหารหาญ รวมถึงประชาชนอย่างชาวบ้านบางระจัน ได้ต่อสู้กับศัตรูแบบยอมตายเพื่อบ้านเมืองเพื่อรักษาดินแดนเอาไว้ จนมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เราต้องเสียดินแดนก็เพราะว่าฝรั่งเอาเทคโนโลยีที่เหนือกว่ามารบกับเรา เราสู้เขาไม่ได้ไม่ใช่เพราะไม่กล้าสู้ แต่เป็นเพราะเราไม่มีเทคโนโลยีจะไปสู้เขา คำถามก็คือเราเสียดินแดนให้เขมรวันนี้ เพราะเรามีอาวุธยุทโธปกรณ์ด้อยกว่าเขาหรือไม่ ไม่ใช่ แต่เป็นเพราะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของเราไม่มีใจแค่นั้นเอง
นายสนธิกล่าวต่อว่า เนื้อเพลงเราสู้ท่อนต่อมาบอกว่า “ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย” ซึ่งไม่ใช่แค่มีที่ซุกหัวนอน แต่ต้องเป็นดินแดนที่สงบ บางครั้งเราต้องก่อสงครามเพื่อสันติภาพ เพราะเพื่อนบ้านเราไม่ดี เหมือนจิ๊กโก๋ข้างบ้านที่มันชอบเกะกะระรานเรา ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรมัน มันก็ได้ใจ ก็เหมือนกับเขมร ที่มันสร้างปัญหาให้เราอยู่เรื่อย ก็เพราะว่าเรามีทหารอย่างนายพลกุนเชียงที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง ถ้าเรามีนายพลไม้หน้าสามอยู่ มันก็ไม่กล้าแล้ว
“นี่คือคำพูดของทหาร เขาบอกผมว่า พี่...ผมเจ็บแค่ไหน ลำพังมีนายทหารอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผมก็อายจะตายอยู่แล้ว แต่ผมเป็นทหารก็ต้องมีวินัย ตอนนี้มีนายทหารที่ถูกเรียกว่านายพลกุนเชียง ผมยิ่งอาย และเสียใจมากที่คนอย่างนี้มาเป็นนายทหารได้ยังไง”
นายสนธิกล่าวต่อว่า วิกฤตบ้านเมืองวันนี้เป็นเพราะเราขาดทหารที่ซื่อสัตย์กล้าหาญ เป็นทหารที่เสียศักดิ์ศรี ทำให้บ้านเมืองเสียดินแดน แต่โชคดีที่เรายังมีประชานที่กล้าหาญ ขณะที่รัฐบาลก็ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อก่อนรัฐบาลจะไม่ให้ประชาชนมาเข้าคิวกันซื้อน้ำมันพืชแบบนี้ เขาต้องเด็ดหัวไอ้จรกาไปแล้ว วันนี้ตนคุยกับคนมา 10 คน ไม่มีคนไหนบอกว่าเศรษฐกิจดีเลย น้ำมันก็ขึ้นไปลิตรละ 30 กว่าบาท แต่ ปตท.ก็ยังได้กำไรมากเหมือนเดิม
นายสนธิกล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์พาดหัวข่าวว่าพันธมิตรฯ ไล่ทนายความนายวีระ สมความคิด ออกว่า เป็นเพราะหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ได้เงินจาก ปตท.และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภมาจึงเป็นแบบนี้ เปลว สีเงิน ไม่เคยพูดเรื่องคดีคลองด่านของนายสุวัจน์ ไม่เคยถามว่า ป.ป.ช.จะส่งฟ้องเมื่อไหร่ แล้วยังมาอ้างว่าเป็นปรมาจารย์ได้อย่างไร นายณฐพร โตประยูรนั้น ไม่ใช่ทนายของพันธมิตรฯ ทนายความของพันธมิตรฯ มีเพียงนายสุวัตร อภัยภักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ซึ่งเดิมนั้นเราขอให้ใช้ทนายความร่วมกัน แต่นายวีระขอหาทนายเอง แล้วนายณฐพรนั้นไปยื่นฟ้องศาลไหนก็ยกฟ้องหมด นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติจึงปลดนายณฐพรออก แล้วไทยโพสต์กลับไปพาดหัวข่าวว่าพันธมิตรฯ ไล่ทนายความนายวีระออก
นายสนธิกล่าวอีกว่า มีคนถามว่าทำไมพันธมิตรฯ ไม่เชิญ “หรั่ง ร็อกเคสตร้า” มาขึ้นเวที ซึ่งเวลาไปถามหรั่ง เขาจะบอกว่าเพราะพันธมิตรฯ ไม่เชิญเขามา แต่พอทีมงานเราโทรศัพท์ไปเชิญให้มา หรั่งกลับบอกว่ามาไม่ได้ ติดรับงานพรรคภูมิใจไทยอยู่ เพราะฉะนั้นวันนี้จึงเป็นการพิสูจน์ว่า ทุกคนที่มาอยู่ที่นี่จึงเหลือแต่พี่น้องที่รักกินจริงเท่านั้น วันนี้มาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตที่จะต่อสู้เพื่อแผ่นดิน ใครจะมาร่วมต่อสู้กับเราก็มาขึ้นเวทีได้ เรายินดี แต่ถ้ามาห้อยโหนพวกเรา แล้วไปพูดลับหลังว่าเราไม่สนใจ ก็ไปลงนรกเสียเถอะ เรื่องแบบนี่จะต้องพูดกันให้ชัด
นายสนธิกล่าวต่อว่า ขณะนี้เราไม่เข้าใจสังคมไทยและสื่อมวลชนที่ยังให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโกหกต่อไปและยังยอมรับอีก ทั้งที่ช่วงหลังนายอภิสิทธิ์ไม่กล้าตอบพวกเรา คราวก่อนก็บอกให้ยกตัวอย่างเรื่องที่เขาโกหก ตนก็ยกไป 20 เรื่อง ไม่เห็นตอบมาสักเรื่อง ระยะหลังนายอภิสิทธิ์จึงออกมาเป็นชุดภาษา เช่น พันธมิตรฯ ทำให้ประชาชนสับสน พันธมิตรฯ พูดจาเป็นเท็จทั้งสิ้น แต่ไม่ขยายความว่าเป็นเท็จอย่างไร เพราะเขาเถียงไม่ออก ขณะที่เรามีหลักฐานมัดตัวเขา
“สู้กับวิญญูชนจอมปลอมนี่พวกเราเหนื่อยกันมากครับพี่น้อง เพราะกว่าเราจะกระชากหน้ากากออกมาได้ มันต้องใช้เวลา และเป็นการวัดว่าใครจะอึดกว่า แต่เพื่อชาติบ้านเมืองแล้ว พวกเราถึงไหนถึงกัน” นายสนธิกล่าว