ผบ.สส.ยอดสุภาพบุรุษ ระบุจำเป็นต้องตอบโต้กัมพูชาที่ถล่มทหารไทยด้วยความปวดร้าว เตือนถ้าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต้องหยุดยิง โยนถามรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศในเรื่องการเจรจา
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติให้ทั้งไทยและกัมพูชายุติการยิงถาวร และให้มีการเจรจาแบบทวิภาคีว่า กองทัพมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างเต็มความสามารถ ส่วนเรื่องการเจรจาเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเจรจาตามกลไกทั้งการประชุมเจบีซี หรือการเจรจาในระดับทวิภาคี หรือเรื่องสนธิสัญญา กองทัพมีหน้าที่รักษาชีวิต ทรัพย์สิน ไม่ให้มีอะไรมากระทบต่อประชาชน เราปฏิบัติตามกฎการใช้กำลัง ปฏิบัติตามพันธกิจที่ได้ให้ไว้กับประเทศต่างๆ อย่างชัดเจน โดยเราจะใช้อาวุธเมื่อเกิดความจำเป็น หรือเห็นว่ามีภัยต่อทหาร ประชาชน ชีวิตทรัพย์สิน
“ขอเรียนว่าสำหรับเพื่อนบ้านเราจำเป็นต้องใช้อาวุธด้วยความปวดร้าว แต่เมื่อต้องทำก็ต้องทำอย่างจริงๆ ถ้าเพื่อนบ้านที่ดีคงจะต้องหยุด แต่ถ้าดำเนินการต่อแล้วมีผลกระทบต่อชีวิตประชาชน ทรัพย์สิน และหน่วยทหาร ขอเรียนว่าบนความปวดร้าวเราจะตอบโต้อย่างสมควร ซึ่งขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องอพยพคนออกมาก่อน เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนการเตรียมการไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องอธิปไตย การวางแผนพิทักษ์ประชาชน และการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังรวมถึงการควบคุมความเสียหายเป็นพื้นที่ ทุกอย่างเป็นขั้นตอน เป็นระบบ อย่ากังวลใจ ขอให้มั่นใจ”
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะให้ รมว.กลาโหมไทย และ รมว.กลาโหมกัมพูชาลงนามเพื่อหยุดยิง พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของกองทัพ ตนไม่พูดถึงการเจรจา จะเชิญใครไปคุยกับใครตนไม่ทราบ แต่อย่าสร้างความเสียหายให้ประชาชน เรารักเพื่อนบ้าน แม้ต้องตอบโต้บนความปวดร้าวทางจิตใจเราก็ต้องทำ ทางออกที่ดีคืออยู่ร่วมกันและพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกันสู่ความเจริญรุ่งเรือง
เมื่อถามว่าท่าทีไทยดูไม่ค่อยตอบโต้กัมพูชา พล.อ.ทรงกิตติย้อนถามว่า ใครบอกว่าไม่ได้ตอบโต้ แต่จะน้อยไปหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่เราทำด้วยระบบ ซึ่งทั้งสองฝ่ายทราบอยู่แล้วว่า ควรจะทำอย่างไร แต่ทหารไทยฟัง และมีวินัยในการยิง รวมถึงมีกฎการใช้กำลัง แต่ตนไม่ทราบเรื่องของประเทศบ้านอื่น
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่าแม่ทัพภาคที่ 2 มีผลประโยชน์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับการนำประเด็นทางการเมืองมาสู่กองทัพ กองทัพทำงานตามหน้าที่ คือทำงานด้วยความมั่นคง และด้วยความมั่นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่านิสัยที่ไม่ดีของกัมพูชา เราควรลดความสัมพันธ์ลงหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า พูดว่าใครนิสัยไม่ดีไม่ได้ ต้องดูตัวเรา และเพื่อนบ้านด้วย ส่วนจะลดความสัมพันธ์หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของตน ทั้งนี้เราไม่ลำบากใจต่อการปฏิบัติงาน เพราะหน้าที่ของเราถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ถึงไม่สั่งก็ต้องทำ ส่วนที่มีการมองว่าควรจะให้ปัญหามีการเจรจาแบบทวิภาคีดีกว่าจะให้ชาติอื่นเข้ามาแทรกแซงนั้น เรื่องนี้ต้องถามรัฐบาล กับกระทรวงการต่างประเทศ
