รมว.กลาโหม มอบนโยบาย 3 ข้อให้ ผบ.เหล่าทัพเร่งแก้ปัญหาชายแดน ยันสถานการณ์ไม่ขยายวงถึงขั้นทำสงครามระหว่างประเทศ ยังเชื่อตั้งคณะกรรมการปักปันเขตแดนปัญหาจบ อ้างถ้าแม่ทัพภาค 2 ไม่ไปคุยกับเขมรคงยิงกันมากกว่านี้
วานนี้ 7 ก.พ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าขณะนี้อยู่ในภาวะเรียบร้อยโดยกระทรวงกลาโหมให้นโยบายเหล่าทัพนำไปปฏิบัติ 3 เรื่อง คือ 1.ไม่รุกรานใครและเราต้องรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนเอาไว้ให้ได้ 2.เราต้องดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนตามแนวชายแดน 3.ต้องยึดมั่นในสนธิสัญญากฎบัตรระหว่างประเทศ และเอ็มโอยูปี 43 ซึ่งตนก็ให้เหล่าทัพนำนโยบายเหล่านี้ไปดำเนินการ โดยหน่วยปฏิบัติสามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งหากมีการละเมิดอธิปไตยก็ต้องดำเนินการตามนี้
เมื่อถามว่าขณะนี้ดูเหมือนกัมพูชาพยายามตอบโต้ไทย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า หากเขารุกล้ำอธิปไตยเรามา ทหารก็จำเป็นต้องตอบโต้ในการรักษาอธิปไตยของเรา โดยการตอบโต้จะตอบโต้ไปเฉพาะที่หน่วยทหารเท่านั้นจะไม่มีการตอบโต้ไปยังประชาชน เราจะไม่ยอมเสียพื้นที่หรือดินแดนให้แก่ใคร กองทัพก็ต้องดูแลในส่วนนี้ให้ดี ที่ผ่านมาถ้าพูดจากันไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะให้เราถอนทหารออกมาเราก็ทำไม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ให้กระทรวงมหาดไทยดูแลประชาชน อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
เมื่อถามว่า เกรงว่าจะขยายวงกว้างจนกลายเป็นสงครามหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นจะต้องรบกันจนกลายเป็นสงคราม ขณะนี้หน่วยทหารในพื้นที่ก็พูดจากัน แต่อาจจะมีการกระทบกันในบางจุดซึ่งก็คงจะต้องเร่งในเรื่องการประชุมจีบีซีเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนกรณีที่ทางกัมพูชาระบุว่าจะไม่เจรจากับประเทศไทย แต่จะให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมาแก้ปัญหา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในเรื่องของสหประชาชาติ และต่างประเทศ ทางเราก็ดูแลสถานการณ์ชายแดน
“ขณะนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ได้คุยกับแม่ทัพภาคของกัมพูชา ถ้าไม่พูดคุยคงยิงกันมากกว่านี้ คงยิงกันตลอดเวลาไม่มีเวลาหยุดยิง ซึ่ง ทางผบ.เหล่าทัพคงประชุมหารือเพื่อนำแนวนโยบายนี้ไปดำเนินการในการแก้ไขปัญหา ขอยืนยันว่ากองทัพพร้อมจะดุแลและรักษาอธิปไตยของประเทศไว้อย่างเต็มที่ รวมถึงการดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” พล.อ.ประวิตรกล่าว