xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้ยูเนสโกทำ จม.ขอมาพระวิหาร ฉะส่งทูตดูปราสาททำตึงเครียด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” ชี้ยูเนสโกส่งทูตเช็กปราสาทพระวิหารทำสถานการณ์ตึงเครียด แนะคุยให้เคลียร์ก่อน เล็งส่งข้อมูลเพิ่ม จี้ถ้ามาต้องทำหนังสือขออนุญาต ปัดฝรั่งฟังแขมร์มากกว่า อ้างเป็นเหตุทำไทยถอยไม่ได้ มั่นใจไม่ดึงเป็นหาสู่สากล เชื่อถ้าทุกองค์กรชัดให้กลับมาคุยก็คงถกเจบีซีต่อ คาดดันกรอบเจรจา 3 ฉบับได้ใน 2-3 สัปดาห์ เว้นแต่ถูกส่งศาล รธน.ตีความ



วันนี้ (13 ก.พ.) ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงกรณีที่ยูเนสโกยืนยันที่จะส่งทูตพิเศษเดินทางมาตรวจสอบบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหารว่า ตนคิดว่าขณะนี้มีการประสานงาน โดยเราก็จะให้ข้อเท็จจริงต่างๆ ก็ยังยืนยันและแนะนำว่ามันจะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดเปล่าๆ ฉะนั้น ขณะนี้มีปัญหาอะไรน่าจะมาพูดคุยกับทุกฝ่ายให้เรียบร้อยก่อนในการที่จะเอาข้อมูล คือเราก็เข้าใจว่าเขาอยากจะได้ข้อมูลอยากทราบว่าในพื้นที่เป็นอย่างไร แต่ขณะนี้เขาก็ต้องตระหนักว่าเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้น ฉะนั้น การดำเนินการอะไรต้องคำนึงถึงความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่านที่เดินทางไป และประธานเจบีซีได้มีการสื่อสารและตนก็จะทำเพิ่มเติม

เมื่อถามว่า เขามีการทำหนังสืออย่างเป็นทางการขอมาอนุญาตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังเลย เมื่อถามต่อว่า ถ้าเขามาต้องทำหนังสือหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ควรจะ เมื่อถามว่า ท่าทีของเขาที่ออกมาลักษณะนี้เหมือนฟังกัมพูชามากกว่าไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็มีทั้ง 2 ทางในขณะนี้ ส่วนที่มองเห็นว่าความตึงเครียดที่มาจากผลพวงตรงนี้ก็มี แต่ว่าก็เป็นธรรมดาเมื่อเขาไปรับจดทะเบียน เขาก็ต้องอยากจะรู้ว่าผลกระทบในพื้นที่เป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า พฤติกรรมของผู้อำนวยการศูนย์มรดกโลกเรายังมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหนว่าเขาจะเป็นกลาง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราต้องให้ข้อมูลไปเรื่อยๆ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจะต้องเดินหน้าทำความเข้าใจในเวทีระหว่างประเทศ เราถอยไม่ได้เลย เพราะกัมพูชาเขาก็ต้องเดินหน้า เราก็ต้องเดินหน้าในการทำความเข้าใจ เมื่อถามว่า วันนี้นายกฯยังมั่นใจที่จะสามารถยับยั้งความพยายามที่จะยกระดับปัญหาไปสู่สากล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมั่นใจเพราะขณะนี้อาเซียนได้แสดงท่าทีชัด คืออาเซียนคิดว่าถ้าจะมีคนอื่นนอกจากเรากับกัมพูชา ก็มาในฐานะที่สนับสนุนให้มีการพูดคุยกัน และอาเซียนแสดงจุดยืนนี้ บทบาทนี้ และยังได้มีการนัดประชุม ฉะนั้น ในอาเซียนด้วยกันก็ต้องเป็นเวทีแรกที่จะต้องดูแลกัน

เมื่อถามว่า การที่เขาแจ้งว่ามาจะขอเลื่อนการถกเจบีซีไปโดยไม่มีกำหนด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาต้องทำอยู่แล้ว เพราะว่าเขาต้องการจะไปพูดกับคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติว่าไม่สามารถใช้กลไกทวิภาคีได้ นี่เป็นแนวทางกัมพูชาชัดเจนอยู่แล้ว แต่เรายืนยันว่าเจบีซียังมีอยู่ และเราพร้อมที่จะคุย อาเซียนแสดงจุดยืนว่าอยากให้เราคุยกัน 2 ฝ่าย เมื่อถามว่าอะไรที่จะทำให้กัมพูชากับมาสู่โต๊ะเจรจาแล้วใช้ช่องทางทวิภาคี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าทุกองค์กรแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรกลับมาคุยทวิภาคี โดยอาจจะมีคนช่วยประสานงาน อำนวยความสะดวกให้ แต่เนื้อหาสาระก็ต้องว่ากัน 2 ฝ่าย

เมื่อถาม เป็นห่วงเรื่องมหาอำนาจจะไปหนุนหลังกัมพูชาในเรื่องนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราพยายามพูดคุยทำความเข้าใจกับทุกประเทศ เมื่อถามว่า เขามองข้ามการเจรจาทวิภาคีไปหรือยัง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยัง อาเซียนได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าสนับสนุนให้ 2 ฝ่ายคุยกัน และตนมั่นใจว่าสหประชาชาติต้องมองเห็นอย่างนั้น เมื่อถามว่า กัมพูชาขอเลื่อนตกลงว่ามีจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนทราบตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาไปปราศรัย แต่ตนคิดว่าเป็นเรื่องการเดินเกมของเขาอย่างชัดเจน เพราะถ้าวันนี้เขาตอบรับมา เขาก็ไม่มีอะไรไปพูดที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เขาไปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อจะไปบอกว่าเขาไม่มีทางที่จะได้คุยในระดับทวิภาคี เมื่อถามว่า ได้ทำหนังสือเป็นทางการหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มี ยังไม่ได้รับ

เมื่อถามว่า ในมุมกลับกัน เจบีซีอาจจะเป็นประโยชน์ในเรื่องของช่องทางทวิภาคีที่จะเจรจาระหว่างกัน แต่มันเหมือนกดดันไทยในการเร่งรัดผลักดันเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ต้องยอมรับว่ามันมีกระบวนการของสภา และบันทึกการประชุมเจบีซีมันก็ช้าค้างมา 2 ปีกว่า แต่ทราบจากประธานกรรมาธิการว่าเราสามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ในอาจจะใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า จริงๆแล้วกระบวนการมันก็เดินต่อ เพียงแต่กัมพูชาคงจะไปร้องว่ามันช้าเหลือเกิน เมื่อถามว่า หากภายในประเทศต้องมาเดินทางเรื่องนี้ต่อ การทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมที่เขาคัดค้านอยู่จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา คือกระบวนการในการเจรจาในตัวของมันเองไม่เป็นปัญหา นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งถูกอ้างว่าต่อต้าน จริงๆ เขาไม่ได้ต่อต้าน เพียงแต่ว่าเขาขอให้มีความชัดเจนเท่านั่นเองว่ากระบวนการเจรจาของประเทศไทย ไม่ไปยอมรับสิ่งที่ไม่ควรจะยอมรับและขอให้ยึดประโยชน์ของประเทศ เช่น บริเวณนั้นให้ยึดเรื่องสันปันน้ำ เขาก็คิดเท่านี้ แต่การเจรจาต้องทำได้ เพราะถ้าไม่ทำก็ยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อวานตนได้ย้ำไปแล้วว่าก่อนหน้านี้มีคนไปแสดงความคิดเห็นว่าไม่ต้องไปกลัวหรอกเรื่องของประเทศอื่น องค์กรอื่นเข้ามาไม่ได้ วันนี้มันก็พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง พอมันเกิดเหตุขึ้นในโลกสมัยใหม่ ทุกองค์กรก็วิ่งเข้ามา จะด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่ ฉะนั้นเราต้องระมัดระวังและสามารถปกป้องประโยชน์ของประเทศ แต่ต้องมีความรอบคอบในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่า ผู้คัดค้านคิดว่าเจบีซีทำให้ประเทศเสียเปรียบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้โดยที่เราต้องเอาบันทึกข้อตกลงเข้าทุกครั้ง และแม้กระทั่งจะมีข้อตกลงอะไรก็ต้องมาผ่านสภา ก็สามารถที่จะตั้งข้อสังเกตในคณะกรรมาธิการของรัฐสภา เข้าใจว่ามีการเชิญผู้เชี่ยวชาญ ที่ร่วมอยู่ในการเคลื่อนไหวตรงนี้ด้วย เราก็บอกแล้วว่าให้รวบรวมข้อสังเกตมาทั้งหมดแล้วนำเสนอต่อสภา เมื่อถามว่า แต่ตอนนี้บันทึกทั้ง 2 ฉบับกรรมาธิการมีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้ไป เห็นว่ายังมีปัญหาอยู่ ประธานสภาได้ทักท้วง หรือสอบถามเพิ่มเติมมาว่าตัวญัตติมีปัญหาอะไร เป็นเรื่องของผู้เสนอญัตติกับทางประธาน เท่ากับว่าตอนนี้ยังไม่มีการส่ง ส่วนจะไม่ส่งแล้วหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับประธาน และผู้เสนอญัตติ

เมื่อถามว่า หากยังมีปัญหาอยู่อย่างนี้ แล้วที่บอกว่าจะผลักดันกรอบเจบีซีได้ภายใน 2-3 สัปดาห์จะทำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยกเว้นถูกส่งไป แล้วถูกระงับ แต่โดยข้อเท็จจริงการประชุมเจบีซียังทำได้อยู่ ไม่ได้ต้องรอ เพียงแต่ก่อนหน้านี้กัมพูชาแสดงท่าทีว่าถ้าประชุมแล้ว บันทึกไม่ได้รับการรับรอง เขาก็ไม่อยากประชุม เขาก็กังวลว่าประชุมแล้วมันก็ย้อนกลับมาประชุมใหม่ แต่เรายืนยันได้ว่าสามารถเดินได้
กำลังโหลดความคิดเห็น