แพร่ - ครอบครัว “ธิน่าน” ที่ถูก ตร.สภ.ลอง ดำเนินคดีรวม 21 คดี ร้อง กกต.-ผู้บังคับการฯ-ผู้ว่าฯแพร่โวยตำรวจยึดบัตรประชาชนลูกชายนาน 2 ปีทำให้หมดโอกาสใช้สิทธิเลือกตั้งทุกระดับ
วันนี้ (26 มิ.ย.) นางจันติ๊บ ธิน่าน อายุ 48 ปีอยู่บ้านเลขที่ 157 /1 หมู่ 9 บ้านไผ่ล้อม ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ บอกว่า ได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธาน กกต.แพร่ เมื่อ 24 มิ.ย.54 ร้องเรียนว่า ตำรวจ สภ.ลอง จ.แพร่ ยึดบัตรประชาชนของนายดนุพล ธิน่าน ลูกชายของนางจันติ๊บ ไปนานถึง 2 ปีแล้วทำให้หมดสิทธิในการเลือกตั้งทุกระดับที่ผ่านมา และในครั้งนี้ต้องการขอความเป็นธรรมและต้องการใช้สิทธิในฐานะที่เป็นคนไทย ซึ่ง กกต.จังหวัดแพร่ได้รับเรื่องและนำเข้าสู่ฝ่ายสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
นางจันติ๊บกล่าวว่า ลูกชายพร้อมทั้งครอบครัวของตนถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลอง เป็นประจำและถูกดำเนินคดีทั้งครอบครัวรวมแล้วถึง 21 คดี นายดนุพล ธิน่าน ถูกคดีขึ้นบ้านตำรวจ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ลูกชายอยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดี แต่ตำรวจยึดบัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม เหรียญ ร.5 ไปเป็นของกลางในการดำเนินคดี ซึ่งบัตรประชาชนไม่น่าจะเป็นของกลางได้ จึงได้ไปทวงหลายครั้งแต่ พ.ต.ท.เฉลิมชัย จินดารัตน์ รอง ผกก.สภ.ลอง ไม่ยอมให้นานถึง 2 ปี จึงได้ขอร้องเรียนมายังคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพราะในวันเลือกตั้งลูกชายของตนไม่มีหลักฐานในการยืนยันต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่จะเข้าไปใช้สิทธิ์
กรณีดังกล่าวนอกจากเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของลูกชายแล้วยังทำให้ลูกชายต้องถูกลงโทษตามกฎหมายเลือกตั้งอีกด้วย ขอให้ กกต.จังหวัดแพร่ รับทราบและเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วน
หลังจากนางจันติ๊บ ธิน่าน ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง แล้วยังได้นำหนังสือดังกล่าวยื่นต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ และนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พ.ต.อ.วัฒนะ คณะเจริญ หัวหน้า สภ.ลอง ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงและให้นำบัตรประชาชนมาคืนโดยด่วน ซึ่ง พ.ต.อ.วัฒนะ คณะเจริญ เตรียมนำบัตรประชาชนของนายดนุพล ธิน่าน มามอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เพื่อส่งมอบให้เจ้าของบัตรต่อไปแล้ว
พระยงยุทธ ทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น ในฐานะประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์ชาวบ้าน หรือศูนย์ดำรงธรรมภาคประชาชน เปิดเผยว่า กรณีนางจันติ๊บ มีคดีที่ตำรวจมอบให้จำนวนมาก แต่ในคดีต่างๆ มีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น เช่น คดีเอาไปซึ่งทรัพย์ของกลาง ตามข้อหาตำรวจแต่เมื่อตำรวจจับกุมปรากฏว่าเอาสร้อยคอทองคำ เอาทรัพย์สินอื่นไปด้วย ถามว่าถูกต้องหรือไม่ อยากถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า การกระทำของตำรวจในจังหวัดแพร่ มีความผิดหรือไม่ในการเอาทองคำของชาวบ้านไป หรือกรณีเอาบัตรประชาชนเขาไปดองนานถึง 2 ปีเป็นความผิดหรือไม่ ถ้าเป็นความผิดกรุณาดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่างเพื่อหาทางนำไปสู่การปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไปพร้อมๆ กัน
